ไมโครโฟนประเภทไหน ใช้งานอย่างไร
ไมโครโฟนนั้นก็มีหลากหลายประเภทและหลากหลายในวิธีการใช้งาน ซึ่งไมโครโฟนนั้นก็มีทั้งใช้กับไมโครโฟนและใช้สำหรับสนทนา หรือ ร้องเพลง สิ่งที่ควรตระหนักถึง คือ ต้องเลือกไมค์ให้ถูกกับสิ่งที่จะใช้งานและ Pattern ที่เหมาะสมครับ วันนี้เราจึงจะมาบอกว่าไมโครโฟนประเภทไหน ใช้งานอย่างไร
1.ไมโครโฟน WHARFEDALE PRO KMD7
ไมโครโฟน WHARFEDALE PRO KMD7 เป็นไมโครโฟนสำหรับกลองชุดมี 7 ชิ้นด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย KM-3 ( ไมค์จ่อ Over Head 2 ตัว ) , KM-4 ( ไมค์กระเดื่อง 1 ตัว ) , KM-5 ( ไมค์ทอม-สแนร์ 4 ตัว ) ซึ่ง KM ซีรี่ย์ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เสียงที่ชัดเจนและใช้งานได้หลากหลาย ทั้งงานแสดงสด ห้องซ้อมดนตรี การบันทึกเสียง ซึ่งมาพร้อมกับกล่องเก็บอุปกรณ์ที่ดูทันสมัยและเคลื่อนย้ายได้สะดวก
คุณสมบัติของไมโครโฟน Wharfedale Pro KMD-7
– ไมค์กลองชุด 7 ชิ้น
KM-3
– การตอบสนองความถี่ 30Hz-20kHz
– ความต้านทาน <1000โอห์ม
– ความไว (ที่ 1000Hz) -46dBv / Pa
– ค่าความไว SPL สูงสุด >120dB
– น้ำหนัก 120 กรัม
KM-4
– การตอบสนองความถี่ 30Hz-12kHz
– ความต้านทาน 250โอห์ม
– ความไว (ที่ 1000Hz) -54dBv / Pa
– ค่าความไว SPL สูงสุด 135 dB
– น้ำหนัก 240 กรัม
KM-5
– การตอบสนองความถี่ 50Hz-16kHz
– ความต้านทาน 250โอห์ม
– ความไว (ที่ 1000Hz) -54dBv / Pa
– ค่าความไว SPL สูงสุด >130dB
– น้ำหนัก 170 กรัม
– น้ำหนักสุทธิรวม 12.98 Kg.
2.ไมโครโฟน WHARFEDALE PRO DM-57
ไมโครโฟน Wharfedale Pro DM57 Microphone เป็นไมค์ที่ได้รับความนิยมสูงกันอย่างแพร่หลาย เป็นแบรนด์จากประเทศอังกฤษ เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ให้เสียงที่ชัดเจนให้ความละเอียดสูง ตัวสวิตซ์ ปิด เปิด ถูกออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับมืออาชีพ นักร้อง งานพูดไปจนถึงบันทึกเสียงWHARFEDALE PRO DM-57 เป็นไมค์แบบ Dynamic อเนกประสงค์รอบตัว ให้เสียงที่คมชัด ยังมีการเลือกสวิตช์ระยะสั้นเพื่อให้ใช้งานง่าย โพลาร์แพทเทิรน์แคบ แบบความถี่ครบ ทำให้เสียงหอนยาก เสียงที่เข้าโซนรับไมค์นั้นธรรมชาติมาก การตอบสนองความถี่ 50Hz-12kHz ทิศทางการรับเสียงแบบ Super cadioid ซึ่ง Pattern แบบนี้นั้นจะทำให้รับเสียงจากทางด้านหน้าได้อย่างชัดเจนและรับเสียงจากด้านหลังได้เล็กน้อยเพื่อป้องกันเสียงสะท้อนจากลำโพงด้านหลังผู้ใช้ ค่าความดัง 135dB เป็นไมค์อเนกประสงค์ ให้เสียงที่คมชัด ยังมีการเลือกสวิตช์ระยะสั้น เพื่อให้ใช้งานง่าย เป็นไมค์ที่ปรับโทนค่อนข้างง่าย เหมือนกับไมค์หลาย ๆ ตัว โทนดั้งเดิมจะมีลักษณะที่ออกกลางๆหน่อย แต่สามารถ EQ ชดเชยได้ มีความยาวสายถึง 5 เมตร มีการตอบสนองค่อนข้างราบเรียบดี ไม่มีความถี่ไหนโดดออกมา เวลาใช้สวิตซ์เปิดปิดก็เงียบดี ไม่มีเสียงดังรบกวน โดยรวมแล้วถือว่าเป็นไมค์ราคาไม่แพงที่คุณภาพดีทีเดียว น้ำหนักสุทธิ 300 กรัม
คุณสมบัติของไมโครโฟน Wharfedale Pro DM57 Microphone
– ไมโครโฟนแบบ Dynamic
– การตอบสนองความถี่ 50Hz-12kHz
– ทิศทางการรับเสียงแบบ Super cadioid
– ค่าความดัง 135dB
– ความยาวสาย 5 เมตร
– สวิตซ์เปิด – ปิด
– น้ำหนักสุทธิ 300 กรัม
3.ไมโครโฟน PROEL DM585
ไมโครโฟน Proel DM585 เป็นไมค์แบบ Dynamic เสียงที่เข้าโซนรับไมค์นั้นธรรมชาติมาก ทิศทางการรับเสียงแบบ Cadioid ซึ่งใน Pattern แบบนี้จะเป็นการรับเสียงจากทางด้านหน้าและปิดการรับเสียงจากด้านหลังที่สะท้อนจากลำโพงเพื่อให้ได้ยินเสียงกลางที่ชัดเจนจึงเหมาะกับเป็นไมค์ร้องเพลงโดยเฉพาะ ค่าความดัง 135dB วัสดุที่นำมาใช้นั้นเป็นเหล็กสีทอง ในส่วนสวิซต์เปิด-ปิดนั้นจะไม่มีมาให้ในรุ่นนี้ เนื่องด้วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพและลดโอกาสในการผิดพลาดโดนปุ่มเปิด-ปิดที่อาจจะทำให้เป็นปัญหาในขณะร้องเพลงได้การควบคุมเสียงจึงจะควบคุมผ่าน Sound Engineer โดยตรง เพิ่มความ Professional ของตัวคุณได้จากการถือไมโครโฟนให้ถูกวิธี คือ ห้ามกำหัวไมโครโฟนเพราะจะทำให้ทิศทางการรับเสียงนั้นถูกปิดกั้นด้วยมือของคุณที่กำลังกุมอยู่ วิธีที่ถูกต้องต้องจับตรงด้ามไมโครโฟนเพื่อทำให้ไมโครโฟนนั้นได้รับเสียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ น้ำหนักสำหรับไมโครโฟนตัวนี้บอกได้เลยว่าเบาและสามารถถือในเวลานานๆได้สบายเพียงแค่ 320 กรัม
คุณสมบัติของไมโครโฟน PROEL DM585
– ไมค์แบบ Dynamic
– ทิศทางการรับเสียงแบบ Cadioid
– ค่าความดัง 135dB
– น้ำหนัก 320 กรัม
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับไมโครโฟนที่เรานำมาแนะนำ ทั้งไมโครโฟนสำหรับเครื่องดนตรี สำหรับสนทนารวมไปถึงไมคโครโฟนสำหรับร้องเพลง ซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าแต่ละตัวนั้นก็มี Pattern ที่ต่างกันไป ซึ่งถ้าหากคุณสนใจสามารถมาทดลองเสียงก่อนได้ครับที่บริษัท Sound-Republic หรือ ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศครับ
ใส่ความเห็น