แนะนำลำโพงซาวด์บาร์ Klipsch ระบบ 5.1 System มีรุ่นไหนบ้าง

ลำโพงซาวด์บาร์นั้นเชื่อเลยว่าในยุคสมัยนี้ก็แทบจะมีกันทุกบ้าน เนื่องจากประหยัดพื้นที่ในการใช้งานและราคาถูกกว่าชุดโฮมเธียเตอร์ ซึ่งบางรุ่น บางแบรนด์นั้นก็มีเสียงที่ครบมิติ อาทิเช่นแบรนด์ Klipsch ที่มีชื่อโด่งดังมาจากลำโพงดูหนังในโรงภาพยนตร์ได้ย่อส่วนสินค้าแต่มาในประสิทธิภาพที่เต็มเปี่ยมมาเป็นลำโพงซาวด์บาร์ที่ทุกๆท่านสามารถจับจ่ายใช้สอยได้

ซึ่งลำโพงซาวด์บาร์ระบบ 5.1 System นั้นส่วนใหญ่ก็จะมี Surround มาให้ในเซ็ท หรือ ระบบเสียงเซอร์ราวด์ออกมาจากตัวบาร์ก็ได้เช่นกัน แต่ Surround นั้นจะนำไปวางไว้ด้านข้าง หรือ ด้านหลังเพื่อทำเป็น Surround Back ก็ได้เพื่อมิติเสียงตามความต้องการของผู้บริโภคได้เลย

แนะนำลำโพงซาวด์บาร์ Klipsch ระบบ 5.1 System มีรุ่นไหนบ้าง

1.ลำโพงซาวด์บาร์ Klipsch Bar48 Soundbar + Surround3

ลำโพง Klipsch Bar48 Soundbar Wireless Subwoofer + Surround 3 มีขนาด 48 นิ้ว มาพร้อมกับ Subwoofer ขนาด 8 นิ้วที่สามารถเชื่อมต่ออัตโนมัติกับตัวซาวด์บาร์ได้เลย ในส่วนของการเชื่อมต่อนั้นสามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 4.2 หรือ ควบคุมผ่านรีโมทระยะไกล ในเรื่องของสเปคลำโพงยังมาในแบบระบบ 3.1 มีลำโพงเซ็นเตอร์และลำโพง Stereo ซ้ายกับขวามาพร้อมกับเทคโนโลยี Tractrix Horn ทำให้เสียงสามารถแยกซ้าย-ขวาได้อย่างชัดเจนและสมจริง ภายในยังมีลำโพง Tweeter อีก 3 ตัวและไดรเวอร์ย่านกลาง-ต่ำอีก 4 ตัว การตอบสนองความถี่ 40-20kHz ค่าความไว 103dB มีกำลังขับ 440W ในส่วนของย่านเบสนั้นมี Subwoofer ขนาด 8 นิ้วและยังสามารถถอดรหัสเสียง Dolby Digital, DTS, DTS HD ได้ในตัว อีกทั้งเวลารับรองว่าถ้าคุณซื้อชุดนี้ไปไม่ว่าจะเชื่อมกับ TV ดูหนัง หรือ เชื่อมกับคอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์มือถือดูหนังบอกได้เลยว่าเสียงกระหึ่มมันส์ถึงใจเหมือนคุณอยู่ในโรงหนังอย่างแน่นอน  สำหรับลำโพงเซอร์ราวด์ Klipsch Surround3 Surround Sound Speakers นั้นเป็นลำโพงเซอร์ราวด์แบบที่จะเปลี่ยนการดูหนังแบบระบบ 3.1 System เป็นแบบ 5.1 System มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบ Tractrix Horn ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มรายละเอียดของเสียงให้ดียิ่งขึ้นทำให้เสียงที่ได้มานั้นสะอาดและธรรมชาติสุดๆมีการตอบสนองความถี่ (+/-3dB) 120-20kHz ค่าความไว 94dB,@2.83V/1m อัตราทนต่อกำลังขับ 60W มีไดรเวอร์ Full Range Woofer ข้างละ 3 นิ้วและประมวลผลออกมาเป็น Dolby Digital and DTS 5.1 โดยอัตโนมัติและบอกเลยว่าจะมองประสบการณ์เสียงที่สมจริงมากกว่าเดิมทำให้คุณได้อรรถรสอย่างมากในการรับชมภาพยนตร์ภายในบ้าน เสียงใกล้เคียงระดับโรงหนังได้เลยและตัวตู้ลำโพงเซอร์ราวด์ทำมาจากไม้ ขนาด 165.1 x 107.95 x 107.95 มิลลิเมตร น้ำหนักสุทธิ 10 กิโลกรัม ในส่วนของการเชื่อมต่อนั้นสามารถเชื่อมต่อได้กับ Soundbar48 เท่านั้นโดยระบบ Wireless

2.ลำโพงซาวด์บาร์ Klipsch Cinema 600 Soundbar + Surround3

ลำโพง Klipsch Cinema 600 Soundbar Wireless Subwoofer เป็นซาวด์บาร์ที่เกิดมาพร้อมกับการดูหนัง 100% จริงๆ มาพร้อมกับเทคโนโลยี Tractrix Horn มีเสียงแหลมอยู่ที่ 1 นิ้วทั้ง 3 ดอกซ้ายกับขวาและมีเสียงกลางอยู่ที่ 3 นิ้ว 4 ดอกซ้ายกับขวา ตัวบาร์มีขนาดอยู่ที่ 45 นิ้วและยังมี Subwoofer ขนาด 10 นิ้ว ซึ่ง Subwoofer มีขนาดใหญ่มากกว่า BAR48 ถึง 2 นิ้ว มีกำลังวัตต์อยู่ที่ 600 วัตต์ ทำให้ได้เสียงที่สมจริง อีกทั้งยังสามารถกระจายเสียงได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนอีกทั้งยังให้มิติเสียงที่กว้าง มีการตอบสนองความถี่ 28-20kHz ค่าความไว 103dB และยังสามารถถอดรหัสเสียง Dolby Digital ได้ในตัวแต่จะไม่สามารถถอดรหัส DTS ได้ ในส่วนของการเชื่อมต่อ Subwoofer นั้นก็ยังคงความสะดวกสบายเอาไว้เพราะสามารถเชื่อมต่อได้แบบระบบ Wireless และในการเชื่อมต่อ Soundbar นั้นสามารถเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth5.0, HDMI-ARC, 3.5mm. Analog, Optical Digital ซึ่งต้องบอกเลยว่าการเชื่อมต่อหลากหลายเพื่อให้การใช้งานของคุณสะดวกและเข้าถึงได้ง่ายที่สุด อีกทั้งยังมีช่อง Sub Out ที่ทำให้คุณสามารถที่จะเชื่อมต่อกับ Subwoofer ตัวอื่นๆได้ตามความต้องการอีกด้วย แต่สิ่งที่พิเศษกว่า คือ ลำโพง Klipsch Cinema 600 Soundbar Wireless Subwoofer นั้นสามารถเชื่อมต่อกับ Surround3 เพื่อทำให้เสียงเป็นแบบระบบ 5.1 Systemได้โดยไม่ต้องจำลอง ส่วนในเรื่องการควบคุมการใช้งานก็สามารถที่จะควบคุมผ่านรีโมทคอนโทรลได้ง่ายๆ รับรองว่าถ้าคุณซื้อชุดนี้ไปจะช่วยให้การดูหนังของคุณนั้นครบทุกอรรถรส เติมเต็มทุกมิติดูหนังมันส์สุดๆ

3.ลำโพงซาวด์บาร์ Klipsch Cienma 800 Atmos Soundbar + Surround3

ลำโพงซาวด์บาร์ Klipsch Cinema 800 Dolby Atmos Soundbar เหมาะคนที่กำลังหาลำโพงดูหนังที่ประหยัดพื้นที่และให้คุณภาพเสียงที่ดีและมีมิติเสียงที่มีประสิทธิภาพในการดูหนัง ซึ่ง ลำโพงซาวด์บาร์ Klipsch Cinema 800 Dolby Atmos Soundbar นั้นสามารถจำลองเสียง Dolby Atmos ในระบบ 7.1.4 ได้ (เมื่อเชื่อมต่อ Surround3) และเสียงจริงในระบบ 5.1 System สามารถเพลิดเพลินกับการโยนเสียง เสียงด้านหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงด้านบน ทำให้การดูหนังสนุกมากยิ่งขึ้น และไม่เปลืองเนื้อที่ในห้อง รวมถึงการติดตั้งที่แสนง่ายดาย