KEF New R Series กับนวัตกรรมใหม่ที่พร้อมก้าวข้ามยุค 4.0
วันนี้ทางแอดมินได้นำเทคโนโลยีใหม่ที่ทาง KEF ได้คิดค้นและพัฒนาในการก้าวข้ามรุ่นเดิมที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ซึ่งตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมากับรุ่น R Series หรือเรียกเต็มๆ “Reference Series” ได้มีการคิดค้นวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่ยังคงไว้ในหลักการและแนวทางเดิมอยู่คือ เน้นเสียงคมชัด เสียงเบสนุ่มลึก จะดูหนังก็ผ่อนคลาย จะฟังเพลงก็ได้สบายๆ ตามสไตล์อังกฤษ ซึ่งมาใน Gen ของ KEF R Series 2018 จะมีจุดเด่นหลักๆอะไรกันบ้างที่สร้างความแตกต่างออกไปจากรุ่นเดิม เราลองไปชมกันเลยดีกว่าครับ
มาเริ่มที่เรื่องของดีไซน์กันก่อนเลยครับ
1. Elegance and poise, redefined
ตัวตู้สีใหม่ มีความ Hi End กว่าเดิม เหมาะกับความคลาสสิคในแบบโมเดิร์น ตัวสีของตู้รุ่น KEF New R Series มีมาให้เลือกกันถึง 3 สีด้วยกัน ได้แก่ สีดำ, สีขาว และสีวอนัทสีใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามา อีกจุดนึงที่สังเกตเห็นได้ชัดเลยนั้นก็คือ สีของดอกไดรเวอร์จะเป็นสีเดียวกันกลืนไปกับสีของตู้ลำโพง ทำให้ KEF New R Series 2018 ดูพรีเมี่ยมและสง่างามมากยิ่งขึ้น
2. Traditional craftsmanship with modern accuracy
ตะแกรงหน้ากากลำโพงจะกลืนสีไปกับตัวตู้ลำโพง เข้ากันได้อย่างลงตัวไม่เพียงแค่ตัวดอกไดรเวอร์ของลำโพงเท่านั้น ที่มีสีกลืนไปกับลำโพง แต่ตะแกรงที่ทาง KEF R Series 2018 ได้ทำออกมาใหม่ก็มีสีที่กลืนไปกับตู้ลำโพงสีนั้นๆ ซึ่งเรียกได้ว่าสร้างความโมเดิร์น และเป็นความลงตัวของสีที่ทาง KEF ได้ผลิตมากันเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ! ยังมีการประทับตรา Logo KEF ลงบนตระแกรงซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับตัวตู้ลำโพงพอดี สร้างความหรูหราได้อย่างน่าอัศจรรย์
ต่อมาจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยีที่ทาง KEF ได้มีการพัฒนา เพื่อยกระดับความสมจริงให้มากขึ้นไปอีกขั้นกันบ้าง
1.New 12th Generation Uni-Q
นวัตกรรมไดรเวอร์ใหม่ Uni-Q รุ่น 12 กับการเดินหน้าพัฒนาเสียงกลางแหลมให้มีการตอบสนองที่ราบรื่นมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปลี่ยนแกนแม่เหล็กรูปแบบใหม่ และมีกรวยตรงกลางแบบใหม่ มีรูปทรงขนาดเล็กเป็นพิเศษ ซึ่งมีผลทำให้เสียงกลางแหลมที่ดีอยู่แล้วกลับดีมากขึ้นยิ่งกว่าเดิมไปอีก
2. New bass drivers
ตัวขับเสียงเบสใหม่รูปกรวย และเซอร์ราวด์ที่มาช่วยลดความผิดเพี้ยนย่านเสียงความถี่ต่ำ ด้วยการควบคุมที่แม่นยำลดการสั่นสะเทือนแม้เพียงเล็กน้อย
3. Shadow Flare Diffraction Control
การควบคุมการกระจายของ Shadow Flare ที่เข้ามาช่วยขจัดสัญญาณที่จะเข้ามารบกวนเพราะฉะนั้น Shadow Flare เปรียบเสมือนเป็นวงแหวนที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเสียงให้กับไดรเวอร์ Uni-Q ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
4. Flexible Port Technology
ผนังพอร์ตที่ยืดหยุ่นช่วยยกระดับประสิทธิภาพของลำโพงได้อีกขั้น โดยวิศวกรของทาง KEF ได้ร่วมกันออกแบบครอสโอเวอร์ที่เหมาะสมที่สุดแล้วนำมาทดสอบ เพื่อพอร์ตที่ช่วยลดเสียงสะท้อนจากการสั่นสะเทือน และตำแหน่งในการจัดวางพอร์ตก็ได้ถูกคำนวณมาเป็นอย่างดีเรียบร้อย เพื่อให้ได้พอร์ตที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุด
ซึ่งก็จบกันไปแล้วนะครับกับจุดเด่นหลักๆของ KEF New R Series 2018 หากท่านใดมีข้อสงสัยอยากสอบถาม สามารถสอบถามเข้ามาได้เลยนะครับผม ซึ่งหลังจากนี้ไปจะเป็นหัวข้ออะไร? จะเป็นเนื้อหาอะไรที่เกี่ยวกับ KEF R Series 2018 กันบ้าง โปรดรอติดตามกันไว้ได้เลยนะครับผม
ใส่ความเห็น