Controlled Dispersion™ Technology ในลำโพงฝังฝ้า Klipsch คืออะไร

ในโลกของเครื่องเสียงคุณภาพสูง ชื่อ Klipsch เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ผลิตลำโพงระดับพรีเมียม แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากคุณภาพเสียงอันโดดเด่นแล้ว Klipsch ยังมีนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การฟังเพลงของคุณให้ดียิ่งขึ้นไปอีก? หนึ่งในนวัตกรรมนั้นคือ Controlled Dispersion™ Technology

แต่ Controlled Dispersion™ Technology คืออะไร? ทำไมเทคโนโลยีนี้ถึงมีความสำคัญสำหรับลำโพงฝังฝ้า? และมันสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราฟังเพลงในบ้านได้อย่างไร?

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Controlled Dispersion™ Technology อย่างละเอียด ตั้งแต่หลักการทำงาน ประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับ ไปจนถึงเหตุผลที่ทำให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็นจุดขายสำคัญของลำโพงฝังฝ้า Klipsch

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเล่นเครื่องเสียงมือโปร หรือเพียงแค่ผู้ที่ชื่นชอบการฟังเพลงคุณภาพสูงในบ้าน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าทำไม Controlled Dispersion™ Technology ถึงเป็นก้าวสำคัญในวงการเครื่องเสียงติดตั้งภายในบ้าน และอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกลำโพงฝังฝ้าสำหรับบ้านของคุณ

Controlled Dispersion™ Technology ในลำโพงฝังฝ้า Klipsch คืออะไร

เทคโนโลยีควบคุมการกระจายเสียง (Controlled Dispersion™ Technology)

เทคโนโลยีควบคุมการกระจายเสียง (Controlled Dispersion™ Technology) ช่วยให้สามารถปรับทิศทางของทวีตเตอร์และวูฟเฟอร์ได้สูงสุดถึง 15 องศาในทุกทิศทาง คุณสมบัตินี้ช่วยให้:

1. ได้การตอบสนองความถี่แบบ on-axis ที่สมบูรณ์แบบ แม้ในตำแหน่งการฟังที่ไม่อยู่ตรงกลาง

2. เป็นโซลูชั่นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการติดตั้งในตำแหน่งที่ท้าทาย

ด้วยเทคโนโลยีนี้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งทิศทางของลำโพงเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด แม้ในสภาพแวดล้อมการติดตั้งที่ไม่เอื้ออำนวย หรือเมื่อผู้ฟังไม่ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด

การตอบสนองความถี่แบบ on-axis คืออะไร

การตอบสนองความถี่แบบ on-axis (on-axis frequency response) เป็นคำศัพท์ทางเทคนิคในด้านเสียงและลำโพง ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้:

1. ความหมาย:

   – เป็นการวัดการตอบสนองความถี่ของลำโพงในแนวตรงหรือแกนกลางของลำโพง

   – แสดงถึงความสามารถของลำโพงในการผลิตเสียงที่ความถี่ต่างๆ เมื่อผู้ฟังอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกับแนวกลางของลำโพงพอดี

2. ความสำคัญ:

   – ใช้เป็นตัวชี้วัดคุณภาพเสียงของลำโพงในสภาวะที่เหมาะสมที่สุด

   – แสดงถึงความสมดุลของเสียงในช่วงความถี่ต่างๆ

3. การนำไปใช้:

   – ช่วยในการออกแบบและปรับแต่งลำโพงให้มีคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด

   – ใช้ในการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของลำโพงต่างๆ

4. ข้อจำกัด:

   – ในสถานการณ์จริง ผู้ฟังอาจไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง on-axis เสมอไป

   – การตอบสนองความถี่อาจเปลี่ยนแปลงเมื่อฟังจากมุมอื่นๆ (off-axis)

ในกรณีของเทคโนโลยี Controlled Dispersion™ ที่คุณถามก่อนหน้านี้ การปรับทิศทางของลำโพงได้ช่วยให้สามารถรักษาการตอบสนองความถี่แบบ on-axis ที่ดี แม้ผู้ฟังจะไม่ได้อยู่ตรงกลาง หรือ ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด

ลำโพงฝังฝ้า Klipsch รุ่นไหนบ้างมีเทคโนโลยีดังกล่าว

ลำโพงฝังฝ้า Klipsch Professional Reference series ใช้ส่วนประกอบทางเสียงและการออกแบบปากลำโพงแบบเดียวกับชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch Reference ที่ได้รับการยอมรับอย่างสูง ผสมผสานความสวยงามของลำโพงติดตั้งกับประสิทธิภาพ และเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีย์ Klipsch Reference ได้อย่างลงตัว โดยปากลำโพงเป็น Tractrix® ทรงกลมทำให้ลำโพงฝังฝ้า Klipsch Professional Reference series สามารถให้เสียงที่ทรงพลัง มีรายละเอียด และเป็นเอกลักษณ์ของ Klipsch Reference กับระบบเสียงรอบทิศทาง หรือ ระบบโฮมเธียเตอร์ของคุณ

2. ระบบติดตั้ง SecureFit™

ระบบติดตั้งแบบโมดูลาร์ที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยให้สามารถใช้มือปรับขาล็อคให้มีแรงยึดที่เหมาะสม ลดโอกาสการขันแน่นเกินไปซึ่งอาจทำให้ขาล็อคแตก หรือ ผนังยิปซัมร้าว จากนั้นโมดูลลำโพงจะถูกยึดกับกรอบด้วยสกรูเครื่อง (แทนสกรูยิปซัมแบบดั้งเดิม) ทำให้การติดตั้งแข็งแรง และมีความเสถียรทางเสียงมากกว่าคู่แข่ง

3. เทคโนโลยีควบคุมการกระจายเสียง (Controlled Dispersion Technology™)

เทคโนโลยี CDT ช่วยให้สามารถปรับทิศทางของทวีตเตอร์และวูฟเฟอร์ได้สูงสุด 15 องศาในทุกทิศทาง ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการตอบสนองความถี่แบบ on-axis ในเกือบทุกตำแหน่งการฟัง

4. ตะแกรงแม่เหล็กแบบไร้ขอบใหม่ล่าสุด

ตะแกรงเหล็กเคลือบสีผงแม่เหล็กที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด ช่วยกำจัดขอบให้กลมกลืนกับพื้นที่ใช้สอยได้อย่างไร้ที่ติ

5. มีตะแกรงทั้งแบบกลมและสี่เหลี่ยม

ลำโพงติดตั้งไม่เพียงแต่ต้องให้เสียงที่ยอดเยี่ยม แต่ยังต้องกลมกลืนกับการออกแบบภายในที่หรูหราที่สุด ลำโพงฝังฝ้า Klipsch Professional Reference series มาพร้อมตะแกรงทั้งแบบกลม และสี่เหลี่ยมในกล่อง ทำให้ดูดีในทุกพื้นที่ตั้งแต่แกะกล่อง

6. มีแผ่นป้องกันสีแบบ PVC

นอกจากนี้ยังมีแผ่นป้องกันสี PVC แบบแม่เหล็กที่สามารถใช้ปิดโมดูลลำโพงเพื่อป้องกันสีหรือฝุ่นจากการก่อสร้างระหว่างการปรับปรุงหรือตกแต่งใหม่

1. ลำโพงฝังฝ้า Klipsch Pro 16 RC In-Ceiling Speaker

– ลำโพงฝังฝ้า
– ดอกวูฟเฟอร์ขนาด 6.5 นิ้ว
– ดอกทวีตเตอร์ขนาด 1 นิ้ว
– การตอบสนาองความถี่ 63Hz-23KHz +/- 3dB
– ความดังสูงสุด 94dB
– กำลังขับสูงสุด 200 วัตต์

2. ลำโพงฝังฝ้า Klipsch Pro 18 RC In-Ceiling Speaker

– ลำโพงฝังฝ้า
– ดอกวูฟเฟอร์ขนาด 8 นิ้ว
– ดอกทวีตเตอร์ขนาด 1 นิ้ว
– การตอบสนาองความถี่ 56Hz-23KHz +/- 3dB
– ความดังสูงสุด 95dB
– กำลังขับสูงสุด 200 วัตต์

ท้ายที่สุดแล้ว Controlled Dispersion™ Technology ของ Klipsch ไม่เพียงแต่เป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นการปฏิวัติวิธีที่เราสัมผัสกับเสียงในพื้นที่ใช้สอยของเรา

ด้วยความสามารถในการปรับทิศทางของทวีตเตอร์และวูฟเฟอร์ได้ถึง 15 องศาในทุกทิศทาง เทคโนโลยีนี้ช่วยให้เราสามารถเอาชนะข้อจำกัดของการติดตั้งลำโพงฝังฝ้าแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องตำแหน่งการติดตั้งที่ไม่เหมาะสม หรือจุดรับฟังที่ไม่อยู่ตรงกลาง

Controlled Dispersion™ Technology ไม่เพียงแต่ให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังมอบความยืดหยุ่นและอิสระในการออกแบบห้องของคุณ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะสูญเสียคุณภาพเสียงไป

สำหรับผู้ที่หลงใหลในคุณภาพเสียงระดับไฮเอนด์ แต่ต้องการความสวยงามและความเรียบร้อยในการติดตั้ง ลำโพงฝังฝ้า Klipsch พร้อม Controlled Dispersion™ Technology อาจเป็นคำตอบสุดท้ายที่คุณกำลังมองหา

ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว Klipsch ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขายังคงเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบัน แต่ยังมองไปถึงอนาคตของการรับฟังเสียงในบ้านอีกด้วย

Controlled Dispersion™ Technology จึงไม่ใช่แค่คุณสมบัติเพิ่มเติมของลำโพง แต่เป็นการยกระดับประสบการณ์การฟังเพลงของคุณให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนในห้อง

ช้อปสินค้า : https://www.facebook.com/soundrepublic.th