ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X ใช้คู่กับเพาเวอร์แอมป์ CPD Series

ในโลกของออดิโอไฟล์และนักเล่นเครื่องเสียง การเลือกองค์ประกอบที่เหมาะสมสำหรับระบบเสียงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องคือการใช้ลำโพงพาสซีฟ (Passive Speakers) ร่วมกับพาวเวอร์แอมป์ (Power Amplifier) แยกต่างหาก

แม้ว่าลำโพงแอคทีฟ (Active Speakers) ที่มีแอมป์ในตัวจะกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น แต่การใช้ลำโพงพาสซีฟคู่กับพาวเวอร์แอมป์ยังคงเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับสูงและความยืดหยุ่นในการปรับแต่งระบบ

ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจว่าทำไมการใช้ลำโพงพาสซีฟควบคู่กับพาวเวอร์แอมป์จึงเป็นตัวเลือกที่ดี และมีข้อดีอย่างไรบ้างสำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับประสบการณ์การฟังเพลงของตนเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นสร้างระบบเครื่องเสียง หรือนักเล่นเครื่องเสียงที่มีประสบการณ์ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงข้อดีของการเลือกใช้ลำโพงพาสซีฟร่วมกับพาวเวอร์แอมป์ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X ใช้คู่กับเพาเวอร์แอมป์ CPD Series

ขอบคุณสำหรับหัวข้อครับ ผมจะอธิบายเกี่ยวกับการใช้ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X คู่กับเพาเวอร์แอมป์ CPD Series ดังนี้:

ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X และเพาเวอร์แอมป์ CPD Series: คู่หูที่ลงตัวสำหรับระบบเสียงคุณภาพสูง

1. ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X:

   – เป็นลำโพงคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานมืออาชีพ

   – ให้เสียงที่ชัดเจน, กว้าง และมีพลัง เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่หลากหลาย

   – ต้องการเพาเวอร์แอมป์ภายนอกเพื่อขับเสียง

2. เพาเวอร์แอมป์ CPD Series:

   – เป็นเพาเวอร์แอมป์ที่มีประสิทธิภาพสูง ออกแบบมาเพื่อขับลำโพงพาสซีฟโดยเฉพาะ

   – มีกำลังขับที่เพียงพอและคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม

   – มีระบบป้องกันต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

3. ข้อดีของการใช้งานร่วมกัน:

   – ให้เสียงที่มีคุณภาพสูง ชัดเจน และมีพลัง

   – สามารถปรับแต่งเสียงได้อย่างละเอียดผ่านการตั้งค่าของเพาเวอร์แอมป์

   – เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ขนาดใหญ่หรืองานที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ

4. การติดตั้งและใช้งาน:

   – ต่อสายลำโพงจาก output ของเพาเวอร์แอมป์ CPD Series เข้ากับ input ของลำโพง EVO-X

   – ปรับแต่งค่าต่างๆ บนเพาเวอร์แอมป์ให้เหมาะสมกับลำโพงและพื้นที่การใช้งาน

   – ควรคำนึงถึงการจัดวางลำโพงและการปรับแต่งเสียงเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด

การใช้ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X คู่กับเพาเวอร์แอมป์ CPD Series จะช่วยให้คุณได้ระบบเสียงที่มีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายสถานการณ์ ตั้งแต่งานแสดงดนตรีสด ไปจนถึงการติดตั้งในห้องประชุมหรือสถานบันเทิง

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือรายละเอียดเฉพาะของรุ่นใดรุ่นหนึ่ง ผมยินดีช่วยอธิบายเพิ่มเติมครับ

ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X Passive Speaker

Elliptical Waveguide Horn 90° x 60°
ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X Series Passive speaker ใช้ปากฮอร์นแบบ Elliptical Waveguide Horn คือ waveguide ที่มี cross section เป็นรูปวงรีออกแบบมาเพื่อให้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสะท้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้สามารถรองรับความถี่ได้สูง และมีประสิทธิภาพในการนำคลื่น

ไดรเวอร์ IRIS X เอกสิทธิเฉพาะ Wharfedale Pro
ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X Series Passive speaker ใช้ไดรเวอร์แบบเดียวกับ Wharfedale Pro Impact-X มีการออกแบบ IRIS X ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ซึ่ง IRIS X Woofer ช่วยให้กระจายความร้อนได้อย่างราบรื่นในระหว่างการใช้งานที่มีระดับเสียงสูงเป็นเวลานาน ในขณะที่ความไวทางไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นช่วยให้มั่นใจได้ว่าทรานสดิวเซอร์จะแปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นเอาท์พุตเสียงได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ทรานดิวเซอร์ที่ร้อนสิ้นเปลืองพลังงาน เสี่ยงต่อความเสียหาย และการบิดเบือน IRIS X Woofer ช่วยลดสิ่งนี้ด้วยการกระจายความร้อนที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพที่ดีขึ้น โดย IRIS X ให้ SPL ที่สูงกว่าโดยมีการบิดเบือนน้อยกว่า

ปุ่มสวิตช์เพิ่มเสียง HF

ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X Series Passive speaker มีปุ่มสวิตช์เพิ่มกำลังเสียงย่าน HF +3 dB ซึ่งจะสามารถใช้เป็น 2 โหมด คือ +3 dB และ โหมดปกติ

ช่องกลมกลางลำโพงสำหรับเสียบขาตั้ง โลโก้อันเป็นเอกลักษณ์
ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X Series Passive speaker มีช่องกลมกลางลำโพงเพื่อเสียบขาตั้งในการใช้ควบคู่กับลำโพงซีรี่ย์อื่น ๆ หรือ ในซีรี่ย์เดียวกันนั้นเอง มาพร้อมโลโก้ด้านบนลำโพงอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ย์นี้

วัสดุลำโพงทำจากไม้ MDF และทาสีแบบ Rhino Rock
ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X Series Passive speaker ใช้วัสดุไม้ MDF หรือ Medium-Density Fiberboard เป็นวัสดุไม้อัดชนิดหนึ่ง ผลิตจากเส้นใยไม้ที่บดละเอียดแล้วนำมาอัดขึ้นรูปด้วยความร้อน และความดันสูง ทำให้ได้แผ่นไม้ที่มีเนื้อแน่น ละเอียด และแข็งแรง ไม้ MDF

มีข้อดีหลายประการ ดังนี้

– ราคาไม่แพง ไม้ MDF เป็นหนึ่งในวัสดุไม้อัดที่มีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับไม้อัดชนิดอื่น ๆ

– น้ำหนักเบา ไม้ MDF มีน้ำหนักเบากว่าไม้เนื้อแข็ง ทำให้สะดวกในการขนส่ง และติดตั้ง

– มีเนื้อไม้ลายสวยงาม ไม้ MDF มีเนื้อไม้ที่สม่ำเสมอตลอดทั้งแผ่น ทำให้สามารถตัด เจาะ ตกแต่งได้ง่ายและสวยงาม

– ทนความชื้น ไม้ MDF ทนความชื้นได้ดีกว่าไม้อัดชนิดอื่น ๆ

และสามารถปิดผิวได้หลากหลาย ไม้ MDF สามารถปิดผิวด้วยวัสดุต่าง ๆ โดยในลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X Series Passive speaker ใช้การทาสี Rhino Rock เพื่อเพิ่มความทนทาน

ด้ามจับลำโพงเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวก
ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X Series Passive speaker มีด้ามจับด้านข้างทุกรุ่นเพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายตำแหน่งลำโพง

คุณสมบัติของลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X Passive Speaker

ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X12 Passive Speaker
– ลำโพง Passive Speaker
– การตอบสนองความถี่ 55 Hz – 20 KHz
– ค่าความไว 98dB
– ความดังพีคสุดที่ 129dB
– ขนาดดอกลำโพง 12 นิ้ว
– Voice Coil 2 นิ้ว
– กำลังขับต่อเนื่อง 600 วัตต์ พีคสูงสุดที่ 1200
– ขนาดผลิตภัณฑ์ 16.93 x 14.57 x 23.23 นิ้ว
– น้ำหนักสุทธิ 22.4 กิโลกรัม

ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X15 Passive Speaker
– ลำโพง Passive Subwoofer
– การตอบสนองความถี่ 45 Hz – 20 KHz
– ค่าความไว 98dB
– ความดังพีคสุดที่ 130dB
– ขนาดดอกลำโพง 15 นิ้ว
– Voice Coil 2.5 นิ้ว
– กำลังขับต่อเนื่อง 700 วัตต์ พีคสูงสุดที่ 1400
– ขนาดผลิตภัณฑ์ 26.57 x 18.11 x 17.72 นิ้ว
– น้ำหนักสุทธิ 28.4 กิโลกรัม

ลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X18B Passive Subwoofer
– ลำโพง Passive Subwoofer
– การตอบสนองความถี่ 30 Hz – 250 Hz
– ค่าความไว 107dB
– ความดังพีคสุดที่ 137dB
– ขนาดดอกลำโพง 18 นิ้ว
– Voice Coil 3 นิ้ว
– กำลังขับต่อเนื่อง 1200 วัตต์ พีคสูงสุดที่ 2400
– ขนาดผลิตภัณฑ์ 24.02 x 20.55 x 24.02 นิ้ว
– น้ำหนักสุทธิ 45.2 กิโลกรัม

การเชื่อมต่อของลำโพงลำโพงพาสซีฟ Wharfedale Pro EVO-X Passive Speaker
– Input 2 x NL4 (speakON Compatible)
– Input 2 x 1/4″ Jacks

เพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD Series Power Amplifier

หม้อแปลงขนาดใหญ่ทรงพลัง

เพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD Series Power Amplifier ใช้หม้อแปลงแบบโทริก (Toroidal Transformer) ขนาดใหญ่ ทนทาน ช่วยจ่ายไฟอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องไปยังวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของเครื่องขยายเสียง ส่งผลให้ได้กำลังขับที่เสถียร และไว้ใจได้ แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีไฟ AC ไม่คงที่ เพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD Series Power Amplifier เป็นแอมป์ Class AB และแอมป์ Class H 2 Channel เป็นรุ่นเริ่มต้นใน CPD Series เหมาะสำหรับงานติดตั้งประจำที่ที่ต้องการแอมป์แบบหลายช่องสัญญาณ ราคาไม่แพง กำลังขับสูง โดยมีน้ำหนักเบา แต่ให้กำลังขับแรงในความต้านทาน 4 โอห์มความต้านทาน 8 โอห์ม

ทำความสะอาดง่าย

เครื่องขยายเสียงมักจะทำงานในสภาพแวดล้อมที่ร้อน และมีฝุ่นละออง ปะทะอยู่ตลอดเวลา นานวันเข้า พัดลมระบายความร้อนของเครื่องขยายเสียงอาจดูดสิ่งเหล่านี้เข้าไปได้ พัดลมระบายความร้อนที่สกปรกจะลดประสิทธิภาพ และอาจนำไปสู่การร้อนจัด ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงออกแบบเพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD Series Power Amplifier ให้ทำความสะอาดง่าย เพียงแค่คลายเกลียวตะแกรงด้านหน้า แปรงทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศ แล้วใส่ตะแกรงกลับเข้าไป การดูแลรักษาที่ง่ายดายนี้ ทำให้เพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD Series Power Amplifier สามารถใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม

การเชื่อมต่อแบบ Speakon
เพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD Series Power Amplifier ด้านหลังเครื่องมีช่องต่อแบบ speakon ที่รองรับการต่อกับสายลำโพงแบบ speakon ซึ่งช่องต่อแบบ speakon เป็นช่องต่อสำหรับเชื่อมต่อสายลำโพงเข้ากับอุปกรณ์เครื่องเสียง เช่น เพาเวอร์แอมป์ ลำโพง หรือ อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้สัญญาณเสียงแบบสองขั้ว ช่องต่อแบบ speakon มีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยมยาว ปลายทั้งสองด้านมีขั้วต่อแบบกลม

ช่องต่อแบบ speakon มีด้วยกันสองประเภทหลัก ๆ คือ

ช่องต่อ speakon 4 ขา เป็นประเภทที่พบเห็นทั่วไป ประกอบด้วยขั้วต่อสองขั้วสำหรับสัญญาณเสียง และอีกสองขั้วสำหรับการป้องกันกระแสไฟฟ้าเกิน

ช่องต่อ speakon 2 ขา เป็นประเภทที่พบเห็นน้อยกว่า ประกอบด้วยขั้วต่อเพียงสองขั้วสำหรับสัญญาณเสียงเท่านั้น

ช่องต่อแบบ speakon มีข้อดีหลายประการ ดังนี้

สามารถรับกระแสไฟฟ้าได้สูง ช่องต่อแบบ speakon สามารถรับกระแสไฟฟ้าได้สูงถึง 16 แอมป์ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานกับลำโพงที่มีกำลังขับสูง

มีความแข็งแรงทนทาน ช่องต่อแบบ speakon ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทำให้มีความแข็งแรงทนทานต่อการเสียดสี หรือ แรงกระแทก

ป้องกันการหลุดออกจากกัน ช่องต่อแบบ speakon มีกลไกป้องกันการหลุดออกจากกัน ทำให้มั่นใจได้ว่าสายลำโพงจะไม่หลุดออกจากกันขณะใช้งาน

ช่องต่อแบบ speakon นิยมใช้ในงานระบบเสียงระดับมืออาชีพ เช่น งานแสดงสด งานคอนเสิร์ต งานกลางแจ้ง เป็นต้น

ปรับโหมดได้หลากหลาย

เพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD Series Power Amplifier ยังมีช่องรับสัญญาณแบบ XLR balanced ช่วยให้เชื่อมต่อกับระบบเสียงได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีปุ่มหมุนด้านหน้าเพื่อตั้งค่าปรับระดับเสียงแต่ละแชลแนล และ 3 โหมดในการเชื่อมต่อ คือ โหมดสเตอริโอ โหมดโมโน โหมดบริจด์

ระบบป้องกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

เพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD Series Power Amplifier มี 5 ระบบในการป้องกันอิเล็กทรอนิกส์
Thermal protect หรือ ระบบป้องกันความร้อน เป็นระบบที่ติดตั้งในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ การทำงานคือตัดการจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์เมื่ออุณหภูมิภายในอุปกรณ์สูงเกินค่าที่กำหนด เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์

Over-current protection ทำหน้าที่สำคัญในการตัดกระแสไฟฟ้า เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้าเกิน โดยตัดวงจรนั้นออกจากระบบไฟฟ้า

Over-current protect, Output DC protect, Output short protect, Power on/off mute

DC protection เป็นการป้องกันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากกระแสไฟฟ้ากระแสตรง โดยอุปกรณ์จะมีไดโอดหรืออุปกรณ์ป้องกันกระแสตรงอยู่ภายใน หากมีกระแสไฟฟ้ากระแสตรงไหลผ่านอุปกรณ์ ไดโอดหรืออุปกรณ์ป้องกันกระแสตรงจะเปลี่ยนกระแสไฟฟ้ากระแสตรงให้เป็นกระแสไฟฟ้ากระแสสลับเพื่อป้องกันความเสียหาย

DC protection มีความสำคัญต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บางประเภท เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กับสัญญาณเสียง เนื่องจากกระแสไฟฟ้ากระแสตรงอาจทำให้อุปกรณ์เสียหายได้
Output short protection (การป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรขาออก) เป็นวงจร หรือ ฟีเจอร์พิเศษภายในอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีหน้าที่ป้องกันความเสียหาย กรณีขาออกของอุปกรณ์นั้นเกิดการไฟฟ้าลัดวงจร

Power on/off mute คือ ฟังก์ชั่นการทำงาน หรือ ปุ่มกดที่ควบคุมการเปิด/ปิดเครื่อง

ตัวอย่างการใช้งานของเพาเวอร์แอมป์ เช่น

ระบบเสียงภายในบ้าน เพาเวอร์แอมป์ใช้สำหรับขับลำโพงภายในบ้าน เช่น ลำโพงชุดโฮมเธียเตอร์

ระบบเสียงกลางแจ้ง เพาเวอร์แอมป์ใช้สำหรับขับลำโพงกลางแจ้ง เช่น ลำโพงในงานแสดงสด ลำโพงสนามกีฬา หรือ ลำโพงงานเทศกาล

ระบบเสียงอาชีพ เพาเวอร์แอมป์ใช้สำหรับงานบันทึกเสียง งานผสมเสียง หรือ งานแสดงสด เป็นต้น

รายละเอียดของเพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD1000 Power Amplifier
– เพาเวอร์แอมป์ 2 Channel
– Class AB
– กำลังขับ 2 x 350 วัตต์ ที่ความต้านทาน 4 โอห์ม (Stereo)
– กำลังขับ 2 x 230 วัตต์ ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม(Stereo)
– กำลังขับ 1 x 700 วัตต์ ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม (Bridge)
– ระบบป้องกันอิเล็กทรอนิกส์ Thermal protect, Over-current protect, Output DC protect, Output short protect, Power on/off mute
– Gain (Rated Power,1 KHz)35 dB
– Main Power 100-240 VAC ±10%, 50/60 Hz- ไฟแสดงสถานะ
– พัดลมปรับความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง
– ขนาด (กว้าง×สูง×ลึก) 88 x 483 x 330 มม.
– น้ำหนักสุทธิ 11 กิโลกรัม

รายละเอียดของเพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD1600 Power Amplifier
– เพาเวอร์แอมป์ 2 Channel
– Class AB
– กำลังขับ 2 x 620 วัตต์ ที่ความต้านทาน 4 โอห์ม (Stereo)
– กำลังขับ 2 x 400 วัตต์ ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม(Stereo)
– กำลังขับ 1 x 1200 วัตต์ ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม (Bridge)
– ระบบป้องกันอิเล็กทรอนิกส์ Thermal protect, Over-current protect, Output DC protect, Output short protect, Power on/off mute
– Gain (Rated Power,1 KHz)37 dB
– Main Power 100-240 VAC ±10%, 50/60 Hz- ไฟแสดงสถานะ
– พัดลมปรับความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง
– ขนาด (กว้าง×สูง×ลึก) 88 x 483 x 330 มม.
– น้ำหนักสุทธิ 14.5 กิโลกรัม

รายละเอียดของเพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD2600 Power Amplifier
– เพาเวอร์แอมป์ 2 Channel
– Class H
– กำลังขับ 2 x 1000 วัตต์ ที่ความต้านทาน 4 โอห์ม (Stereo)
– กำลังขับ 2 x 650 วัตต์ ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม(Stereo)
– กำลังขับ 1 x 1940 วัตต์ ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม (Bridge)
– ระบบป้องกันอิเล็กทรอนิกส์ Thermal protect, Over-current protect, Output DC protect, Output short protect, Power on/off mute
– Gain (Rated Power,1 KHz)39 dB
– Main Power 100-240 VAC ±10%, 50/60 Hz- ไฟแสดงสถานะ
– พัดลมปรับความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง
– ขนาด (กว้าง×สูง×ลึก) 88 x 483 x 450 มม.
– น้ำหนักสุทธิ 19 กิโลกรัม

รายละเอียดของเพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD3600 Power Amplifier
– เพาเวอร์แอมป์ 2 Channel
– Class H
– กำลังขับ 2 x 1300 วัตต์ ที่ความต้านทาน 4 โอห์ม (Stereo)
– กำลังขับ 2 x 870 วัตต์ ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม(Stereo)
– กำลังขับ 1 x 2590 วัตต์ ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม (Bridge)
– ระบบป้องกันอิเล็กทรอนิกส์ Thermal protect, Over-current protect, Output DC protect, Output short protect, Power on/off mute
– Gain (Rated Power,1 KHz)41 dB
– Main Power 100-240 VAC ±10%, 50/60 Hz- ไฟแสดงสถานะ
– พัดลมปรับความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง
– ขนาด (กว้าง×สูง×ลึก) 88 x 483 x 450 มม.
– น้ำหนักสุทธิ 22 กิโลกรัม

รายละเอียดของเพาเวอร์แอมป์ Wharfedale Pro CPD4800 Power Amplifier
– เพาเวอร์แอมป์ 2 Channel
– Class H
– กำลังขับ 2 x 1500 วัตต์ ที่ความต้านทาน 4 โอห์ม (Stereo)
– กำลังขับ 2 x 1000 วัตต์ ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม(Stereo)
– กำลังขับ 1 x 3000 วัตต์ ที่ความต้านทาน 8 โอห์ม (Bridge)
– ระบบป้องกันอิเล็กทรอนิกส์ Thermal protect, Over-current protect, Output DC protect, Output short protect, Power on/off mute
– Gain (Rated Power,1 KHz)42 dB
– Main Power 100-240 VAC ±10%, 50/60 Hz- ไฟแสดงสถานะ
– พัดลมปรับความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง
– ขนาด (กว้าง×สูง×ลึก) 88 x 483 x 450 มม.
– น้ำหนักสุทธิ 23.5 กิโลกรัม

การเลือกใช้ลำโพงพาสซีฟควบคู่กับพาวเวอร์แอมป์เป็นวิธีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถยกระดับคุณภาพเสียงและประสบการณ์การฟังเพลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยความยืดหยุ่น ประสิทธิภาพ และความสามารถในการปรับแต่งที่เหนือกว่า ระบบนี้จึงเป็นที่นิยมในหมู่ออดิโอไฟล์และผู้ชื่นชอบเสียงคุณภาพสูง

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเลือกระบบเครื่องเสียงควรขึ้นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล งบประมาณ และสภาพแวดล้อมการใช้งานของคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือกระบบแบบใด สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้ดื่มด่ำกับเสียงดนตรีที่คุณชื่นชอบ

หากคุณกำลังพิจารณาอัพเกรดระบบเสียงของคุณ การลองฟังลำโพงพาสซีฟกับพาวเวอร์แอมป์ที่คุณสนใจจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว หูของคุณคือเครื่องมือวัดคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด

ขอให้คุณสนุกกับการค้นหาและสร้างสรรค์ระบบเสียงในแบบของคุณเอง และขอให้เพลิดเพลินกับการฟังเพลงผ่านระบบเสียงคุณภาพสูงที่จะพาคุณดื่มด่ำไปกับโลกแห่งเสียงดนตรีอย่างไร้ขีดจำกัด

สนใจสั่งซื้อสินค้า คลิก : https://shopee.co.th/soundrepublic