Home Theater VS Home Cinema แตกต่างกันหรือไม่

ถ้าพูดถึงลำโพงดูหนังแน่นอนว่าใครหลายๆคนก็อาจจะนึกถึงแบรนด์ Klipsch เพราะด้วยความขึ้นชื่อในเรื่องของลำโพงดูหนังที่เป็นอันดับหนึ่งในอเมริกา ซึ่งการกล่าวถึงนี้การันตีด้วยรางวัลหลากหลายแขนงที่ Klipsch ได้ความรางวัลเหล่านั้นมาจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนยอมรับในเรื่องของคุณภาพ ไม่เพียงแต่รางวัลเท่านั้นถ้าหากคุณได้ลองมาฟังจริงๆแล้ว คุณจะสัมผัสได้ถึงลำโพงดูหนังในสภาพแวดล้อมที่ยังเป็นโซฟโซนของคุณได้ง่ายๆไม่ว่าจะเป็น Home Theater, Home Cinema, Soundbar ที่พูดถึงนี้คือลำโพงดูหนังที่ Klipsch ได้ทำออกมายังไม่รวมลำโพง 2 แชลแนลที่สามารถทำเป็นลำโพงดูหนังได้อีก แต่ถ้าพูดถึงลำโพงที่ผลิตออกมาเพื่อดูหนังโดยเฉพาะก็คงไม่พ้น Home Theater, Home Cinema, Soundbar แน่นอนครับผม

ซึ่งถ้าพูดถึง Soundbar กับ Home Theater นั้นทุกคนคงจะแยกกันออกว่าแตกต่างกันอย่างไร แต่สำหรับใครที่ไม่รู้ผมจะอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับลำโพงดูหนัง 2 ประเภทนี้ให้ฟังถึงความแตกต่างนั้นก็คือ ลำโพงซาวด์

งบประมาณไม่เยอะ (บางรุ่นที่มาในระบบ 5.1.4 ก็อาจจะงบประมาณเยอะขึ้นมาจากตัว Standard นั้นเอง) แต่ถ้า Home Theater เหมาะกับคนที่มีพื้นที่ในการวางเพราะชุดโฮมเธียเตอร์ที่สมบูรณ์แบบนั้นก็ต้องมีลำโพงตั้งพื้น, ลำโพงคู่หน้า, ลำโพงเซ็นเตอร์, ลำโพงซับวูฟเฟอร์ หรือบางคนลามไปถึงลำโพงเซอร์ราวด์และลำโพง Atmos นั้นเอง อีกทั้งยังต้องมี AVR ในการถอดรหัสเสียงอีกตั้งหาก (เร็วๆนี้ AVR Onkyo  จะมีการออกระบบให้ใช้งานร่วมกันได้กับชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch) ซึ่งถ้าพูดถึงในการดูหนังแล้วย่อมเข้าถึงอารมณ์ได้มากกว่าลำโพงซาวด์บาร์เนื่องจากมีการทำหน้าที่ในตำแหน่งลำโพงต่างๆได้อย่างครบถ้วนและการจัดวางได้อย่างอิสระในจุดที่ผู้ฟังจะได้รับเสียงที่ดีที่สุดต่างจากซาวด์บาร์ที่เสียงจะพุ่งมาจากข้างหน้าเป็นหลักเพราะรูปทรงเป็นแท่งยาวนั้นเอง

มาครับสิ่งที่ทำให้หลายๆคนอยากรู้เกี่ยวกับ Home Theater กับ Home Cinema ว่าแตกต่างกันหรือไม่ ถ้าพูดถึง Hone Cinema นั้นก็อาจจะให้ความรู้สึกว่ามันจะต้องเปรียบเสมือนโรงหนังในบ้านแบบจริงจังเพราะส่วนใหญ่จะใช้ระบบฉายภาพเป็นแบบ Projector เพื่อรักษาประสบการณ์ในการรับชมภาพให้เหมือนกับระบบฉายหนังในโรงภาพยนตร์มากที่สุด ซึ่ง Projector ในปัจจุบันนั้นมีประสิทธิภาพที่สูงมากสามารถที่จะฉายภาพได้เกิน 100 นิ้วขึ้นไปในขณะที่ราคานั้นไม่ได้แรงเหมือนเมื่อก่อนและในระบบเสียงที่นิยมใช้กันในโฮมซีนิม่านั้นจะเป็นลำโพงแบบแยกชิ้นและส่วนใหญ่จะซ่อนในผนัง เพดาน หรือ หลังจอ Projector นั้นเอง อย่างไรก็ตามที่พูดมานั้นต้องคำนึงถึงส่วนต่างๆไม่ว่าจะขนาดห้อง ผนังห้อง เพดานห้อง ระบบเสียงและหน้าจอต้องมีความสัมพันธ์กันหมดเพื่อความไม่ถูกลดทอนของเสียงและภาพรวมไปถึงบรรยากาศของห้อง Home Cinema ที่อยากตกแต่งที่ต้องลงตัวตามความพอใจของผู้ใช้งานเป็นหลัก ในการ Set up ระบบอาจจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคน Set up ระบบเสียงและภาพให้อาจจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่ายากลำบากกว่า Home Theater แต่รับรองว่าเสียงที่ได้นั้นดีกว่าโรงหนังบางแห่งเสียอีก แต่ก็ไม่ใช่ว่า Home Theater จะไม่ดีเพราะถ้าใครที่อยากได้ระบบเสียงที่ดีและมีพื้นที่มากพอที่จะจัดวางเซ็ตลำโพงในชนิดที่งบไม่บานปลายแต่ยังคงเสียงที่คุณภาพก็สามารถเบนเข็มไปที่ Home Theater ได้เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงจะมีความแตกต่างแต่ทั้งหมดอยู่ที่ความพอใจของผู้ใช้งานเป็นหลักเสียมากกว่าว่าถูกใจลำโพงแบบไหน ข้อจำกัดของแต่ละคนคืออะไรครับผม