fbpx

ชุดดูหนังที่ขายดีที่สุดของ Onkyo และ Klipsch คือชุดไหนบ้าง และมีข้อดีอย่างไร

ชุดดูหนังที่ขายดีที่สุดของ Onkyo และ Klipsch คือชุดไหนบ้าง และมีข้อดีอย่างไร

สุขใดเล่าจะเท่ามีชุดดูหนังดี ๆ ประโยคนี้ไม่เกินจริงเพราะการดูหนังถือว่าเป็นกิจกรรมอย่างนึงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะได้รับความผ่อนคลาย และเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ภายในครอบครัวอย่างปริยายโดยอยู่ในพื้นที่ที่ทุก ๆ คนในบ้านรู้สึกอุ่นใจนั้นก็หลีกไม่พ้นที่พักอาศัยนั้นเอง

ซึ่งชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch และ AVR Onkyo นั้นก็มีหลากหลายชุด หลากหลายงบประมาณ  วันนี้เราจะยก 3 ชุดที่มียอดขายสูงสุดมานำเสนอกันว่าจะมีชุดไหนอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยครับ

ชุดดูหนังที่ขายดีที่สุดของ Onkyo และ Klipsch คือชุดไหนบ้าง และมีข้อดีอย่างไร

ชุดที่ 1
AVR Onkyo TX-NR7100
R-800F
R-50C
R-50M
R-121SW

ชุดที่ 2
AVR Onkyo TX-NR6100
R-600F
R-50C
R-50M
R-121SW

ชุดที่ 3
AVR Onkyo TX-NR5100
R-600F
R-50C
R-50M
R-101SW

ข้อดีของการมีชุดดูหนังที่ดี

1. ประสบการณ์การรับชมที่เหนือกว่า:

ภาพ: จอภาพขนาดใหญ่ ความละเอียดสูง และเทคโนโลยี HDR, 8K มอบภาพที่คมชัด สมจริง สีสันสดใส ให้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับการดูหนังในโรงภาพยนตร์

เสียง: ระบบเสียงรอบทิศทาง 7.2 หรือ 9.2 แชนแนล ให้เสียงที่สมจริง กระหึ่ม เต็มอิ่ม เสริมอรรถรสในการรับชม

2. เหมาะสำหรับการดูหนังกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง:

สร้างความบันเทิงร่วมกัน: สามารถรับชมภาพยนตร์หรือซีรีส์เรื่องโปรดกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูงได้อย่างสนุกสนาน

สร้างความประทับใจ: เหมาะสำหรับการจัดปาร์ตี้ดูหนัง สร้างความประทับใจให้กับแขก

กระชับความสัมพันธ์: เป็นกิจกรรมที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ สานสายใยระหว่างสมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูง

3. คุ้มค่าในระยะยาว:

ใช้งานได้นาน: ชุดดูหนังที่มีคุณภาพดีสามารถใช้งานได้นานหลายปี

ประหยัดค่าใช้จ่าย: เมื่อเทียบกับการไปดูหนังในโรงภาพยนตร์

ความหลากหลาย: สามารถรับชมภาพยนตร์หรือซีรีส์ได้หลากหลาย ไม่จำกัด

4. ตัวเลือกสำหรับการผ่อนคลาย:

ความบันเทิง: ช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดหลังจากทำงานหรือเรียน

ความสบาย: ให้ความรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนอยู่ในโรงภาพยนตร์

การหลีกหนีจากความวุ่นวาย: ช่วยให้หลีกหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน เสมือนเซฟโซนภายในบ้าน

5. เพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน:

ความสวยงาม: ชุดดูหนังที่มีดีไซน์สวยงาม ทันสมัย ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้าน

