fbpx

ข้อแตกต่างระหว่าง ลำโพงแบบPASSIVE และลำโพงแบบ ACTIVE

ข้อแตกต่างระหว่าง ลำโพงแบบPASSIVE และลำโพงแบบ ACTIVE

ถ้าพูดถึงลำโพงหลายๆคนคงไม่รู้ว่าลำโพงมีกี่ประเภท ถ้าคุณไม่ใช่คอเครื่องเสียงหรือคอลำโพงโดยตรง จะไม่มีทางรู้ได้เลย

วันนี้ทาง  Sound republic  จะมาแนะนำและวิธีจำแนกลำโพงแบบพื้นฐานให้คุณได้รู้จัก  เราไปดูกันเลยว่าลำโพงที่สามารถจำแนกได้นั้นมีกี่กี่ประเภทและแบ่งตามลักษณะการใช้งานอย่างไร

ลำโพงแบบPassive

ลำโพง Passive คือลำโพงที่ไม่มีภาคขยายเสียงหรือ Amplifier ในตัวเอง เป็นเพียงตู้ลำโพงเปล่าๆที่มาพร้อมกับดอกลำโพง จะต้องใช้งานคู่กับเครื่องขยายเสียงหรือ Amplifier มาเชื่อมต่อเพื่อขับให้ลำโพง Passive ทำงาน ซึ่งโทนเสียงของลำโพงก็จะเปลี่ยนตามแอมป์ที่ใช้งาน  ตู้ลำโพงแบบ Passive มักจะมีคุณภาพที่ดีกว่า ลำโพงชนิดนี้ส่วนมากจะถูกใช้งานในงานคอนเสิร์ตใหญ่ๆ หรืองานระบบเสียงห้องประชุมต่าง ๆ เพราะสามารถควบคุมระบบได้จากจุดๆเดียว

ข้อดีของลำโพงแบบ Passive คือ สามารถหาแอมป์ ในโทนเสียงที่ชอบมาปรับเสียงที่จะขับออกจากลำโพงได้  ทำให้ได้โทนเสียงในทางที่ชอบได้ ยิ่งถ้ามีความสามารถในการเล่นเครื่องเสียงแล้วตัวลำโพงก็จะยิ่งทำให้ได้เสียงที่ดีขึ้นอีกด้วย

ลำโพงแบบ Active

ลำโพง Active คือ ลำโพงที่มีภาคขยายเสียงหรือAmplifierในตัวเพียงเสียบปลั๊กไ (สาย AC) ต่อ Input เข้าไปแล้วขับเสียงออกทางลำโพงได้เลยซึ่งผู้ผลิตลำโพงแบบ Active ในแต่ละแบรนด์จะคำนวณและผลิตกำละวัตต์แอมป์ให้เหมาะสมกับดอกของลำโพงมาแล้ว  แอมป์ที่ใช้ก็มีให้เลือกอีกว่าเป็น Class AB หรือ Class D ซึ่งราคาก็จะต่างกันไปด้วย  ส่วนใหญ่ลำโพงแบบActive  จะเหมาะกับงานคอนเสิร์ตงานEvent งานออกบูท หรืองาน Exhibition  ต่างๆ เพราะ สามารถที่จะเคลื่อนย้ายได้สะดวก

ซึ่งส่วนใหญ่จะเหมาะกับงานคอนเสิร์ต, งานออก Event, งานออกบูท หรืองาน Exhibition ต่างๆ บริษัทออแกไนซ์เซอร์

ข้อดี คือ ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายสะดวก เสียงที่ออกมาดีตามมาตรฐาน  

Share this post

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *