เมื่อไหร่ควรอัพเกรด AVR และพิจารณาจากอะไรบ้าง
การอัพเกรดรีซีฟเวอร์เป็นการตัดสินใจสำคัญสำหรับนักเล่นเครื่องเสียงและผู้ชื่นชอบโฮมเธียเตอร์ เนื่องจากรีซีฟเวอร์เป็นหัวใจสำคัญของระบบเสียง การเปลี่ยนหรืออัพเกรดจึงสามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อประสบการณ์การรับชม และรับฟังของคุณ
การพิจารณาว่าเมื่อไหร่ควรอัพเกรดรีซีฟเวอร์นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุการใช้งานของอุปกรณ์ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และความต้องการใหม่ ๆ ของผู้ใช้ บางครั้งการอัพเกรดอาจเป็นเพราะต้องการฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การรองรับ 8K HD หรือ เทคโนโลยีเสียงล่าสุดอย่าง Dirac Live
ในการตัดสินใจอัพเกรด ผู้ใช้ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น งบประมาณ ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบ ขนาดของห้องฟัง และความต้องการด้านการเชื่อมต่อในอนาคต การเลือกรีซีฟเวอร์ใหม่ควรคำนึงถึงการใช้งานในระยะยาวและความสามารถในการรองรับเทคโนโลยีที่กำลังจะมาถึง
การอัพเกรดรีซีฟเวอร์อย่างชาญฉลาดสามารถยกระดับระบบเสียงของคุณได้อย่างมาก แต่ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนนั้นคุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแท้จริง
เมื่อไหร่ควรอัพเกรด AVR และพิจารณาจากอะไรบ้าง
1. อายุการใช้งานของ AVR ปัจจุบัน:
– โดยทั่วไป AVR มีอายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี
– หากใช้งานมานานกว่านี้ อาจพิจารณาอัพเกรดเพื่อรับเทคโนโลยีใหม่
2. การรองรับเทคโนโลยีล่าสุด:
– หาก AVR ไม่รองรับเทคโนโลยีเสียงล่าสุด เช่น Dolby Atmos หรือ DTS:X
– ไม่รองรับวิดีโอความละเอียดสูง เช่น 4K HDR หรือ 8K
3. การเปลี่ยนแปลงของระบบโฮมเธียเตอร์:
– เมื่อคุณอัพเกรดทีวีเป็นรุ่นที่มีความละเอียดสูงขึ้น
– เมื่อต้องการเพิ่มจำนวนลำโพงในระบบ
4. ปัญหาด้านประสิทธิภาพ:
– AVR เริ่มมีปัญหาด้านเสียงหรือภาพ
– กำลังขับไม่เพียงพอสำหรับลำโพงใหม่หรือห้องฟังที่ใหญ่ขึ้น
5. ต้องการฟีเจอร์ใหม่:
– ต้องการการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi หรือ Bluetooth
– ต้องการฟีเจอร์สมาร์ทโฮม เช่น การควบคุมด้วยเสียง
6. การเปลี่ยนแปลงของมาตรฐานการเชื่อมต่อ:
– เมื่อพอร์ต HDMI รุ่นเก่าไม่รองรับอุปกรณ์ใหม่
– ต้องการพอร์ตเชื่อมต่อประเภทใหม่ เช่น HDMI eARC
7. ความต้องการด้านเสียงที่เปลี่ยนไป:
– ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นสำหรับการฟังเพลงหรือดูหนัง
– ต้องการระบบปรับแต่งเสียงอัตโนมัติที่ทันสมัยกว่า
8. การขยายระบบในอนาคต:
– วางแผนจะเพิ่มอุปกรณ์หรือลำโพงในอนาคต
– ต้องการ AVR ที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับการขยายระบบ
9. ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน:
– AVR รุ่นใหม่มักมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีกว่า
– อาจช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาว
10. งบประมาณและความคุ้มค่า:
– พิจารณาว่าการอัพเกรดคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่
– เปรียบเทียบราคาการซ่อมแซม AVR เก่ากับการซื้อใหม่
การตัดสินใจอัพเกรด AVR ควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ร่วมกัน โดยคำนึงถึงความต้องการใช้งานในปัจจุบัน และอนาคต รวมถึงงบประมาณที่มี การอัพเกรดที่เหมาะสมจะช่วยยกระดับประสบการณ์การรับชมและรับฟังของคุณได้อย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยต่างๆ ที่ผู้บริโภคควรพิจารณาเมื่อตัดสินใจอัพเกรดรีซีฟเวอร์
1. งบประมาณ:
– ควรกำหนดงบประมาณที่เหมาะสมโดยพิจารณาจากความต้องการและความสามารถทางการเงิน
– รีซีฟเวอร์มีราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักแสนบาท ซึ่งมักสัมพันธ์กับคุณภาพและฟีเจอร์
– อาจพิจารณาซื้อรุ่นที่สูงกว่างบประมาณเล็กน้อยหากมีฟีเจอร์ที่จำเป็นในอนาคต เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
2. ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่น:
– ตรวจสอบประเภทและจำนวนของพอร์ตเชื่อมต่อ เช่น HDMI, optical, coaxial, RCA
– พิจารณาความต้านทานของลำโพงที่ใช้อยู่ ว่าเข้ากันได้กับรีซีฟเวอร์หรือไม่
– ตรวจสอบการรองรับโปรโตคอลการส่งสัญญาณต่างๆ เช่น HDCP 2.2 สำหรับคอนเทนต์ 4K
3. ขนาดของห้องฟัง:
– ห้องขนาดใหญ่ต้องการกำลังขับที่สูงกว่า โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ 20-30 วัตต์ต่อตารางเมตร
– พิจารณาการสะท้อนของเสียงในห้อง ห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์น้อยอาจต้องการรีซีฟเวอร์ที่มีระบบปรับแต่งเสียงอัตโนมัติ
4. เทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง:
– Dolby Atmos และ DTS:X เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่ให้เสียงแบบ 3 มิติ
– พิจารณาจำนวนช่องเสียงที่รองรับ เช่น 5.1.2 หมายถึง ลำโพงหน้า 3 ตัว, เซอร์ราวด์ 2 ตัว, ซับวูฟเฟอร์ 1 ตัว และลำโพงเหนือศีรษะ 2 ตัว
– ตรวจสอบความสามารถในการอัพสเกลเสียงจากแหล่งที่มีช่องเสียงน้อยกว่า
5. ความละเอียดวิดีโอ:
– รองรับ 4K HDR เป็นมาตรฐานขั้นต่ำในปัจจุบัน
– ตรวจสอบการรองรับ 8K passthrough หากวางแผนอัพเกรดทีวีในอนาคต
– พิจารณาการรองรับ HDR formats ต่างๆ เช่น Dolby Vision, HDR10+
6. การเชื่อมต่อไร้สาย:
– Wi-Fi ช่วยให้สามารถสตรีมเพลงจากบริการออนไลน์ได้โดยตรง
– Bluetooth อาจมีประโยชน์สำหรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
– AirPlay หรือ Chromecast built-in ช่วยให้สตรีมได้ง่ายจากอุปกรณ์ Apple หรือ Android
7. ฟีเจอร์สมาร์ทโฮม:
– การรองรับ Alexa หรือ Google Assistant ช่วยให้ควบคุมด้วยเสียงได้
– ตรวจสอบความสามารถในการเชื่อมต่อกับระบบสมาร์ทโฮมอื่นๆ เช่น Apple HomeKit หรือ Samsung SmartThings
8. การอัพเดทซอฟต์แวร์:
– ตรวจสอบประวัติการอัพเดทของแบรนด์นั้นๆ
– พิจารณาว่ารีซีฟเวอร์สามารถอัพเดทผ่าน Wi-Fi ได้หรือไม่ เพื่อความสะดวก
9. แบรนด์และความน่าเชื่อถือ:
– ศึกษารีวิวและความคิดเห็นของผู้ใช้จริง
– ตรวจสอบนโยบายการรับประกันและบริการหลังการขาย
– พิจารณาประสบการณ์และชื่อเสียงของแบรนด์ในวงการเครื่องเสียง
10. การใช้งานในอนาคต:
– พิจารณาว่าจะมีการเพิ่มลำโพงในอนาคตหรือไม่ และเลือกรีซีฟเวอร์ที่รองรับการขยายระบบ
– ตรวจสอบความสามารถในการรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างละเอียดจะช่วยให้คุณสามารถเลือกรีซีฟเวอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคต แต่ใน AVR Onkyo จัให้ครบทุกฟังก์ชั่นใช้งานกันไปได้แบบยาว ๆ
AVR Onkyo รุ่นแนะนำ
1. รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver
ประสบการณ์ภาพ 8K Ultra HD
ในยุคที่เทคโนโลยีภาพยนตร์ และทีวีก้าวข้ามขีดจำกัด 8K Ultra HD ในรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของการรับชมรายละเอียด ด้วยความละเอียดที่เป็นเลิศถึง 7680×4320 พิกเซล คุณจะได้สัมผัสกับความคมชัดที่เหนือชั้นในแต่ละรายละเอียดของภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ หรือ การเล่นเกมส์ ทั้งนี้อยู่ที่ทีวีของคุณด้วยว่ารองรับการถอดรหัสสัญญาณภาพ 8K Ultra HD หรือไม่
HDMI 2.1 รองรับสัญญาณภาพสูงสุด
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver มีช่องเชื่อมต่อ HDMI 2.1 เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากกว่า HDMI 2.0 ตัวเดิมหลายเท่าตัวเพราะสามารถรองรับสัญญาณภาพได้มากกว่า 4K ซึ่งที่บอกว่าเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคตนั้นไม่เกินจริงเพราะ ณ ปัจจุบันสามารถรองรับได้แค่ 8K แต่ HDMI 2.1 นั้นกลับสามารถรองรับความคมชัดได้ถึง 10K 120Hz เลยทีเดียว (แต่ในปัจจุบันมีเพียง 8K เท่านั้น) อีกทั้งยังรองรับแบนด์วิธขนาดใหญ่ถึง 48Gbps แบบไม่มีบีบอัด ซึ่ง HDMI อันเก่าจะอยู่ที่ 18Gbps ไม่เพียงเท่านั้น HDMI 2.1 นั้นรองรับสัญญาณภาพที่เป็น Dynamic HDR ที่ทำให้ทีวีสามารถปรับภาพได้ตามสัญญาณ Dolby Vision หรือ HDR10+ ได้แบบเฟรมต่อเฟรมและยังปรับปรุงรายละเอียดในเรื่องของภาพหลายส่วน
นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติที่พัฒนาขึ้นก็เพื่อเกมคอนโซลและอุปกรณ์วีอาร์ เช่น PlayStation 5 และ Xbox Series X ก็มาพร้อมกับ HDMI 2.1 ซึ่ง HDMI 2.1 นั้นรองรับเทคโนโลยี Variable Refresh Rate และ Quick Frame Transport ที่ส่งผลให้ภาพที่รับชมมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องมี Source ในการอัพเกรดคุณสมบัติดังกล่าว เช่น กล่องรับสัญญาณดาวน์เทียม เครื่องเล่นแผ่นเสียง และต้องอัพเกรดอุปกรณ์ปลายทางที่แสดงผลทั้งภาพและเสียงอย่าง ซาวด์บาร์ โทรทัศน์ หรือ AV Receiver ที่รองรับ HDMI 2.1 และรวมไปถึงสาย HDMI ก็ต้องเป็นเวอร์ชั่น HDMI 2.1 ด้วย
Klipsch Optimized Mode
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver นั้นรองรับชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch ใน Reference Series, Reference Premiere Series นั้นเองเป็นสัญญาณของการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีเพื่อให้เกิด “ความบันเทิงที่ดีที่สุดในบ้าน” ในโหมดนี้นั้นพิเศษตรงที่คุณจะสามารถตั้งค่าครอสโอเวอร์ของห้องได้ในตำแหน่งลำโพงต่าง ๆ ภายใต้คำสั่ง “Speaker Combo” ไม่ว่าจะเป็นลำโพงเซ็นเตอร์ ลำโพงคู่หน้า ลำโพงเซอร์ราวด์ ลำโพงตั้งพื้น ลำโพง Atmos และซับวูฟเฟอร์คุณก็สามารถตั้งระบบได้หมดจนลงลึกถึงเลือกรุ่นในตำแหน่งลำโพงต่าง ๆ ในห้องอีกด้วยเพื่อให้การตั้งค่าครอสโอเวอร์ของห้องนั้นเสถียรมากยิ่งขึ้นนั้นเอง หรือ ถ้าคุณไม่อยากตั้งค่าเองก็จะมีโหมด “อัตโนมัติ” ที่สามารถออกแบบให้คุณได้รับเสียงที่ดีที่สุดได้เองเปรียบเสมือนมีมืออาชีพดี ๆ ซักคนมาเซ็ตระบบให้เลยแหละ ซึ่งโหมดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเสียงที่จะถูกถอดรหัสออกมาให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่แค่ไหนก็สบายใจได้
ช่องเชื่อมต่อด้านหลังแบบใหม่
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver มีช่องต่อ banana jack ด้านหลัง ข้อดีคือใช้งานง่าย ช่องต่อ banana jack นั้นใช้งานง่าย เพียงเสียบปลั๊ก banana plug เข้าไปในช่องต่อก็สามารถใช้งานได้ โดยไม่ต้องขันเกลียว หรือ หมุนล็อคใด ๆ อีกทั้งยังมาพร้อมความสะดวกกว่ารุ่นเก่า ๆ คือเสียบ และถอดปลั๊กได้อย่างง่ายดาย มาพร้อมความปลอดภัยเพราะมีฉนวนหุ้มป้องกันไฟฟ้าช๊อต และทนทานต่อการใช้งาน สามารถใช้งานได้ยาวนาน รองรับกระแสไฟสูงเหมาะสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟสูง
ระบบเสียง Dolby Atmos® และ DTS:X®
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver เติมประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์แบบผ่าน Dolby Atmos® และ DTS:X® เสียงที่ถูกผสมผสานให้ออกมาแบบ 3 มิติ Dolby Surround® และ DTS® Neural:X ช่วยเสริมการเล่นเสียง 3D ให้ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเพื่อสร้างมิติที่สมจริงจากบนลงล่าง
Dolby Atmos Height Virtualizer
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver มีระบบ Dolby Atmos Height Virtualizer จะทำให้ประสบการณ์การฟังที่สมจริงยิ่งขึ้น สร้างเอฟเฟกต์เสียงเซอร์ราวด์เสมือนจริงโดยไม่ต้องใช้ลำโพงเซอร์ราวด์
เสียงรอบทิศทางยกระดับด้วย DTS Virtual:X™
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver มีระบบ DTS Virtual:X เป็นเทคโนโลยีเสียงเซอร์ราวด์เสมือนจริงที่สร้างสนามเสียง 3 มิติที่สมจริงไม่ว่าจะเป็นระบบ 2.1, 3.1 และ 5.1 ก็สามารถมีเสียงเซอร์ราวด์จำลองได้โดยไม่ต้องใช้ลำโพงเซอร์ราวด์ เสียงเซอร์ราวด์ หรือลำโพงเซอร์ราวด์ด้านหลังใช้ DSP ที่ซับซ้อนเพื่อผู้ฟังที่อยู่ในจุดกึ่งกลางของเสียงนั้นได้รับเสียงที่รอบทิศทาง โดยไม่ข้อจำกัดไม่ว่าจะห้องขนาดเล็ก หรือ ขนาดใหญ่ก็ตาม คุณจะได้รับเสียงเซอร์ราวด์อย่างเท่าเทียม
การประมวลเสียงในห้อง AccuEQ ด้วย AccuReflex™
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver มี AccuEQ สร้างเสียงที่สมบูรณ์แบบที่กลมกลืนกันในห้องของคุณ โดยจะตรวจจับตำแหน่งลำโพง ขนาด และระยะห่างจากตำแหน่งการฟังและตั้งค่าระดับเสียง จากนั้นปรับสมดุลกับลำโพงทั้งหมดร่วมกับ AccuReflex เพิ่มประสิทธิภาพการสร้างเสียงให้ยิ่งมีมิติผ่านลำโพงที่รองรับระบบเสียง Dolby Atmos เพื่อแก้ไขการเฟสของเสียงที่เกิดจากความแตกต่างกันระหว่างเสียงที่มีทิศทางและไม่ใช่ทิศทางให้กลับมากลมกล่อมจากบนลงล่าง
แบ่งปันบรรยากาศการพักผ่อนแบบเป็นส่วนตัว
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver มี Zone B ที่สามารถแบ่งการเล่นเพลง หรือ ดูหนังแยกไปอีกห้องนึงได้เพลิดเพลินกับความบันเทิงของคุณโดยไม่รบกวนใคร
การสตรีม Bluetooth® ที่ราบรื่นและง่ายดาย
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver ทำให้ไม่ว่าจะเล่นเสียงบนโทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือ PC ของคุณก็สามารถสตรีมไปยังรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver ด้วยเทคโนโลยีไร้สาย Bluetooth เมื่อเครื่องรับจับคู่และจดจำอุปกรณ์ของคุณแล้ว เครื่องจะเริ่มเล่นโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ตรวจพบสตรีมเสียง Bluetooth เข้ามา
คลายการบีบอัดด้วย Advanced Music Optimizer™
เมื่อไฟล์เสียงถูกบีบอัดข้อมูลความถี่สูงจะหายไป ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพเสียง โหมดการฟัง DSP ของเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการฟังเพลงขั้นสูงของรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver จะสร้างข้อมูลบิตที่ขาดหายไปใหม่และจะปรับปรุงเสียงให้คุณภาพดี อีกทั้งโหมดนี้ยังปรับคุณภาพการเล่นสตรีมมิ่ง Bluetooth ให้ดีขึ้นอีกด้วย
รายละเอียดของรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-SR3100 5.2 Channel AV Receiver
– 5.2 CH (3.2.2 CH)
– กำลังขับ 80 วัตต์ 8 โอห์ม
– 8K Ultra HD
– HDMI 2.1
– Klipsch Optimized Mode
– Class AB
– Dolby Atmos® และ DTS:X®
– Dolby Atmos Height Virtualizer
– DTS Virtual:X™
– Bluetooth
– AccuEQ Room Calibration
– Advanced Music Optimizer™
– Zone B
2. รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-RZ50 9.2 CH
Dirac Live
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-RZ50 มี Dirac Live แบบ Full Bandwidth โดยระบบ Dirac Live จะมี 2 ระบบ คือ Limited Bandwidth และ Full Bandwidth ซึ่ง 2 ระบบนี้แตกต่างกันที่ Limited Bandwidth จะวิเคราะห์เสียงได้ที่ความถี่ 20Hz – 500HzHZ แต่ Full Bandwidth จะสามารถวิเคราะห์เสียงได้ลึกถึง 20Hz – 20kHz ซึ่งเป็นช่วงความถี่ที่มนุษย์สามารถได้ยินได้ครบถ้วนเลยทีเดียว
Dirac Live มีสิทธิบัตรเฉพาะสำหรับอัลกอลิทึมในการวิเคราะห์ผลกระทบห้องและเพิ่มประสิทธิภาพลำโพงให้สูงขึ้นไม่เพียงแต่ทำให้ระบบเสียงดีขึ้น แต่ยังทำให้จุดการนั่งฟังกว้างขึ้น เวทีเสียงเที่ยงตรง ความชัดเจน เสียงพูด เสียงเบส ดีขึ้นเมื่อเทียบกับห้องที่ไม่ได้ใช้ Dirac Live ประมวลผล ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดว่า Dirac Live นั้นเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การฟังเพลง หรือดูหนังของคุณมีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น เรียกง่ายๆว่าเป็น Final Tune ที่ฝีมือเปรียบเสมือนมีมืออาชีพดี ๆ มาควบคุมให้เลยทีเดียว
ได้การรองรับจาก IMAX
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-RZ50 มีระบบ IMAX Enhanced เป็นมาตรฐานระบบภาพและเสียงที่ร่วมมือกันระหว่าง IMAX Corporation และบริษัทที่เรียกได้ว่ามีชื่อในเรื่องของเสียงมาอย่างยาวนาน Datasat Digital Entertainment ที่เรารู้จักกันในนามของ DTS นั้นเอง โดย IMAX และ DTS นั้นจะเข้าไปควบคุมขั้นตอน Post Production ใน Studio ภาพยนตร์ทั้งในเรื่องของภาพและเสียง รวมไปถึงผู้ผลิต TV Projector เครื่องเสียง Home Theater หรือแม้กระทั่งรีซีฟเวอร์ Onkyo ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่ IMAX Enhanced นั้นตั้งไว้เพื่อที่จะยกระดับประสบการณ์การรับชมภายในบ้านให้เปรียบเสมือนมีโรงภาพยนตร์มาตั้งอยู่ในบ้านให้ได้มากที่สุด
ได้การรองรับจาก THX Certified
ในการที่รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-RZ50 ได้การรองรับจาก THX ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าจะได้รับคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดระดับโรงภาพยนตร์ที่มีความสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานของ THX
ประสบการณ์ภาพ 8K Ultra HD
ในยุคที่เทคโนโลยีภาพยนตร์ และทีวีก้าวข้ามขีดจำกัด 8K Ultra HD ในรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-RZ50 ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของการรับชมรายละเอียด ด้วยความละเอียดที่เป็นเลิศถึง 7680×4320 พิกเซล คุณจะได้สัมผัสกับความคมชัดที่เหนือชั้นในแต่ละรายละเอียดของภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ หรือ การเล่นเกมส์ ทั้งนี้อยู่ที่ทีวีของคุณด้วยว่ารองรับการถอดรหัสสัญญาณภาพ 8K Ultra HD หรือไม่
HDMI 2.1 รองรับสัญญาณภาพสูงสุด
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-RZ50 มีช่องเชื่อมต่อ HDMI 2.1 เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากกว่า HDMI 2.0 ตัวเดิมหลายเท่าตัวเพราะสามารถรองรับสัญญาณภาพได้มากกว่า 4K ซึ่งที่บอกว่าเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคตนั้นไม่เกินจริงเพราะ ณ ปัจจุบันสามารถรองรับได้แค่ 8K แต่ HDMI 2.1 นั้นกลับสามารถรองรับความคมชัดได้ถึง 10K 120Hz เลยทีเดียว (แต่ในปัจจุบันมีเพียง 8K เท่านั้น) อีกทั้งยังรองรับแบนด์วิธขนาดใหญ่ถึง 48Gbps แบบไม่มีบีบอัด ซึ่ง HDMI อันเก่าจะอยู่ที่ 18Gbps ไม่เพียงเท่านั้น HDMI 2.1 นั้นรองรับสัญญาณภาพที่เป็น Dynamic HDR ที่ทำให้ทีวีสามารถปรับภาพได้ตามสัญญาณ Dolby Vision หรือ HDR10+ ได้แบบเฟรมต่อเฟรมและยังปรับปรุงรายละเอียดในเรื่องของภาพหลายส่วน
นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติที่พัฒนาขึ้นก็เพื่อเกมคอนโซลและอุปกรณ์วีอาร์ เช่น PlayStation 5 และ Xbox Series X ก็มาพร้อมกับ HDMI 2.1 ซึ่ง HDMI 2.1 นั้นรองรับเทคโนโลยี Variable Refresh Rate และ Quick Frame Transport ที่ส่งผลให้ภาพที่รับชมมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องมี Source ในการอัพเกรดคุณสมบัติดังกล่าว เช่น กล่องรับสัญญาณดาวน์เทียม เครื่องเล่นแผ่นเสียง และต้องอัพเกรดอุปกรณ์ปลายทางที่แสดงผลทั้งภาพและเสียงอย่าง ซาวด์บาร์ โทรทัศน์ หรือ AV Receiver ที่รองรับ HDMI 2.1 และรวมไปถึงสาย HDMI ก็ต้องเป็นเวอร์ชั่น HDMI 2.1 ด้วย
SMART AV Receiver™ การสตรีมเสียงหลายห้อง
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-RZ50 ถูกขนานนามว่าเป็น SMART AV Receiver เพราะสามารถแบ่งปันเสียงได้รอบบ้านของคุณ ซึ่งรวมถึง Amazon Music HD*, Pandora®, Spotify®, TIDAL, Deezer และ TuneIn และทำงานร่วมกับ Hey Google หรือ Alexa แบ่งปันความบันเทิงผ่าน Works with Sonos, AirPlay 2, DTS Play-Fi® และ Chromecast ได้ในตัว
ถอดรหัสเสียงความสมจริง Dolby Atmos และ DTS:X
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-RZ50 เติมประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์แบบผ่าน Dolby Atmos® และ DTS:X® เสียงที่ถูกผสมผสานให้ออกมาแบบ 3 มิติ Dolby Surround® และ DTS® Neural:X ช่วยเสริมการเล่นเสียง 3D ให้ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเพื่อสร้างมิติที่สมจริงจากบนลงล่าง
รองรับ Klipsch Optimized mode
รีซีฟเวอร์ Onkyo TX-RZ50 รองรับชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch ใน Reference Series นั้นเองเป็นสัญญาณของการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีเพื่อให้เกิด “ความบันเทิงที่ดีที่สุดในบ้าน” ในโหมดนี้นั้นพิเศษตรงที่คุณจะสามารถตั้งค่าครอสโอเวอร์ของห้องได้ในตำแหน่งลำโพงต่างๆภายใต้คำสั่ง “Speaker Combo” ไม่ว่าจะเป็นลำโพงเซ็นเตอร์ ลำโพงคู่หน้า ลำโพงเซอร์ราวด์ ลำโพงตั้งพื้นและซับวูฟเฟอร์คุณก็สามารถตั้งระบบได้หมดจนลงลึกถึงเลือกรุ่นในตำแหน่งลำโพงต่างๆในห้องอีกด้วยเพื่อให้การตั้งค่าครอสโอเวอร์ของห้องนั้นเสถียรมากยิ่งขึ้นนั้นเอง หรือ ถ้าคุณไม่อยากตั้งค่าเองก็จะมีโหมด “อัตโนมัติ” ที่สามารถออกแบบให้คุณได้รับเสียงที่ดีที่สุดได้เองเปลี่ยนเสมือนมีมืออาชีพดีๆซักคนมาเซ็ตระบบให้เลยแหละ ซึ่งโหมดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเสียงที่จะถูดถอดรหัสออกมาให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่แค่ไหนก็สบายใจได้
คุณสมบัติของรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-RZ50 Receiver
– 9.2 Channel
– Dirac Live
– IMAX Certified
– ได้การรับรองจาก THX
– รองรับภาพระดับ 8K/4K
– กำลังขับ 120 W/CH
– Dolby Atmos
– DTS:X
– Bluetooth
– SMART AV Receiver™ multi-room audio streaming
– HI-RES Audio
– HDMI In/Out 7/2
– ใช้งานผ่านแอพฯ Onkyo
การตัดสินใจอัพเกรด AVR เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบโฮมเธียเตอร์ของคุณ แม้ว่าจะไม่มีกฎตายตัวว่าเมื่อใดคือเวลาที่เหมาะสมที่สุด แต่การพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เราได้กล่าวถึงจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
จำไว้ว่า เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่จำเป็นต้องวิ่งตามทุกเทรนด์ สิ่งสำคัญคือการเลือก AVR ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจอย่างไร ขอให้มั่นใจว่าการลงทุนนี้จะนำมาซึ่งความเพลิดเพลินในการรับชมภาพยนตร์และฟังเพลงที่คุณชื่นชอบ เพราะท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายของการมีระบบเครื่องเสียงที่ดีก็เพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์ความบันเทิงอย่างเต็มอิ่มนั่นเอง
สนใจสั่งซื้อสินค้า : https://shopee.co.th/soundrepublic
ใส่ความเห็น