ความน่าสนใจ: ดึงดูดความสนใจจากแขกที่มาเยือน

คุณสมบัติของรีซีฟเวอร์ Onkyo NR Series

ระบบ Dirac Live ความสมบูรณ์แบบของเสียง
ระบบ Dirac Live ใน AVR Onkyo สามารถตั้งค่าได้โดยใช้แอพฯ Onkyo Controller และขาตั้งกล้องพร้อมสำหรับตั้งค่าไมโครโฟนสำหรับตั้งค่าลำโพง ซึ่งในการตั้งค่าเซ็ทเสียงนี้ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพียงเท่านั้น คุณก็จะได้เสียงเปรียบเสมือนผู้เชี่ยวชาญมาเซ็ทระบบเสียงให้เลยทีเดียว เพราะ Dirac Live® เป็นเทคโนโลยีแก้ไขอะคูสติกในห้องขั้นสูงที่พัฒนาโดย Dirac การวิจัยบอกไว้ว่าเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีแก้ไขอะคูสติกห้องที่ทันสมัยที่สุดที่มีอยู่ในตลาด Dirac Live ช่วยให้ผู้ฟังแก้ไขจุดอ่อนเสียงให้กลับมาสมบูรณ์แบบได้อีกครั้งโดยไม่ยาก แก้ไขจุดต่าง ๆ ดังนี้ การตอบสนองความถี่, ให้เสียงที่ดีขึ้น, ความคมชัดที่ดีขึ้น, เบสที่แน่นขึ้น, รวมถึงการลดเสียงสะท้อน

ซึ่งในการเซ็ทอัพ Dirac Live นั้นจะมีแบบ Quick และแบบ Full โดยแบบ Quick นั้นจะวัดตำแหน่งในการฟัง 3 จุด ส่วนแบบ Full นั้นจะวัดตำแหน่งในการฟัง 9 จุด ซึ่งในการวัดนั้นควรตั้งไมโครโฟนไว้ในระดับหูและระยะห่างควร 50-100 เซนติเมตรในแต่ละจุด ในจุดนี้ควรระวังเสียงซับวูฟเฟอร์เพราะถ้าดังเกินไปจะเกิดการ error ขึ้นแนะนำให้ปรับเสียงซับวูฟเฟอร์ลงเพื่อการเซ็ทอัพเสียงที่ไม่ติดขัด เมื่อประมวลผลครบ 100% จะขึ้นกราฟเสียงก่อนเซ็ทอัพและเสียงหลังเซ็ทอัพ Dirac live ในแอพฯ Onkyo Controller

การใช้ Dirac Live กับ Amp Onkyo มีข้อดีที่สำคัญต่อผู้ใช้งานได้อย่างไรบ้าง

1. การปรับแต่งเสียงแบบให้ความละเอียดสูง

Dirac Live ให้ความสามารถในการปรับแต่งเสียงอย่างละเอียด ซึ่งช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงให้สอดคล้องกับห้อง และระบบเสียงของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ

2. การปรับแต่งเสียงที่เหมาะสมกับองค์ประกอบเสียง

เทคโนโลยี Dirac Live นั้นจะทำการวัดและปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับองค์ประกอบเสียงของลำโงแต่ละตำแหน่ง เช่น ลำโพงซับวูฟเฟอร์ ลำโพงคู่หน้า ลำโพงเซ็นเตอร์ หรือ ลำโพง Dolby Atmos เพื่อให้ได้ประสบการณ์การฟังที่คุณภาพสูงสุด

3. ปรับแต่งเสียงแบบอัตโนมัติให้เหมาะสมกับระบบเสียง

Dirac Live สามารถปรับแต่งเสียงให้อัตโนมัติให้เหมาะสมกับระบบเสียงของห้องคุณ โดยการวัด และวิเคราะห์ค่าเสียงต่าง ๆ นำมาปรับให้เข้ากับห้องของคุณ

4. ปรับแต่งเสียงให้มีความแม่นยำและเสียงที่มีคุณภาพสูง

การมอบประสบการณ์การฟังที่สมบูรณ์แบบ เทคโนโลยีอย่าง Dirac Live กับการปรับปรุงคุณภาพของเสียงเมื่อใช้งานควบคู่กันกับ AVR Onkyo แล้วนั้นจะยิ่งช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การฟังที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น โดยการปรับแต่งเสียงให้มีความแม่นยำ และเสียงที่มีคุณภาพสูง ทำให้คุณสามารถติดตามรายละเอียดของเสียงได้ชัดเจน และสัมผัสประสบการณ์การฟังที่มีความพึงพอใจ

5. การปรับแต่งตามสภาวะแวดล้อมในห้อง

ในห้องของคุณนั้นถ้ามีระบบ Dirac Live ก็จะช่วยปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมในห้องที่คุณใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงในห้องนั่งเล่น หรือ การรับชมภาพยนตร์ ทำให้คุณได้รับประสบการณ์การฟังที่เสียงคมชัด และตอบสนองความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะมีวัตถุกรีดขวางระบบจะทำการตรวจจับ และประมวลผลออกมาให้ได้ค่าเสียงที่ดีที่สุด

6. สามารถใช้งาน Dirac Live ได้ฟรี

การอัพเกรดระบบแม้ Dirac Live ฟรีที่มากับ AVR Onkyo จะมีคุณสมบัติ และประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่คุณยังสามารถอัพเกรดระบบเป็นเวอร์ชันที่มีความสามารถเพิ่มเติมได้ ซึ่งอาจมีการพัฒนาและคุณสมบัติใหม่ที่มาพร้อมกับเวอร์ชันอัพเกรดซึ่งต้องบอกว่าฟรีทั้งหมดกันเลยทีเดียว และไม่ใช่แค่การอัพเกรดเพียงครั้งเดียว แต่ยังสามารถอัพเกรดแบบฟรี ๆ อย่างนี้ได้ในตลอดการใช้งานอีกด้วยครับ

ได้การรองรับจาก THX Certified
ในการที่รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR6100 ได้การรองรับจาก THX ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าจะได้รับคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดระดับโรงภาพยนตร์ที่มีความสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานของ THX

ประสบการณ์ภาพ 8K Ultra HD
ในยุคที่เทคโนโลยีภาพยนตร์ และทีวีก้าวข้ามขีดจำกัด 8K Ultra HD ในรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR6100 ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของการรับชมรายละเอียด ด้วยความละเอียดที่เป็นเลิศถึง 7680×4320 พิกเซล คุณจะได้สัมผัสกับความคมชัดที่เหนือชั้นในแต่ละรายละเอียดของภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ หรือ การเล่นเกมส์ ทั้งนี้อยู่ที่ทีวีของคุณด้วยว่ารองรับการถอดรหัสสัญญาณภาพ 8K Ultra HD หรือไม่

HDMI 2.1 รองรับสัญญาณภาพสูงสุด

รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR6100 มีช่องเชื่อมต่อ HDMI 2.1 เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากกว่า HDMI 2.0 ตัวเดิมหลายเท่าตัวเพราะสามารถรองรับสัญญาณภาพได้มากกว่า 4K ซึ่งที่บอกว่าเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคตนั้นไม่เกินจริงเพราะ ณ ปัจจุบันสามารถรองรับได้แค่ 8K แต่ HDMI 2.1 นั้นกลับสามารถรองรับความคมชัดได้ถึง 10K 120Hz เลยทีเดียว (แต่ในปัจจุบันมีเพียง 8K เท่านั้น) อีกทั้งยังรองรับแบนด์วิธขนาดใหญ่ถึง 48Gbps แบบไม่มีบีบอัด ซึ่ง HDMI อันเก่าจะอยู่ที่ 18Gbps ไม่เพียงเท่านั้น HDMI 2.1 นั้นรองรับสัญญาณภาพที่เป็น Dynamic HDR ที่ทำให้ทีวีสามารถปรับภาพได้ตามสัญญาณ Dolby Vision หรือ HDR10+ ได้แบบเฟรมต่อเฟรมและยังปรับปรุงรายละเอียดในเรื่องของภาพหลายส่วน

นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติที่พัฒนาขึ้นก็เพื่อเกมคอนโซลและอุปกรณ์วีอาร์ เช่น PlayStation 5 และ Xbox Series X ก็มาพร้อมกับ HDMI 2.1 ซึ่ง HDMI 2.1 นั้นรองรับเทคโนโลยี Variable Refresh Rate และ Quick Frame Transport ที่ส่งผลให้ภาพที่รับชมมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องมี Source ในการอัพเกรดคุณสมบัติดังกล่าว เช่น กล่องรับสัญญาณดาวน์เทียม เครื่องเล่นแผ่นเสียง และต้องอัพเกรดอุปกรณ์ปลายทางที่แสดงผลทั้งภาพและเสียงอย่าง ซาวด์บาร์ โทรทัศน์ หรือ AV Receiver ที่รองรับ HDMI 2.1 และรวมไปถึงสาย HDMI ก็ต้องเป็นเวอร์ชั่น HDMI 2.1 ด้วย

SMART AV Receiver™ การสตรีมเสียงหลายห้อง

รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR6100 ถูกขนานนามว่าเป็น SMART AV Receiver เพราะสามารถแบ่งปันเสียงได้รอบบ้านของคุณ ซึ่งรวมถึง Amazon Music HD*, Pandora®, Spotify®, TIDAL, Deezer และ TuneIn และทำงานร่วมกับ Hey Google หรือ Alexa แบ่งปันความบันเทิงผ่าน Works with Sonos, AirPlay 2, DTS Play-Fi® และ Chromecast ได้ในตัว

ถอดรหัสเสียงความสมจริง Dolby Atmos และ DTS:X

รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR6100 เติมประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์แบบผ่าน Dolby Atmos® และ DTS:X® เสียงที่ถูกผสมผสานให้ออกมาแบบ 3 มิติ Dolby Surround® และ DTS® Neural:X ช่วยเสริมการเล่นเสียง 3D ให้ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเพื่อสร้างมิติที่สมจริงจากบนลงล่าง

การประมวลเสียงในห้อง AccuEQ ด้วย AccuReflex™
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR6100 มี AccuEQ สร้างเสียงที่สมบูรณ์แบบที่กลมกลืนกันในห้องของคุณ โดยจะตรวจจับตำแหน่งลำโพง ขนาด และระยะห่างจากตำแหน่งการฟังและตั้งค่าระดับเสียง จากนั้นปรับสมดุลกับลำโพงทั้งหมดร่วมกับ AccuReflex เพิ่มประสิทธิภาพการสร้างเสียงให้ยิ่งมีมิติผ่านลำโพงที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos เพื่อแก้ไขการเฟสของเสียงที่เกิดจากความแตกต่างกันระหว่างเสียงที่มีทิศทางและไม่ใช่ทิศทางให้กลับมากลมกล่อมจากบนลงล่าง

รองรับ Klipsch Optimized mode
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR6100 รองรับชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch ใน Reference Series นั้นเองเป็นสัญญาณของการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีเพื่อให้เกิด “ความบันเทิงที่ดีที่สุดในบ้าน” ในโหมดนี้นั้นพิเศษตรงที่คุณจะสามารถตั้งค่าครอสโอเวอร์ของห้องได้ในตำแหน่งลำโพงต่างๆภายใต้คำสั่ง “Speaker Combo” ไม่ว่าจะเป็นลำโพงเซ็นเตอร์ ลำโพงคู่หน้า ลำโพงเซอร์ราวด์ ลำโพงตั้งพื้นและซับวูฟเฟอร์คุณก็สามารถตั้งระบบได้หมดจนลงลึกถึงเลือกรุ่นในตำแหน่งลำโพงต่างๆในห้องอีกด้วยเพื่อให้การตั้งค่าครอสโอเวอร์ของห้องนั้นเสถียรมากยิ่งขึ้นนั้นเอง หรือ ถ้าคุณไม่อยากตั้งค่าเองก็จะมีโหมด “อัตโนมัติ” ที่สามารถออกแบบให้คุณได้รับเสียงที่ดีที่สุดได้เองเปลี่ยนเสมือนมีมืออาชีพดีๆซักคนมาเซ็ตระบบให้เลยแหละ ซึ่งโหมดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเสียงที่จะถูดถอดรหัสออกมาให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่แค่ไหนก็สบายใจได้

รายละเอียดของรีซีฟเวอร์ Onkyo NR Series

1. รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR7100 Receiver
– 9.2 Channel
– Dirac Live
– IMAX Certified
– ได้การรับรองจาก THX
– รองรับภาพระดับ 8K/4K
– กำลังขับ 100 W/CH
– Dolby Atmos
– DTS:X
– Bluetooth
– SMART AV Receiver™ multi-room audio streaming
– HI-RES Audio
– HDMI In/Out 7/2
– ใช้งานผ่านแอพฯ Onkyo

2. รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR6100 Receiver
– 7.2 Channel
– ได้การรับรองจาก THX
– รองรับภาพระดับ 8K/4K
– กำลังขับ 100 W/CH
– Dolby Atmos
– DTS:X
– Bluetooth
– SMART AV Receiver™ multi-room audio streaming
– AccuEQ
– HI-RES Audio
– HDMI In/Out 6/2
– ใช้งานผ่านแอพฯ Onkyo

3. รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-NR5100 Receiver
– 7.2 Channel
– รองรับภาพระดับ 8K/4K
– กำลังขับ 80 W/CH
– Dolby Atmos
– DTS:X
– Bluetooth
– SMART AV Receiver™ multi-room audio streaming
– AccuEQ
– HI-RES Audio
– HDMI In/Out 4/2
– ใช้งานผ่านแอพฯ Onkyo

ชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch Reference Gen III อัพเดตอะไรบ้าง

1.ปาก Horn กว้างขึ้นเพื่มประสิทธิภาพของเสียงที่ดีขึ้น
เทคโนโลยี Tractrix® Horn ที่จดสิทธิบัตรเฉพาะ Klipsch นั้นเป็นที่รู้กันดีว่ามอบพลังเสียง รายละเอียด และอารมณ์ของเสียงดนตรีที่คุณชื่นชอบ หรือ ภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณด้วยเสียงที่ใสสะอาดและเป็นธรรมชาติที่สุด ขนาดปากฮอร์นที่เพิ่มเนื้อที่ให้ใหญ่และกว้างขึ้นนั้นจะช่วยให้สามารถควบคุมทิศทางของความถี่ของเสียงที่ดีขึ้นกว่าเดิมและส่งผลให้ไม่ว่าจะความถี่สูง หรือ เวทีเสียงที่เกิดขึ้นนั้นแม่นยำมากกว่าเดิมนั้นเอง

2.ดอกวูฟเฟอร์วัสดุใหม่เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีกว่า
ดอกวูฟเฟอร์ที่ใช้วัสดุแบบใหม่ในนาม “Spun-Copper Thermoformed Crystalline Polymer (TCP)” และได้ถอดรูปแบบดอกวูฟเฟอร์มาจาก Reference Premiere เพื่อลดการสะท้อนของเสียงทำให้ประสิทธิภาพเสียงนั้นดีขึ้นประกอบกับลดการบิดเบือนของเสียงอีกด้วย แต่ใน Reference Premiere นั้นจะใช้วัสดุ Cerametallic™ ซึ่งจะแตกต่างกับ Reference Gen III ที่ใช้วัสดุใหม่อย่าง TCP ที่ถูกออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพและความทนทานสูงสุด ลดเสียงสะท้อนให้น้อยที่สุดเพื่อเพิ่มเสียงที่สมจริงขึ้น

3.ทวีตเตอร์อลูมิเนียม LINEAR TRAVEL SUSPENSION (LTS) พร้อมระบบกันสะเทือน
ระบบกันสะเทือนแบบ Linear Travel Suspension (LTS) แบบเอกสิทธิ์เฉพาะตัวช่วยลดการบิดเบือนเพื่อการแสดงรายละเอียดเสียงที่ดียิ่งขึ้น อะลูมิเนียมเป็นวัสดุที่เบาและแข็งแกร่งอย่างยิ่งซึ่งใช้ประกอบทวีตเตอร์เพื่อให้ประสิทธิภาพสูงปรับปรุงความละเอียดและทวีตเตอร์ LTS เป็นจุดเด่นของลำโพง Klipsch ทำให้เป็นส่วนประกอบหลักของลำโพงที่ดีที่สุดในโลก

4.ระบบ Dolby Atmos ที่เชื่อมต่อได้ง่ายขึ้น
ชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch Reference Gen III ได้ใส่ใจในการเชื่อมต่อระบบ Dolby Atmos มากขึ้น โดยมีสายเชื่อมต่อให้มากับลำโพงและทำให้การเชื่อมต่อลำโพง Atmos ง่ายขึ้นไม่ต้องมีสายระโยงระยาง หรือ หากไม่ได้ทำการเชื่อมต่อลำโพง Atmos ก็มีฝาสำหรับปิดช่องการเชื่อมต่อให้ลำโพงดูสวยงามไม่ขัดตาอีกด้วย

5.ดีไซน์แบบใหม่ เรียบหรู ดูดี
ชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch Reference Gen III นั้นการออกแบบรูปร่าง ดีไซน์แตกต่างจากซีรี่ส์เก่าโดยสิ้นเชิง เรียกได้ว่าใครที่ชื่นชอบความเรียบหรู ดูแพงคงต้องใจอ่อนให้กับซีรี่ส์นี้เลยก็ว่าได้ ด้วยการทำให้ปากฮอร์นมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ดอกลำโพงที่ทำให้ดูเรียบง่ายซึ่งในซีรี่ส์เก่านั้นจะมีน็อตอยู่รอบๆดอกลำโพงที่จะให้ความรู้สึกดุ ดิบ จึงทำให้คาแร็คเตอร์นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงอยู่ที่ความชอบของแต่ละคนว่าชอบในทิศทางไหน

6.แผงกั้นเสียงภายในตู้ลำโพงเพื่อลดเสียงสะท้อน
แผงกั้นระหว่างดอกวูฟเฟอร์ที่ออกแบบมาภายในตู้นั้นทำออกมาเพื่อลดการสะท้อนของเสียงและการสั่นสะเทือนด้านในตู้ลำโพงระหว่างกันเพื่อให้เกิดเสียงที่ดีที่สุดแบบไม่มีอะไรขว้างกั้นนั้นเอง

7.แผ่นรองลำโพงที่ทำจากเยื่อไม้อัดแข็งอย่างดี
แผ่นรองลำโพงนั้นต่างเป็นที่รู้กันว่าช่วยในเรื่องของการสั่นสะเทือนของลำโพงในขณะใช้งานและลดการเสียดสีระหว่างลำโพงกับเฟอร์นิเจอร์ที่ตั้ง หรือ ขารองลำโพงนั้นเองทำให้พื้นลำโพงด้านล่างของคุณไม่เป็นรอยขีดข่วน ซึ่งแผ่นรองลำโพงในชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch Reference Gen III นั้นทำมาจากเยื่อไม้อัดแข็งอย่างดี

8.Input ออกแบบใหม่เพื่อความสะดวก สวยงาม
ชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch Reference Gen III นั้นออกแบบ Input มาใหม่เป็นในรูปแบบชิดด้านล่างเพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่อ เสียบสาย และการจัดวางลำโพงได้ดียิ่งขึ้น

9.ลำโพงเซอร์ราวด์ติดตั้งได้ง่ายขึ้น
ในการนำลำโพงบุคเชลมาทำเป็นลำโพงเซอร์ราวด์นั้นก็ง่ายกว่าเดิมเพราะมีรูในการยึดติดกับผนังห้องมาให้ด้านหลังลำโพงทำให้ง่ายและสะดวกในการจะยึดลำโพงติดกับผนังโดยไม่ต้องพึ่งขาตั้งลำโพงในกรณีที่ไม่อยากใช้ขาตั้งลำโพงและองศาของการฟังผู้ใช้งาน

เป็นอย่างไรบ้างครับในจุดเด่นแต่ละรุ่น ซึ่งคุณลูกค้าสามารถยกระดับการดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมส์ได้ตามสเปค และงบประมาณได้เลยครับผม เพิ่มมุมความสุขในบ้านได้ง่าย ๆ เริ่มต้นได้ที่ Onkyo และชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch

สนใจสั่งซื้อสินค้า คลิก : https://www.facebook.com/soundrepublic.th

Share this post

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *