วิวัฒนาการของรีซีฟเวอร์จากอนาล็อกสู่ดิจิทัล
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมรีซีฟเวอร์สมัยใหม่ถึงมีฟีเจอร์มากมายและซับซ้อนขนาดนี้? หรือเคยนึกภาพไม่ออกว่าคนรุ่นก่อนฟังเพลงและดูหนังกันอย่างไรโดยไม่มีเทคโนโลยีดิจิทัล? วันนี้เราจะพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่จุดกำเนิดของรีซีฟเวอร์ และเดินทางผ่านประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของอุปกรณ์ที่กลายเป็นหัวใจสำคัญของระบบความบันเทิงภายในบ้าน
จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงเครื่องรับวิทยุธรรมดา รีซีฟเวอร์ได้วิวัฒนาการผ่านยุคสมัยต่าง ๆ จนกลายเป็นศูนย์กลางของระบบเสียง และภาพที่ซับซ้อนในปัจจุบัน แต่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดคือการก้าวข้ามจากโลกของอนาล็อกสู่ยุคดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ปฏิวัติคุณภาพเสียงเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เราเห็นในรีซีฟเวอร์ยุคปัจจุบัน
ในบทความนี้ เราจะพาคุณเดินทางผ่านช่วงเวลาสำคัญของวิวัฒนาการรีซีฟเวอร์ ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของเทคโนโลยีอนาล็อก ผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ จนถึงยุคดิจิทัลในปัจจุบัน เราจะสำรวจว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Dolby Atmos, DTS:X และการเชื่อมต่อเครือข่าย ได้เปลี่ยนแปลงวิธีที่เราใช้งานรีซีฟเวอร์อย่างไร
คุณจะได้เรียนรู้ว่าทำไมการเปลี่ยนแปลงบางอย่างถึงมีความสำคัญมาก และเทคโนโลยีเหล่านี้ส่งผลต่อประสบการณ์การรับชมและรับฟังของเราอย่างไร นอกจากนี้ เราจะมองไปถึงอนาคตของรีซีฟเวอร์ว่าจะมีการพัฒนาต่อไปในทิศทางใด
พร้อมแล้วหรือยังที่จะย้อนรอยประวัติศาสตร์และเข้าใจว่าทำไมรีซีฟเวอร์จึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่ซับซ้อน และทรงพลังอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน? มาเริ่มการเดินทางอันน่าตื่นเต้นนี้ด้วยกันเถอะ!
วิวัฒนาการของรีซีฟเวอร์จากอนาล็อกสู่ดิจิทัล
วิวัฒนาการของรีซีฟเวอร์เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในวงการเครื่องเสียงและความบันเทิงภายในบ้าน เริ่มต้นในยุคแรกๆ ของเครื่องเสียง รีซีฟเวอร์เป็นเพียงอุปกรณ์อนาล็อกที่ทำหน้าที่หลักในการรับสัญญาณวิทยุ และขยายเสียงเท่านั้น
ในช่วงทศวรรษ 1950 ถึง 1960 รีซีฟเวอร์อนาล็อกเริ่มเป็นที่นิยมในบ้านเรือน โดยรวมเอาภาคขยายเสียงและเครื่องรับวิทยุเข้าไว้ในเครื่องเดียวกัน ทำให้ประหยัดพื้นที่และสะดวกในการใช้งาน รีซีฟเวอร์ในยุคนี้มักจะมีปุ่มหมุนขนาดใหญ่สำหรับปรับความถี่วิทยุ และมีหน้าปัดแสดงคลื่นความถี่แบบอนาล็อก การปรับแต่งเสียงในยุคนี้ยังค่อนข้างจำกัด มักมีเพียงการปรับเสียงทุ้มและแหลมเท่านั้น
เมื่อเข้าสู่ยุค 1970 ถึง 1980 เทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวหน้าขึ้นทำให้รีซีฟเวอร์มีขนาดเล็กลงแต่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีการเพิ่มช่องเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์ภายนอกมากขึ้น เช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง เทปคาสเซ็ท และซีดีเพลยเยอร์ในช่วงปลายยุค 80 นอกจากนี้ ยังเริ่มมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในบางส่วน เช่น การแสดงผลความถี่วิทยุแบบดิจิทัล และการใช้รีโมทคอนโทรลแบบอินฟราเรด
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ถึงต้นทศวรรษ 1990 เมื่อเทคโนโลยีเสียงรอบทิศทาง (surround sound) เริ่มเข้ามามีบทบาท รีซีฟเวอร์ในยุคนี้เริ่มรองรับระบบเสียง Dolby Pro Logic ซึ่งเป็นระบบเสียงรอบทิศทางแบบอนาล็อก 4 ช่องเสียง ทำให้ประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่บ้านใกล้เคียงกับโรงภาพยนตร์มากขึ้น
การเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบเกิดขึ้นในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษ 1990 เมื่อรีซีฟเวอร์เริ่มรองรับระบบเสียงดิจิทัลแบบ Dolby Digital และ DTS ซึ่งให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าและมีช่องเสียงมากขึ้น (5.1 ช่องเสียง) การประมวลผลสัญญาณดิจิทัล (DSP) ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ทำให้สามารถปรับแต่งเสียงได้ละเอียดและหลากหลายมากขึ้น เช่น การจำลองเสียงห้องคอนเสิร์ตหรือโรงภาพยนตร์
ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 การเชื่อมต่อแบบดิจิทัลอย่าง HDMI เริ่มเข้ามามีบทบาท ทำให้การส่งสัญญาณภาพและเสียงคุณภาพสูงสามารถทำได้ผ่านสายเพียงเส้นเดียว รีซีฟเวอร์ในยุคนี้เริ่มรองรับระบบเสียงความละเอียดสูง (High-Resolution Audio) และระบบเสียงรอบทิศทางที่มีช่องเสียงมากขึ้น เช่น 7.1 หรือ 9.2 ช่องเสียง
ในทศวรรษ 2010 เป็นต้นมา รีซีฟเวอร์ได้กลายเป็นศูนย์กลางของระบบความบันเทิงภายในบ้านอย่างแท้จริง ด้วยความสามารถในการรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมาย เช่น:
1. การรองรับระบบเสียง object-based เช่น Dolby Atmos และ DTS:X ซึ่งให้ประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่สมจริงมากขึ้น
2. การเชื่อมต่อเครือข่ายและอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถสตรีมเพลงจากบริการออนไลน์หรือจากอุปกรณ์ในเครือข่ายบ้านได้
3. การรองรับ 4K และ 8K video pass-through รวมถึงเทคโนโลยี HDR ต่าง ๆ
4. การใช้ AI และ machine learning ในการปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับห้องฟังและรสนิยมของผู้ใช้
5. การเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi และ Bluetooth ทำให้สะดวกในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พกพา
6. ระบบปรับแต่งเสียงอัตโนมัติที่ซับซ้อนมากขึ้น สามารถวิเคราะห์และปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของห้องได้อย่างแม่นยำ
7. การรองรับระบบเสียงไร้สาย ทำให้การติดตั้งลำโพงในบางตำแหน่งทำได้สะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้ ในยุคปัจจุบัน รีซีฟเวอร์ยังได้รับการพัฒนาให้สามารถทำงานร่วมกับระบบบ้านอัจฉริยะ สามารถควบคุมผ่านแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน และรองรับการอัพเดทซอฟต์แวร์ผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์
การเปลี่ยนแปลงจากอนาล็อกสู่ดิจิทัลไม่เพียงแต่เพิ่มคุณภาพเสียงและความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังทำให้รีซีฟเวอร์กลายเป็นอุปกรณ์ที่มีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นนี้ก็นำมาซึ่งความท้าทายในการใช้งานสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม ทำให้ผู้ผลิตต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ใช้งานง่ายมากขึ้น
ในอนาคต คาดว่ารีซีฟเวอร์จะยังคงพัฒนาต่อไป โดยอาจมุ่งเน้นไปที่การใช้ AI มากขึ้นในการปรับแต่งเสียง การรองรับเทคโนโลยีเสมือนจริง (VR) และเสริมจริง (AR) รวมถึงการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT อื่น ๆ ในบ้านอย่างไร้รอยต่อ ทำให้รีซีฟเวอร์ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของระบบความบันเทิงภายในบ้านต่อไปในอนาคต
กว่าจะมาเป็น ONKYO
ONKYO เป็นองค์กรที่ไม่มีใครเทียบได้ในเรื่องของการรักในเสียง นั่นคือจิตวิญญาณของ ONKYO ในช่วงแรกที่ก่อตั้ง ONKYO ได้รับการยอมรับว่าเป็นแบรนด์ที่ไม่ธรรมดาในหมู่ผู้ที่คลั่งไคล้เรื่องเสียง ซึ่งเป้าหมายต่อไป คือ การปรับแต่งเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้าง ONKYO ให้เข้าถึงผู้คนทั่วโลก
ประวัติโดยย่อ
ONKYO เป็นผู้ผลิตเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคของญี่ปุ่น เชี่ยวชาญด้านโฮมเธียเตอร์และอุปกรณ์เครื่องเสียงระดับพรีเมียม ซึ่งรวมถึงเครื่องรับ AV ลำโพงเสียงรอบทิศทาง และอุปกรณ์พกพาอื่นๆ เริ่มแรกบริษัทก่อตั้งภายใต้ชื่อ Osaka Denki Onkyo K.K. ในปีพ.ศ.2489 และแบรนด์ที่อยู่ใต้ร่มของ ONKYO ปัจจุบันก็คือ Integra
ต่อมาในเดือนมีนาคม พ.ศ.2558 ONKYO ได้ซื้อ Home Electronics Corporation ของ Pioneer Corporation ซึ่งผลิตเครื่องขยายเสียงในโรงภาพยนตร์ เครื่องเล่น Blu-ray และผลิตภัณฑ์ AV อื่นๆ และในปีพ.ศ.2563 Amazon และ Best Buy ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ยุติการขายผลิตภัณฑ์ Onkyo
ในเดือนพฤษภาคม 2564 Voxx International/Sharp Corporation เริ่มเจรจากับ Onkyo เพื่อซื้อบริษัท เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2564 Voxx ประกาศว่าพวกเขาได้บรรลุข้อตกลงแล้ว เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2564 ผู้ถือหุ้นของ Onkyo ได้อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ Voxx และวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ.2564 ได้เข้าสู่ข้อตกลงใบอนุญาตสำหรับแบรนด์ Pioneer
ไทม์ไลน์ประวิติโดยละเอียด
เดือนกันยายน พ.ศ.2489
ก่อตั้งใน Miyakojima-ku เมือง โอซาก้า ภายใต้ชื่อ Osaka Denki Onkyo K.K.
เดือนมีนาคม พ.ศ.2490
เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Osaka Onkyo K.K.
เดือนมิถุนายน พ.ศ.2495
ย้ายสำนักงานใหญ่และโรงงานไปที่ Asahi-ku เมือง โอซาก้า
เดือนมิถุนายน พ.ศ.2500
เข้าทำสัญญาทุนกับ Toshiba Corporation
เดือนมกราคม พ.ศ.2504
เปิดโรงงาน Kori ที่ Neyagawa ในเมืองโอซาก้า
เดือนเมษายน พ.ศ.2512
เปิดโรงงาน Nisshin ที่ Neyagawa ในเมืองโอซาก้า
เดือนกันยายน พ.ศ. 2514
เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Onkyo Corporation
เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2515
ก่อตั้ง Onkyo Europe Electronics GmbH (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือที่ควบรวมกิจการ) เป็นบริษัทขายในเยอรมนี
เดือนพฤศจิกายน 2515
ย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่เมืองเนยากาว่า เมืองโอซากะ และก่อตั้งศูนย์วิจัยเทคโนโลยีอะคูสติก (ปัจจุบันคือศูนย์พัฒนา)
เดือนตุลาคม 2518
ก่อตั้ง Onkyo USA Corporation เป็นบริษัทขาย
เดือนเมษายน 2522
ก่อตั้ง Onkyo America, Inc. เป็นบริษัทผู้ผลิต
เดือนเมษายน 2523
ก่อตั้ง Onkyo Electronics Corporation (ปัจจุบันเป็นบริษัทสาขาที่ควบรวมกิจการ) เป็นบริษัทผู้ผลิตใน Tsu เมือง Mie
เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2529
ก่อตั้ง Tottori Onkyo Corporation (ปัจจุบันเป็นบริษัทลูก) ในฐานะบริษัทผู้ผลิตใน Kurayoshi เมืองTottori
เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2532
ก่อตั้ง Onkyo (Malaysia) Sdn. Bhd. เป็น บริษัท ผู้ผลิตในประเทศมาเลเซีย
เดือนเมษายน พ.ศ.2534
ก่อตั้ง Onkyo Electric (Malaysia) Sdn. Bhd. (ปัจจุบันเป็นบริษัทลูก) ในฐานะบริษัทผู้ผลิตในประเทศมาเลเซีย
เดือนมิถุนายน พ.ศ.2536
ยุบพันธมิตรทุนกับ Toshiba Corporation
เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2536
เริ่มขาย INTEC 275 hi-fi component system
เดือนกันยายน พ.ศ.2536
ก่อตั้ง Onkyo LIV Corporation (ปัจจุบันเป็นบริษัทย่อยที่ควบรวมกิจการ)
เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2537
เริ่มขายครั้งแรกของโลก เครื่องรับ A/V ที่ได้รับการรับรอง THX® (TX-SV919THX) โดยความร่วมมือกับ Lucasfilm Ltd. (ปัจจุบันคือ THX Ltd.)
เดือนมิถุนายน พ.ศ.2538
เริ่มจำหน่ายระบบไมโครคอมโพเนนท์ INTEC 185
เดือนมีนาคม พ.ศ.2539
ก่อตั้ง Business Network Telecom Corporation (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือที่ควบรวมกิจการ)
เดือนมิถุนายน พ.ศ.2540
เข้าถือหุ้นหนึ่งในสามใน Onkyo China Co., Ltd. (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือ) ในฐานะบริษัทขายในฮ่องกง
เดือนมกราคม พ.ศ.2541
เริ่มผลิตและจำหน่ายลำโพงทรงกรวย OMF
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2541
ก่อตั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อใช้ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โรงงาน Nisshin และ Kori
เดือนมีนาคม พ.ศ.2541
เริ่มจำหน่ายบอร์ดเสียงสำหรับ PC
เดือนสิงหาคม พ.ศ.2541
ได้รับใบรับรอง ISO9001 ion มาตรฐานการจัดการคุณภาพระดับสากล
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2543
ซื้ออาคารสำนักงานใหม่ (อาคาร Onkyo Yaesu) ใน Chuo-ku, Tokyo
เดือนสิงหาคม พ.ศ.2543
โอนหุ้นของ Onkyo America, Inc.
เดือนตุลาคม พ.ศ.2543
ซื้อกิจการ Onkyo Shah Alam (Malaysia) Sdn. Bhd. (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือ Onkyo Asia Electronics Sdn. Bhd.)
เดือนธันวาคม พ.ศ.2543
ได้รับการรับรอง ISO14001 มาตรฐานสากลด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม
เดือนเมษายน พ.ศ.2544
เริ่มจำหน่าย GXW-5.1 ซึ่งเป็นระบบโฮมเธียเตอร์ระบบแรกของอุตสาหกรรมที่เข้ากันได้กับDolby® Pro Logic® IIN
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2544
ก่อตั้ง Shanghai Onkyo Electronics Corporation (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือที่ควบรวมกิจการ) เป็นบริษัทผู้ผลิตในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
เดือนมีนาคม พ.ศ.2545
โอนหุ้นของ Business Network Telecom Corporation
เดือนมีนาคม พ.ศ.2545
ก่อตั้ง Onkyo Industrial Components, Inc. เป็นบริษัทขายในสหรัฐอเมริกา
เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2545
เริ่มขายระบบไมโครโฮมเธียเตอร์ BASE-V10
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2546
จดทะเบียนหุ้นที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ในสมาคมผู้ค้าหลักทรัพย์ญี่ปุ่น
เดือนเมษายน พ.ศ.2546
เริ่มดำเนินการ การขาย DTA-7—เครื่องขยายสัญญาณเสียงดิจิตอล 7 ช่องเครื่องแรกของโลก
เดือนมกราคม พ.ศ.2547
ซื้อกิจการ Plus Industry Co., Ltd. (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือในตราสารทุน) และ Zhongshan Purasu Acoustic Co., Ltd. (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือที่ควบรวมกิจการ)
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2547
ก่อตั้ง Shanghai Onkyo International Trade Corporation เป็นบริษัทขายในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
เดือนธันวาคม พ.ศ.2547
ยกเลิกการจดทะเบียนหุ้นที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ในสมาคมผู้ค้าหลักทรัพย์แห่งประเทศญี่ปุ่น และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ JASDAQ
เดือนสิงหาคม พ.ศ.2548
ก่อตั้งร้านเพลง e-onkyo ซึ่งเป็นบริการจัดจำหน่ายเพลงคุณภาพสูง
เดือนกันยายน พ.ศ.2548
ก่อตั้ง CO3 Corporation Ltd. (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือของทุน) ผ่านการควบรวมกิจการกับ J-Stream Inc.
เดือนมกราคม พ.ศ.2549
เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Onkyo USA Corporation ผ่านการควบรวมกิจการกับ Onkyo USA Corporation (บริษัทที่หมดอายุแล้ว) และ Onkyo Industrial Components, Inc. (บริษัทที่ควบรวมกิจการ)
เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2549
เริ่มจำหน่าย HDC-7 ซึ่งเป็น HD Media Computer ซึ่งรวม Intel® Viiv เทคโนโลยี ™ เป็นครั้งแรกสำหรับผู้ผลิตเครื่องเสียงเฉพาะทาง
เดือนมิถุนายน พ.ศ.2549
Onkyo China Co. Ltd. ก่อตั้ง Guangzhou Onkyo Electronics Corporation (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือของตราสารทุน)
เดือนมิถุนายน พ.ศ.2549
Onkyo LIV Corporation เข้าซื้อกิจการ Business Network Telecom Corporation
เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2549
ก่อตั้ง DO Corporation (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือในตราสารทุน) ) ผ่านการควบรวมกิจการกับ Daikoku Denki Co.,Ltd
เดือนสิงหาคม พ.ศ.2549
เปลี่ยนชื่อ Onkyo LIV Corporation เป็น Onkyo Marketing Corporation
เดือนสิงหาคม พ.ศ.2550
เข้าซื้อกิจการ Sotec Co., Ltd.
เดือนมกราคม พ.ศ.2551
เข้าซื้อกิจการ Technol Eight Corporation
เดือนมีนาคม พ.ศ.2551
Liquidated Onkyo (มาเลเซีย) ) Sdn. Bhd.
เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2551
ชำระบัญชี Shanghai Onkyo International Trade Corporation
เดือนกันยายน พ.ศ.2551
ร่วมกับบริษัท โซเทค จำกัด
เดือนกันยายน พ.ศ.2551
ร่วม Onkyo Entertainment Technology Corporation กับ Onkyo Marketing Corporation และเปลี่ยนชื่อเป็น Onkyo Entertainment Technology Corporation (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือที่ควบรวมกิจการ)
เดือนตุลาคม พ.ศ.2551
ได้รับดอกเบี้ยเพิ่มเติม ใน Onkyo China Co., Ltd. (ปัจจุบันเป็นบริษัทลูกที่ควบรวมกิจการ)
เดือนตุลาคม พ.ศ.2551
เข้าซื้อกิจการ S&O Electronics (Malaysia) Sdn. Bhd. (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือทุน)
เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2552
โอนหุ้นทั้งหมดของ Technol Eight Corporation
เดือนตุลาคม พ.ศ.2552
เปิดตัวผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบรนด์ Onkyo (ญี่ปุ่นเท่านั้น)
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2553
ก่อตั้ง Onkyo China PRC (เซี่ยงไฮ้) เป็น บริษัท ย่อยที่ Onkyo China Co. ถือหุ้นทั้งหมด Ltd. (ปัจจุบันเป็นบริษัทลูกที่ควบรวมกิจการ)
เดือนเมษายน พ.ศ.2553
จดทะเบียนในตลาด JASDAQ ในตลาดหลักทรัพย์โอซาก้า (ภายหลังการควบรวมกิจการระหว่าง JASDAQ Securities Exchange และ Osaka Securities Exchange)
เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2553
ร่วมกันก่อตั้ง Onkyo Inventa (Hong Kong) Co., Ltd. (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือของหลักทรัพย์) ) ร่วมกับ Inventec Corporation
เดือนมิถุนายน พ.ศ.2553
ก่อตั้ง Onkyo Inventa Technologies (Tianjin) Co., Ltd. (ปัจจุบันเป็นบริษัทในเครือของผู้ถือหุ้น) ในฐานะบริษัทในเครือของ Onkyo Inventa (Hong Kong) Co., Ltd.
เดือนตุลาคม พ.ศ.2553
ก่อตั้ง Onkyo Corporation เป็นบริษัทโฮลดิ้ง
เดือนตุลาคม พ.ศ.2553
จดทะเบียนในตลาด JASDAQ ในตลาดหลักทรัพย์โอซาก้า
เดือนธันวาคม พ.ศ.2553
ก่อตั้ง Onkyo Sound & Vision Corporation, Onkyo Digital Solutions Corporation, Onkyo Development & Man ufacturing Corporation และ Onkyo Marketing Japan Corporation ภายหลังแยกบริษัทภายใต้โครงสร้างบริษัทโฮลดิ้ง
เดือนมีนาคม พ.ศ.2554
โอนหุ้นของ Onkyo Inventa (Hong Kong) Co., Ltd.
เดือนมีนาคม พ.ศ.2554
Onkyo Inventa (Hong Kong) Co., Ltd. และ Onkyo Inventa Technologies ( Tianjin) Co., Ltd. กลายเป็นบริษัทในเครือของ Onkyo
เดือนมกราคม พ.ศ.2555
เข้าสู่เมืองหลวงและพันธมิตรทางธุรกิจกับ Gibson Guitar Corporation
เดือนมกราคม พ.ศ.2555
โอนหุ้นของ Onkyo USA Corporation ไปที่ Gibson Guitar Corporation
เดือนมกราคม พ.ศ.2555
เข้าสู่เมืองหลวงและเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ TEAC Corporation
เดือนมีนาคม พ.ศ.2555
สำนักงานใหญ่ย้ายไปที่ Chuo -ku เมืองโอซาก้า Onkyo Technical Center ยังคงอยู่ในเมือง Neyagawa เมือง Osaka
เดือนมิถุนายน พ.ศ.2555
ก่อตั้ง Moneual Onkyo Lifestyle Inc. ผ่านการควบรวมกิจการกับ Moneual Inc. กรกฎาคม 2555 ก่อตั้ง Digital Acoustic Corporation
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2555
โอนจำนวนหุ้น Digital Acoustic Corporation ให้กับ TEAC Corporation เข้าซื้อหุ้นใน TEAC System Create Corporation ( ปัจจุบัน TEAC Onkyo Solutions Corporation) Onkyo Europe Electronics GmbH เข้าซื้อธุรกิจการตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงสำหรับผู้บริโภคของ TEAC EUROPE GmbH
เดือนมีนาคม พ.ศ.2557
เข้าร่วมเป็นพันธมิตรด้านทุนกับ Imagination Technologies Group plc ซึ่งตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักร โอนจำนวนหุ้น Digital Acoustic Corporation ให้กับ Daikoku Denki Co., Ltd.
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2557
Onkyo Trading Corporation (OTC) ดูดซับ Onkyo Creation Corporation (บริษัทที่เลิกใช้แล้ว) OTC เข้ารับบริการเครือข่ายและแผนกบริหารของ Onkyo Entertainment Technology Corporation (OET) Onkyo Development & Manufacturing Corporation ดูดซับ OET (บริษัทที่เลิกใช้แล้ว) OTC การเปลี่ยนชื่อเป็น Onkyo Entertainment Technology Corporation
เดือนมีนาคม พ.ศ.2558
เข้าซื้อกิจการบริษัท Pioneer Home Electronics Corporation ทั้งหมด ซึ่งรวมธุรกิจเกี่ยวกับ A/V โทรศัพท์และหูฟังในบ้านของกลุ่ม Pioneer เข้ากับ Onkyo Pioneer Home Electronics Corporation เปลี่ยนชื่อเป็น Onkyo & Pioneer Corporation Digital Acoustic Corporation เปลี่ยนชื่อเป็น Onkyo & Pioneer Technology Corporation Onkyo Entertainment Technology Corporation เปลี่ยนชื่อเป็น Onkyo & Pioneer Innovations Corporation กลุ่ม Onkyo เข้าซื้อกิจการธุรกิจในต่างประเทศของกลุ่ม Pioneer
เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2558
Onkyo & Pioneer Corporation ดูดซับธุรกิจ AV ของ Onkyo Corporation
เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2558
ธุรกิจและ Capital Alliance กับ Kawai Musical Instruments Manufacturing Co., Ltd.
เดือนกันยายน พ.ศ.2559
ฉลองครบรอบ 70 ปี
เดือนมีนาคม พ.ศ.2561
เปลี่ยนชื่อของ Onkyo & Pioneer Technology Corporation เป็น Onkyo Marketing Corporation โอนหุ้นของ Onkyo Marketing Corporation ไปยัง Onkyo Digital Solutions Corporation
เดือนเมษายน 2561
ก่อตั้ง Onkyo Sports Corporation
พ.ศ.2563
Amazon และ Best Buy ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ยุติการขายผลิตภัณฑ์ Onkyo
เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2564
Voxx International/Sharp Corporation เริ่มเจรจากับ Onkyo เพื่อซื้อบริษัท
เดือนมิถุนายน พ.ศ.2564
ผู้ถือหุ้นของ Onkyo ได้อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ Voxx
เมื่อมองย้อนกลับไปตลอดเส้นทางวิวัฒนาการของรีซีฟเวอร์ เราจะเห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงจากอนาล็อกสู่ดิจิทัลนั้นเป็นมากกว่าแค่การพัฒนาทางเทคโนโลยี แต่เป็นการปฏิวัติวิธีที่เรารับฟัง และรับชมสื่อบันเทิงในบ้านของเราอย่างแท้จริง
จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงเครื่องรับวิทยุ และขยายเสียงอย่างง่าย รีซีฟเวอร์ได้กลายเป็นศูนย์กลางอัจฉริยะของระบบความบันเทิงภายในบ้าน ที่สามารถจัดการทั้งภาพ และเสียงคุณภาพสูง เชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลากหลาย และปรับแต่งเสียงให้เหมาะกับห้องฟังของเราได้อย่างแม่นยำ
การก้าวสู่ยุคดิจิทัลไม่เพียงแต่เพิ่มคุณภาพเสียงให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังเปิดประตูสู่โลกของความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงรอบทิศทางที่สมจริงยิ่งขึ้น การสตรีมมิ่งเพลงคุณภาพสูง หรือ การควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลมาจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีดิจิทัล
แม้ว่ารีซีฟเวอร์จะมีความซับซ้อนมากขึ้น แต่ผู้ผลิตก็พยายามทำให้การใช้งานง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ด้วยระบบติดตั้งอัตโนมัติและอินเตอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น ทำให้เทคโนโลยีระดับสูงนี้เข้าถึงได้สำหรับทุกคน
มองไปข้างหน้า เราอาจเห็นการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น เช่น การใช้ AI ในการปรับแต่งเสียง การรวมเข้ากับระบบบ้านอัจฉริยะอย่างไร้รอยต่อ หรือแม้แต่การรองรับเทคโนโลยีเสมือนจริง และเสริมจริง
ในท้ายที่สุด วิวัฒนาการของรีซีฟเวอร์จากอนาล็อกสู่ดิจิทัลไม่ใช่แค่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางเทคนิค แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราสัมผัสกับเสียง และภาพในบ้านของเรา มันเป็นการเดินทางที่น่าทึ่งจากอดีตสู่ปัจจุบัน และเป็นการเปิดประตูสู่อนาคตที่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด
เมื่อคุณเปิดรีซีฟเวอร์ในครั้งต่อไป ลองนึกถึงเส้นทางอันยาวไกลที่เทคโนโลยีนี้ได้ผ่านมา และตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะในโลกของเสียงและภาพ การพัฒนาไม่เคยหยุดนิ่ง และประสบการณ์ที่ดีที่สุดอาจยังมาไม่ถึง!
ช้อปสินค้า : https://www.facebook.com/soundrepublic.th
ใส่ความเห็น