fbpx

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive Speaker

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive Speaker

ลำโพง Passive เป็นลำโพงที่ไม่มีภาคขยายเสียงในตัว จำเป็นต้องใช้เครื่องขยายเสียงภายนอกเป็นตัวขับเสียง ลำโพง Passive มีข้อดีหลายประการเพราะราคาไม่แพง ลำโพง Passive มีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับลำโพง Active เนื่องจากไม่มีภาคขยายเสียงในตัว อีกทั้งมีความยืดหยุ่นสูง ลำโพง Passive สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องขยายเสียงได้หลากหลายยี่ห้อ และหลากหลายรุ่น ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงในการเลือกใช้งาน ซึ่งสามารถอัพเกรดเครื่องขยายเสียงได้ ลำโพง Passive สามารถอัพเกรดเครื่องขยายเสียงได้ในอนาคต ทำให้สามารถปรับปรุงคุณภาพเสียงให้ดีขึ้นได้ ใครที่กำลังหาลำโพง Passive ใช้งานระยะยาวต้องโดนซีรี่ย์นี้เลยครับ ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive speaker จะมีคุณสมบัติอย่างไรไปดูเลยครับ

ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive Speaker

ตู้ลำโพงแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive speaker ตัวตู้ลำโพงผลิตจากไม้อัดเบิร์ช (Birch Plywood) เป็นไม้อัดประเภทหนึ่ง ผลิตจากไม้เบิร์ช (Birch) ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งและมีเนื้อละเอียดทำให้งานไม้มีความเนียนเรียบสวยงาม อีกทั้งยังแข็งแรงทนทาน ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทนต่อความชื้น และเชื้อรา ไม่ผุกร่อนง่าย ที่ยิ่งไปกว่านั้นน้ำหนักเบา ไม้อัดเบิร์ชมีน้ำหนักเบา ทำให้งานไม้มีน้ำหนักเบา และสะดวกในการเคลื่อนย้าย

ทาสี Rhino Rock ทนต่อรอยขีดข่วน

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive speaker ทาสีแบบ Rhino Rock ผลิตจากอะคริลิกแท้ 100% เพิ่มความทนทาน ทนต่อรอยขีดข่วน ทนต่อความชื้น และทนต่อรังสียูวีอีกทั้งยังช่วยปกปิดพื้นผิวได้ดีเยี่ยมเพิ่มผิวเรียบเนียนสวยงาม ซึ่งสามารถทำความสะอาดได้ง่ายด้วยน้ำเปล่า และผ้าสะอาด โลโก้ Wharfedale Pro สวยงาม

การออกแบบ Crossover ใหม่

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive speaker ภายในของรุ่น Delta-X มีการออกแบบและสร้าง crossover ใหม่โดยใช้ตำแหน่ง และการเสริมของชิ้นส่วนใหม่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ crossover ที่มีความไวกว่าเดิมได้รับการออกแบบใหม่เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ และใช้งานในระยะยาว แม้ในระดับเสียงที่สูงที่สุดครอสโอเวอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญของลำโพง ทำหน้าที่แบ่งความถี่ของสัญญาณเสียงออกเป็นย่านความถี่ต่าง ๆ เพื่อส่งไปยังไดรเวอร์ (เสียงทุ้ม กลาง แหลม) ที่เหมาะสม การออกแบบครอสโอเวอร์ใหม่ของลำโพง Wharfedale Pro Delta-X จะช่วยให้ลำโพงสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

การสลับโหมด Bi-amp และ Passive

ในโหมด BI-AMP สามารถใช้เครื่องขยายเสียงได้สองเครื่อง ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถเลือกสเปกเครื่องขยายเสียงที่ดีที่สุดสำหรับไดรเวอร์แต่ละตัวภายในลำโพง ในการกำหนดค่า BI-AMP จะใช้ครอสโอเวอร์ภายนอกเพื่อแยกความถี่ และสิ่งนี้จะแยกสัญญาณไปยังเครื่องขยายเสียง LF และเครื่องขยายเสียง HF โดยเฉพาะ ด้วยวิธีนี้ เครื่องขยายเสียงแต่ละตัวจะทำงานเฉพาะในย่านความถี่ที่กำหนด และในทางกลับกัน จะจ่ายพลังงานให้กับไดรเวอร์ที่สอดคล้องกันภายในลำโพง

ในโหมด PASSIVE สามารถใช้เครื่องขยายเสียงเดียวเพื่อจ่ายพลังงานให้กับไดรเวอร์ทั้งหมดภายในลำโพง ย่านความถี่ทั้งหมดจะถูกส่งไปยังลำโพง และครอสโอเวอร์ภายในลำโพงจะแยกความถี่ ส่งความถี่ที่เหมาะสมไปยังไดรเวอร์ ในตัวอย่างของลำโพงแยกความถี่แบบพาสซีฟ 2 ทาง หมายความว่าเครื่องขยายเสียงตัวเดียวกำลังจ่ายพลังงานให้กับทั้งไดรเวอร์ HF และ LF ครอสโอเวอร์ภายในจะดูแลการแยกความถี่และพลังงาน

สรุป

โหมด BI-AMP และ PASSIVE เป็นสองวิธีในการเชื่อมต่อลำโพงกับเครื่องขยายเสียง โหมด BI-AMP ใช้เครื่องขยายเสียงสองเครื่องเพื่อจ่ายพลังงานให้กับไดรเวอร์แต่ละตัวภายในลำโพง ส่วนโหมด PASSIVE ใช้เครื่องขยายเสียงเครื่องเดียวเพื่อจ่ายพลังงานให้กับไดรเวอร์ทั้งหมดภายในลำโพง

โหมด BI-AMP มอบคุณภาพเสียงที่ดีกว่าโหมด PASSIVE เนื่องจากแต่ละเครื่องขยายเสียงจะทำงานเฉพาะในย่านความถี่ที่กำหนด และในทางกลับกันจะจ่ายพลังงานให้กับไดรเวอร์ที่สอดคล้องกันภายในลำโพง อย่างไรก็ตาม โหมด BI-AMP ต้องใช้เครื่องขยายเสียงสองเครื่อง และสายเคเบิลเพิ่มเติม

โหมด PASSIVE ง่ายต่อการตั้งค่า และใช้องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ น้อยกว่าโหมด BI-AMP อย่างไรก็ตาม คุณภาพเสียงอาจไม่ดีเท่ากับโหมด BI-AMP

เทคโนโลยี Dual Spider ในรุ่น 18 นิ้ว

เทคโนโลยี Dual Spider ในลำโพงซับวูฟเฟอร์ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive speaker เป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงความแม่นยำ และความเที่ยงตรงของเสียง เทคโนโลยีนี้ใช้สไปเดอร์สองตัวเพื่อรองรับวอยซ์คอยล์ของดอกลำโพง แทนที่จะใช้สไปเดอร์เพียงตัวเดียวซึ่งสไปเดอร์เป็นชิ้นส่วนยา งหรือ ผ้าที่รองรับวอยซ์คอยล์ของดอกลำโพง สไปเดอร์มีหน้าที่ป้องกันไม่ให้วอยซ์คอยล์เคลื่อนที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เสียงเบลอ หรือ บิดเบี้ยวได้เทคโนโลยี Dual Spider ใช้สไปเดอร์สองตัวเพื่อรองรับวอยซ์คอยล์ สิ่งนี้ช่วยให้วอยซ์คอยล์เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ลำโพงสามารถสร้างเสียงที่แม่นยำ และเที่ยงตรงยิ่งขึ้น

ปรับปรุงความแม่นยำของเสียง เทคโนโลยี Dual Spider ช่วยปรับปรุงความแม่นยำของเสียง โดยลดการบิดเบือนและเสียงรบกวน

ปรับปรุงความเที่ยงตรงของเสียง เทคโนโลยี Dual Spider ช่วยปรับปรุงความเที่ยงตรงของเสียง โดยช่วยให้ลำโพงสามารถสร้างเสียงที่ถูกต้องตามแหล่งต้นฉบับ

ปรับปรุงการตอบสนองความถี่ เทคโนโลยี Dual Spider ช่วยปรับปรุงการตอบสนองความถี่ โดยช่วยให้ลำโพงสร้างเสียงที่สม่ำเสมอในทุกช่วงความถี่

เทคโนโลยี Dual Spider เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในลำโพงระดับไฮเอนด์และระดับกลาง เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ลำโพงสามารถสร้างเสียงที่มีคุณภาพสูงขึ้น

เทคโนโลยี Dual Spider หรือ Double Spider เป็นนวัตกรรมในการออกแบบวูฟเฟอร์ของลำโพง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการสร้างเสียงเบสหรือความถี่ต่ำ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. Spider คือ ส่วนประกอบของลำโพงที่ทำหน้าที่ยึดและรองรับส่วนของอาร์เมเจอร์ (Armature) ที่ต่อกับไดอะแฟรม (Diaphragm) หรือกรวยลำโพง เพื่อให้ขยับสั่นสะเทือนได้อย่างอิสระในแนวแกนเดียว โดยไม่เกิดการสั่นไหวออกด้านข้าง

2. ในการออกแบบวูฟเฟอร์แบบ Dual Spider จะมีการเพิ่มแผ่น Spider อีกชั้นหนึ่ง (รวมเป็น 2 ชั้น) เพื่อเสริมความมั่นคงและควบคุมการเคลื่อนไหวของอาร์เมเจอร์และกรวยลำโพง

3. การมี Spider 2 ชั้น ช่วยลดการสั่นสะเทือนและการเคลื่อนไหวที่ไม่พึงประสงค์ของกรวย ทำให้การตอบสนองต่อเสียงเบสเป็นไปอย่างแม่นยำ ลดการสูญเสียกำลังและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้เสียงเบสที่หนักแน่น

4. Dual Spider ยังช่วยเพิ่มความทนทานและอายุการใช้งานของวูฟเฟอร์ เนื่องจากช่วยกระจายแรงที่กระทำต่อ Spider ลดการเสียหายที่เกิดจากความร้อนและการเคลื่อนไหวซ้ำๆ

5. อย่างไรก็ตาม การใช้ Dual Spider อาจทำให้ค่าความไวของลำโพงลดลงเล็กน้อย และอาจต้องใช้กำลังขับมากขึ้น แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเพื่อแลกกับเสียงเบสที่แม่นยำและทนทานขึ้น

เทคโนโลยี Dual Spider พบได้ในลำโพงวูฟเฟอร์ระดับไฮเอนด์ และลำโพงเบสสมรรถนะสูง โดยเฉพาะในระบบเสียงโฮมเธียเตอร์ ที่ต้องการเสียงเบสที่หนักแน่น แม่นยำ และครบถ้วนรายละเอียด ถือเป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การฟังให้ดียิ่งขึ้น

ด้ามจับหุ้มยาง 4 ทิศทาง

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive speaker เพิ่มความแข็งแรงด้วยด้ามจับหุ้มยาง 4 ทิศทางทำให้สามารถยกเคลื่อนย้ายได้สะดวกมากขึ้น

ช่องกลมกลางลำโพงสำหรับเสียบขาตั้ง

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive speaker มีช่องกลมกลางลำโพงเพื่อเสียบขาตั้งในการใช้ควบคู่กับลำโพงซีรี่ย์อื่น ๆ นั้นเอง

รายละเอียดของลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive Speaker

– ลำโพงซับวูฟเฟอร์
– Passive Speaker
– การตอบสนองความถี่ 38-1.5kHZ(BI-AMP) +/-3dB
– กำลังขับพีคสุดที่ 3200 วัตต์
– 134dB
– ดอกวูฟเฟอร์ไฟเบอร์กลาสขนาด 18 นิ้ว
– Voice Coil 4 นิ้ว
– ขนาดผลิตภัณฑ์ 24.1 x 24.1 x 24.6 นิ้ว
– น้ำหนักสุทธิ 43.2 กิโลกรัม

การเชื่อมต่อของลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive Speaker

– Input 2 x NL4 (speakON Compatible)
– Output 1 x speakON Mid/Hi output

เป็นอย่างไรบ้างครับกับลำโพงซับวูฟเฟอร์ Wharfedale Pro Delta-X18B Subwoofer Passive speaker ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Passive เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการลำโพงคุณภาพดีในราคาไม่แพง มีความยืดหยุ่นสูงในการเลือกใช้งาน และสามารถอัพเกรดเครื่องขยายเสียงได้ในอนาคต นอกจากนี้ ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Passive ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมคุณภาพเสียงได้อย่างเต็มที่ และเหมาะสำหรับการใช้งานหลากหลายประเภทอีกด้วย

สนใจสั่งซื้อสินค้า : https://www.facebook.com/soundrepublic.th/

Share this post

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *