fbpx

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch รุ่นไหนทำระบบ Wireless ได้ด้วย Klipsch WA-2

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch รุ่นไหนทำระบบ Wireless ได้ด้วย Klipsch WA-2

อย่างที่ทราบกันดีว่า Klipsch ได้คลอดลำโพงซับวูฟเฟอร์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Reference Premiere Series มาก็ต้องบอกว่ามีการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีต่าง ๆ ภายในลำโพงซับฯ หรือ ขนาดของลำโพงซับฯ ที่ทำออกมาใหญ่สุด 16 นิ้วเลยทีเดียว ซึ่งเป็นลำโพงซับวูฟเฟอร์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดที่ Klipsch เคยทำมาอันนี้ไม่เกินจริง โดยผู้บริโภคสามารถเลือกใช้งานผ่านระบบสาย หรือ ระบบไร้สายก็ได้เช่นเดียวกัน

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ (Subwoofer) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ขับเสียงย่านความถี่ต่ำ (Low-Frequency) ช่วยให้เสียงมีความหนักแน่น และสมจริงยิ่งขึ้น ในปัจจุบันซับวูฟเฟอร์ไร้สายได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากมีความสะดวกในการใช้งาน และติดตั้งจึงทำให้ผู้บริโภคมีความสนใจในจุดนี้ แต่ทว่าลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Reference Premiere Subwoofer นั้นทำออกมาทั้ง 2 ระบบในการใช้งานทำให้ยิ่งสะดวกในการใช้งานเข้าไปอีก โดยเพียงเสียบ Klipsch WA-2 ด้านหลังซับฯ เพียงเท่านั้น และจะมีข้อดีอะไรอีกไปดูกันเลยครับ

Klipsch WA-2 ใช้งานร่วมกับลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Subwoofer ดีอย่างไร

1. เพิ่มความสมจริงของเสียง ซับวูฟเฟอร์ไร้สายช่วยให้เสียงมีความหนักแน่น และสมจริงยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถขับเสียงย่านความถี่ต่ำได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้เสียงเพลง และภาพยนตร์มีความน่าประทับใจยิ่งขึ้น โดยอะคูสติกในแต่ละห้องอาจจะไม่ได้วางลำโพงซับฯ ไว้ด้านหน้าห้องเพียงเท่านั้น อาจจะวางไว้มุมไหนของห้องก็ได้ เพื่อดึงศักยภาพสูงสุด ซึ่งการมีระบบเชื่อมต่อไร้สายนั้นทำให้การวางในมุมห้องอื่น ๆ ได้อย่างไร้ปัญหา และประหยัดพื้นที่ในบางกรณีได้

2. เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ซับวูฟเฟอร์ไร้สายมีความสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านเทคโนโลยีไร้สาย ทำให้สามารถติดตั้ง และใช้งานได้อย่างง่ายดาย

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch รุ่นไหนบ้างทำระบบ Wireless ได้ด้วย Klipsch WA-2

1. ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch SPL Subwoofer

ดอกวูฟเฟอร์ Cerametallic™ การบิดเบือนน้อย เสียงสะอาด

โคนของ Cerametallic™ Woofer นั้นเคลือบด้านกับวอยซ์คอยล์ทองแดงแบบสองชั้นเพื่อการนำไฟฟ้าที่ดีและเสถียรมากยิ่งขึ้น โดนยึดจากวูฟเฟอร์ Reference Premiere Series ซึ่งไม่สะท้อนเสียงประสิทธิภาพสูงและการบิดเบือนที่ต่ำ และข้อดีอีกข้อนึงคือเป็นวูฟเฟอร์ที่น้ำหนักค่อนข้างที่จะเบาแต่มาพร้อมความแข็งแรงให้การตอบสนองความถี่ต่ำที่โดดเด่นด้วยการแตกตัวของโคนและการบิดเบือนที่น้อยที่สุดเพื่อเอาท์พุตที่สูงขึ้นและสะอาดกว่าโดยใช้กำลังของแอมพลิฟายเออร์น้อยลง

CLASS D AMPLIFIER ประสิทธิภาพสูง

แอมพลิฟายเออร์ประสิทธิภาพสูง สเตจเอาต์พุต Class D ช่วยให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับเอาต์พุตสูงสุด รายละเอียด และพลังงานความถี่ต่ำที่ลงลึกได้อย่างดี

เทคโนโลยี FRONT-FIRING SLOT PORT สุดพิเศษ

รูปทรงภายในที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะซึ่งช่วยลดสัญญาณรบกวน พอร์ตลมช่วยความถี่ต่ำที่ไม่บิดเบี้ยวของเสียง การออกแบบด้านหน้าช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการจัดวางซับวูฟเฟอร์ได้อิสระมากขึ้นโดยไม่ต้องคำนึงถึงผนังห้องด้านหลังซับเหมือนรุ่นอื่นๆ

ซับวูฟเฟอร์ไร้สายได้ด้วย Klipsch WA-2

ชุดซับวูฟเฟอร์ไร้สาย Klipsch WA-2 (จำหน่ายแยกต่างหาก) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อไร้สายความละเอียดสูงเพื่อการจัดวางที่ง่ายดายได้ทุกที่ในห้องของคุณ และเพิ่มประสิทธิภาพเอาต์พุตและการตอบสนองความถี่ต่ำ เชื่อมต่อชุดอุปกรณ์ไร้สาย WA-2 สูงสุดสี่ชุดกับซับวูฟเฟอร์ Klipsch ที่เข้ากันได้ในห้องเดียวเพื่อการเชื่อมต่อแบบไร้สายอย่างสมบูรณ์

การควบคุมที่ยืดหยุ่น In-put พร้อมกันได้

Low Pass Crossover และ Variable Phase control ช่วยให้คุณปรับซับวูฟเฟอร์ให้เข้ากับลำโพง Klipsch และห้องของคุณ เพื่อสร้างระดับเบสที่เหมาะสมที่สุด อินพุต Line Level / LFE RCA ให้ความเข้ากันได้กับชุดโฮมเธียเตอร์ อีกทั้งยังสามารถใช้ทั้งอินพุต RCA และอินพุตไร้สายพร้อมกันได้ ทำให้คุณสามารถใช้ซับวูฟเฟอร์เดี่ยวกับหลายระบบในห้องเดียวกันได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้อินพุตไร้สายสำหรับการตั้งค่าโฮมเธียเตอร์และอินพุต RCA สำหรับระบบ 2 ช่องสัญญาณของคุณ โดยไม่จำเป็นต้องสลับอินพุตเมื่อเปลี่ยนระหว่างระบบ

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch SPL Series มีรุ่นไหนบ้าง

1.ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch SPL100 Subwoofer
– ลำโพงซับวูฟเฟอร์
– การตอบสนองความถี่ 27Hz – 125Hz +/- 3dB
– ความไว 114dB
– กำลังขับ 200 วัตต์ พีคสุดที่ 450 วัตต์
– Class D
– ดอกวูฟเฟอร์ขนาด 10 นิ้ว วัสดุ Long Throw Cerametallic
– เทคโนโลยี Front-Firing Slot Port ระบายลม
– เชื่อมต่อ WA-2 เป็นซับวูฟเฟอร์ระบบ Wireless ได้

2.ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch SPL120 Subwoofer
– ลำโพงซับวูฟเฟอร์
– การตอบสนองความถี่ 24Hz – 125Hz +/- 3dB
– ความไว 118dB
– กำลังขับ 300 วัตต์ พีคสุดที่ 600 วัตต์
– Class D
– ดอกวูฟเฟอร์ขนาด 12 นิ้ว วัสดุ Long Throw Cerametallic
– เทคโนโลยี Front-Firing Slot Port ระบายลม
– เชื่อมต่อ WA-2 เป็นซับวูฟเฟอร์ระบบ Wireless ได้

3.ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch SPL150 Subwoofer
– ลำโพงซับวูฟเฟอร์
– การตอบสนองความถี่ 18Hz – 125Hz +/- 3dB
– ความไว 122dB
– กำลังขับ 400 วัตต์ พีคสุดที่ 800 วัตต์
– Class D
– ดอกวูฟเฟอร์ขนาด 15 นิ้ว วัสดุ Long Throw Cerametallic
– เทคโนโลยี Front-Firing Slot Port ระบายลม
– เชื่อมต่อ WA-2 เป็นซับวูฟเฟอร์ระบบ Wireless ได้

2. ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Reference Premiere Subwoofer

ดีไซน์วูฟเฟอร์ใหม่ กรวยลึกกว่าเดิมเพิ่มมวลเสียงเบส
ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Reference Premiereได้มีการดีไซน์วูฟเฟอร์ใหม่แต่ยังเป็นวัสดุที่พรีเมี่ยมอย่าง Cerametallic™ Woofer ที่เป็นเอกลักษณ์ของลำโพง Klipsch Reference Premiere เช่นเดิมมีความแข็งเป็นพิเศษและน้ำหนักเบา เพื่อการบิดเบือนที่น้อยที่สุดและประสิทธิภาพสูงสุด ให้การตอบสนองความถี่ต่ำที่น่าทึ่ง ในซีรี่ย์นี้ได้ออกแบบโครงสร้างกรวยวูฟเฟอร์ใหม่ให้มีลักษณะที่ลึกมากขึ้นกว่าเก่าเพื่อเพิ่มมวลเสียงเบสที่ลงได้ลึกกว่าเดิมมอบประสบการณ์เสียงความถี่ต่ำระดับสุดยอด

CLASS D AMPLIFIER ประสิทธิภาพสูง
ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Reference Premiereเป็นแอมพลิฟายเออร์ที่มีประสิทธิภาพสูงและเพื่อการถ่ายทอดที่สะอาดและสมจริง เอาต์พุตคลาส D ก็ยังช่วยให้มั่นใจถึงเอาต์พุตสูงสุด รายละเอียด และพลังงานความถี่ต่ำที่จะทำงานออกมาอย่างสมบูรณ์แบบในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง สร้างความร้อนน้อยลง แต่กลับมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

เทคโนโลยี Aerofoil พอร์ตลมด้านหน้าที่ออกแบบใหม่
ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Reference Premiere มีการออกแบบภายในตู้ใหม่ที่เรียกว่า “Aerofoil” ที่ช่วยทำให้ลดการรบกวนของลมภายในตู้ลำโพงขณะที่ดอกวูฟเฟอร์กำลังทำงานเพื่อมอบเสียงย่านความถี่ต่ำไม่ผิดเพี้ยน และ ใสสะอาดมากยิ่งขึ้น

ปุ่มควบคุมมองเห็นง่ายขึ้น สร้างเสียงเบสที่เหมาะสม
ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Reference Premiere มีปุ่มควบคุม Low Pass Crossover และ Variable Phase ที่จะช่วยปรับแต่งเสียงเบสได้ตามความต้องการ หรือ เหมาะสมกับห้องนั้น ๆ อีกทั้งยังดีไซน์ใหม่ให้บริเวณด้านบนของปุ่มหมุนค่าระดับเสียง และ ครอสโอเวอร์อ่านได้ง่ายขึ้น โดยมีแท่นเสมือนแว่นขยายเพื่อให้เห็นตัวเลขที่ปุ่มหมุนชัดเจนในขณะที่ลำโพงซับวุฟเฟอร์ของคุณอยู่ชิดผนังห้อง และ ปุ่มต่าง ๆ มีความสว่างแม้จะอยู่ในที่มืดก็ตาม แต่เวลาจะหมุนปรับนั้นควรยืนให้ตรงกับลำโพงแล้วโน้มจากด้านหน้าเพื่อหมุนปรับค่าต่าง ๆ เพราะถ้าหากมองจากด้านข้างแล้วหมุนอาจจะทำให้การตั้งค่านั้นผิดเพี้ยนได้นั้นเอง

เชื่อมต่อ WA-2 เพื่อทำซับวูฟเฟอร์ไร้สายได้ไม่ยาก
ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Reference Premiere มีช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม WA-2 (แยกจำหน่าย) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อไร้สายความละเอียดสูงเพื่อการจัดวางที่ง่ายขึ้นทุกที่ในห้องของคุณ

อินพุตเชื่อมต่อง่าย สามารถใช้งานร่วมกันไม่ยาก
ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Reference Premiere มีช่องอินพุตด้านล่างทำให้สามารถจัดสายไฟให้เป็นระเบียบ สะอาดตา อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อด้วย WA-2 และ RCA พร้อมกันได้ ทำให้คุณสามารถใช้ซับวูฟเฟอร์ตัวเดียวกับหลายระบบในห้องเดียวกันได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้อินพุตไร้สายสำหรับการตั้งค่าโฮมเธียเตอร์ของคุณและอินพุต RCA สำหรับระบบ 2 แชนเนลของคุณ โดยไม่จำเป็นต้องสลับอินพุตเมื่อเปลี่ยนระบบในการใช้งานนั้นเอง ที่สำคัญมีโหมดสแตนด์บายเพื่อช่วยประหยัดไฟในการใช้งานได้อีกด้วย

ดีไซน์ใหม่ เรียบหรู หน้ากากสุดพรีเมี่ยม
ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Reference Premiere มีการออกแบบภายนอกใหม่โดยมีลักษณะโค้งมุมเพื่อให้ดูโมเดิร์นขึ้นประกอบกับผิวลายไม้ที่สวยงามขัดเงาทนทานต่อรอยขีดข่วน อีกทั้งยังออกแบบโครงสร้าง และ เนื้อผ้าหน้ากากลำโพงใหม่ให้ในขณะที่ใส่หน้ากากอยู่นั้นเสียงเหมือนตอนไม่ใส่หน้ากากเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้นโครงสร้างหน้ากากยังทำจากเยื่อไม้ และ มุมลำโพงเป็นหมุดสีทองแดงสุดพรีเมี่ยมยึดกับตัวหน้ากากเพื่อช่วยให้เวลาดอกวูฟเฟอร์ทำงานเคลื่อนไหวแล้วไม่ส่งผลตอนใส่หน้ากาก ที่สำคัญขาลำโพงทำออกมาในรูปแบบใหม่เป็นวัสดุยางอย่างดีเพื่อซับแรงกระแทกในขณะที่ลำโพงทำงานนั้นเอง

ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Reference Premiere มีรุ่นไหนบ้าง

1.ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch RP-1000SW Subwoofer
– ลำโพงซับวูฟเฟอร์
– การตอบสนองความถี่ 19Hz – 131Hz +/- 3dB
– ความไว 118.5dB
– กำลังขับ 300 วัตต์ พีคสุดที่ 600 วัตต์
– Class D
– ดอกวูฟเฟอร์ขนาด 10 นิ้ว วัสดุ Ultra Long Throw Cerametallic
– เทคโนโลยี Aerofoil ระบายลม
– เชื่อมต่อ WA-2 เป็นซับวูฟเฟอร์ระบบ Wireless ได้

2.ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch RP-1200SW Subwoofer
– ลำโพงซับวูฟเฟอร์
– การตอบสนองความถี่ 16.5Hz – 138Hz +/- 3dB
– ความไว 121dB
– กำลังขับ 400 วัตต์ พีคสุดที่ 800 วัตต์
– Class D
– ดอกวูฟเฟอร์ขนาด 12 นิ้ว วัสดุ Ultra Long Throw Cerametallic
– เทคโนโลยี Aerofoil ระบายลม
– เชื่อมต่อ WA-2 เป็นซับวูฟเฟอร์ระบบ Wireless ได้

3.ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch RP-1400SW Subwoofer
– ลำโพงซับวูฟเฟอร์
– การตอบสนองความถี่ 16Hz – 141Hz +/- 3dB
– ความไว 124dB
– กำลังขับ 500 วัตต์ พีคสุดที่ 1000 วัตต์
– Class D
– ดอกวูฟเฟอร์ขนาด 14 นิ้ว วัสดุ Ultra Long Throw Cerametallic
– เทคโนโลยี Aerofoil ระบายลม
– เชื่อมต่อ WA-2 เป็นซับวูฟเฟอร์ระบบ Wireless ได้

4.ลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch RP-1600SW Subwoofer
– ลำโพงซับวูฟเฟอร์
– การตอบสนองความถี่ 14.5Hz – 175Hz +/- 3dB
– ความไว 125.5dB
– กำลังขับ 800 วัตต์ พีคสุดที่ 1600 วัตต์
– Class D
– ดอกวูฟเฟอร์ขนาด 16 นิ้ว วัสดุ Ultra Long Throw Cerametallic
– เทคโนโลยี Aerofoil ระบายลม
– เชื่อมต่อ WA-2 เป็นซับวูฟเฟอร์ระบบ Wireless ได้

สิ้นสุดการรอคอยกับลำโพงซับวูฟเฟอร์ Klipsch Reference Premiere ที่อาจจะทำให้กระเป๋าตังค์ในมือของใครบางคนสั่นแน่นอน สายเบส สายนุ่มลึก สายกระหึ่ม รวบมาให้ทั้งหมดในซีรี่ย์เดียว บอกเลยว่าถ้าได้ฟังแล้วใครที่ยังไม่มีแพลนอัพเกรดลำโพงซับวูฟเฟอร์ใหม่ต้องเปลี่ยนใจเลยแหละครับผม วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ห้ามพลาดกับความที่สุดของ Klipsch ต่อเนื่องมาจนปี 2024

ช้อปสินค้า : https://shopee.co.th/klipsch_official_store

Share this post

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *