การคืนชีพแผ่นเสียงที่สุดของความคลาสสิก ด้วยลำโพง Klipsch

จากสถิติของยอดขายแผ่นเสียงในปี 2022 นั้นไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าพุ่งแซงยอดขายของแผ่นซีดีจากรายงานของสมาคมอุตสาหกรรมแผ่นเสียงแห่งอเมริกา (Record Industry Association of America) และ การฟังเพลงในรูปแบบ physical นั้นเติบโตขึ้น ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่เข้ามามีผลกับผู้บริโภคกลุ่มนี้

อีกทั้งในมุมของศิลปินนั้นการผลิตผลงานออกมาในทุกแพลตฟอร์มก็เรียกได้ว่าเป็นการ “ประสบความสำเร็จ” อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะเข้าถึงการฟังเพลงทุกรูปแบบของผู้เสพงานดนตรีนั้นเอง

ในยุคดิจิทัล แต่หลาย ๆ คนกลับหันไปสนใจการฟังเพลงในยุค Analog จนแผ่นเสียงได้ถูกกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง การคืนชีพแผ่นเสียงที่สุดของความคลาสสิก ด้วยลำโพง Klipsch นั้นไม่ยาก และสะดวกกว่าที่คิด จะง่ายอย่างไร ปัจจัยอะไรที่ผู้บริโภคหันมาเสพความบันเทิงผ่านแผ่นเสียงนั้นไปดูกันเลยครับ

ปัจจัยที่ผู้บริโภคหันมาเสพการฟังเพลงผ่านแผ่นเสียง

1. คุณภาพเสียงที่ดี

การฟังเพลงผ่านแผ่นเสียงนั้นต่างเป็นที่ยอมรับของนักเล่นออดิโอไฟล์ส่วนใหญ่ที่มองว่าได้เสียงที่นุ่มนวล เข้มข้น และมีรายละเอียดของดนตรีที่มากกว่า เพราะแผ่นเสียงได้รับการบันทึกเสียงแบบ Analog ซึ่งเป็นเสียงในแบบที่ศิลปินอยากถ่ายทอดมากที่สุด ไม่ว่าจะบันทึกช่วงความถี่ ไดนามิกที่กว้างกว่าการบันทึกแบบดิจิทัลจึงทำให้เสียงที่ได้นั้นธรรมชาติมากกว่า โดยทั้งนี้ลำโพงที่ใช้ถ่ายทอดเพลงนั้นก็มีส่วนช่วยให้คุณภาพเสียงที่กล่าวมานั้นดีขึ้นไปอีก ทว่าลำโพง Klipsch นั้นโดดเด่นในเรื่องรายละเอียดเสียง ด้วยเทคโนโลยี TRACTRIX HORN ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Klipsch นั้นทำให้คุณไว้วางใจได้ว่าจะมอบพลังเสียง รายละเอียด และอารมณ์ของเสียงดนตรีที่คุณชื่นชอบได้อย่างไม่มีตกหล่น

คุณภาพเสียงของแผ่นเสียงอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น คุณภาพของการผลิตแผ่น สภาพของแผ่นเสียง และคุณภาพของแผ่นเสียงและลำโพงที่ใช้เล่น นอกจากนี้ ผู้ฟังบางคนอาจชอบเสียงรูปแบบดิจิทัลสำหรับเพลงบางประเภทหรือสภาพแวดล้อมในการฟัง เช่น เพลงอิเล็กทรอนิกส์หรือเพลงแดนซ์ในคลับ

ถึงแม้ว่าแผ่นเสียงจะสามารถให้ประโยชน์มากมายเหนือรูปแบบดิจิทัล แต่ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณาด้วยเช่นกัน ข้อเสียเปรียบหลักประการหนึ่งคืออัลบั้มที่ยาวขึ้นอาจส่งผลให้มีกรู๊ฟที่บางกว่าและเสียงที่เงียบกว่า อีกทั้งความถี่เสียงย่านสูงและเสียงเบสที่หนักแน่นอาจถูกทำให้เกิดความผิดเพี้ยนและมีเสียงนอยซ์รบกวนเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ แผ่นเสียงสมัยใหม่จำนวนมากผลิตขึ้นจากต้นแบบดิจิทัล ซึ่งอาจไม่ได้ให้คุณภาพในระดับเดียวกันกับการบันทึกเสียงแบบแอนะล็อก อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเสียงที่เป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์ของไวนิล ข้อจำกัดเหล่านี้อาจถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์

ดังนั้นความชื่นชอบในคุณภาพเสียงของแผ่นเสียงจึงเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล แม้ว่าแผ่นเสียงอาจไม่ใช่รูปแบบเพลงที่สะดวกหรือเข้าถึงได้มากที่สุด แต่ก็ยังคงมอบประสบการณ์การฟังที่ไม่เหมือนใครและคุ้มค่าที่แฟนเพลงหลายคนยากจะต้านทาน

2. ของสะสมส่วนบุคคล

ของสะสมของคนรักเสียงดนตรี ยิ่งหายากยิ่งควรสะสมเพราะบางศิลปินก็ผลิตในปริมาณที่จำกัด หรือ มีจำหน่ายแค่บางประเทศเท่านั้น สาเหตุนี้ทำให้การส่งต่อแผ่นเสียงในอนาคตยิ่งเพิ่มมูลค่าเข้าไปอีก คนที่ชื่นชอบในเสียงดนตรีมักจะมีรสนิยมเฉพาะของตนเอง การสะสมแผ่นเสียงนั้นก็สะท้อนแนวเพลง และตัวตนของผู้ที่ชื่นชอบ

3. ประสบการณ์ใหม่ในการฟังเพลง

ในยุคที่ความวินเทจกลับมามีอิทธิพล และเป็นกระแสอีกครั้งไม่ว่าจะการแต่งตัวแนว Y2K , ถ่ายกล้องฟิล์ม, การฟังเพลงในแบบอดีต ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ไม่เคยได้สัมผัสจึงทำให้มีพฤติกรรมอยากสัมผัสความแปลกใหม่ จึงทำให้คน Gen Z นั้นเป็นนักสะสมแผ่นเสียงจำนวนมาก โดยการมองถึงการเสพดนตรี และสิ่งที่คนสนใจ คือ หน้าปก เครดิต การออกแบบงานอาร์ตเวิร์ก รวมทั้งสีสัน กลิ่นของกระดาษ และเรื่องราวเบื้องหลังงานศิลปะชิ้นนี้

ประโยชน์ของเครื่องเล่น Turntable คืออะไร

1. คุณภาพเสียงที่ดี

Turntable มีการออกแบบและส่วนประกอบที่ช่วยให้เสียงมีคุณภาพสูง โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับแผ่นเสียงที่มีการบันทึกเสียงอย่างถูกต้อง คุณจะได้ยินรายละเอียด และความคมชัดของเสียงที่ไม่เหมือนใคร

2. ประสบการณ์การฟังที่เพลิดเพลิน

เมื่อใช้ Turntable เพื่อฟังเพลง คุณจะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่าง และพิเศษมากขึ้น ระบบการฟังที่ใช้แผ่นเสียงช่วยสร้างบรรยากาศ และความพิเศษในการรับชมเพลง

3.การส่งเสริมการเชื่อมต่อสังคม

Turntable เป็นอุปกรณ์ที่สร้างความสนใจ และเชื่อมต่อกับผู้คนในชุมชนเพลง การแลกเปลี่ยนแผ่นเสียงหรือ แนะนำเพลงกันเป็นที่พูดถึงบ่อยเมื่อใช้ Turntable ซึ่งสร้างพื้นที่สำหรับการพูดคุยรวมไปถึงการแบ่งปันความสนใจในเพลง

การคืนชีพแผ่นเสียงที่สุดของความคลาสสิก ด้วยลำโพง Klipsch

ลำโพง Klipsch นั้นในซีรี่ย์ Heritage Inspired ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ชื่นชอบความคลาสสิก วินเทจ โดยเฉพาะ ไม่เพียงแค่นั้นการเชื่อมต่อที่ใส่มาในซีรี่ย์นี้นั้นก็เรียกได้ว่าครบครัน มีช่อง Phono สำหรับต่อกับ Turntable อีกด้วย การถ่ายทอดเสียงที่ไม่มีที่ติ มอบพลัง รายละเอียด ไดนามิก ที่ทำให้เพลงที่คุณฟังเพิ่มเลเวลขึ้นไปอีกขั้นแน่นอน

1.ลำโพงแอคทีฟ Klipsch The Fives Powered Speaker

– การตอบสนองความถี่ 50Hz-25kHz
– ค่าความดังสูงสุดที่ 109 dB
– กำลังขับ 160/320W
– ไดรเวอร์พิเศษ Tweeter ไทเทเนียมให้เสียงแหลม 1 นิ้ว
– เทคโนโลยี Tractrix Horn
– ไดรเวอร์วูฟเฟอร์ 4.5 นิ้ว
– ระบบ Bass Reflex ที่เป็นท่อช่วยระบายเสียงเบสผ่าน Rear-Firing Tractrix
– Dynamic Bass EQ 46Hz@ 35% Volume
– การถอดรหัส 192kHz/24 bit
– ควบคุมผ่านปุ่ม Volume Knob หรือ รีโมทควบคุมระยะไกล

2.ลำโพงแอคทีฟ Klipsch The Sevens Powered Speaker

– การตอบสนองความถี่ 39Hz-25kHz
– ค่าความดังสูงสุดที่ 112 dB
– กำลังขับ 200/400W
– ไดรเวอร์พิเศษ Tweeter ไทเทเนียมให้เสียงแหลม 1 นิ้ว
– เทคโนโลยี Tractrix Horn
– ไดรเวอร์วูฟเฟอร์ 6.5 นิ้ว
– ระบบ Bass Reflex ที่เป็นท่อช่วยระบายเสียงเบสผ่าน Rear-Firing Tractrix
– Dynamic Bass EQ 28Hz@ 35% Volume
– การถอดรหัส 192kHz/24 bit
– ควบคุมผ่านปุ่ม Volume Knob หรือ รีโมทควบคุมระยะไกล

3.ลำโพงแอคทีฟ Klipsch The Nines Powered Speaker

– การตอบสนองความถี่ 34Hz-25kHz
– ค่าความดังสูงสุดที่ 115 dB
– กำลังขับ 240/480W
– ไดรเวอร์พิเศษ Tweeter ไทเทเนียมให้เสียงแหลม 1 นิ้ว
– เทคโนโลยี Tractrix Horn
– ไดรเวอร์วูฟเฟอร์ 6.5 นิ้ว
– ระบบ Bass Reflex ที่เป็นท่อช่วยระบายเสียงเบสผ่าน Rear-Firing Tractrix
– Dynamic Bass EQ 22Hz@ 35% Volume
– การถอดรหัส 192kHz/24 bit
– ควบคุมผ่านปุ่ม Volume Knob หรือ รีโมทควบคุมระยะไกล

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับลำโพงแอคทีฟ Klipsch สเปคครบครัน ราคาสุดคุ้ม หากใครที่กำลังมองหาลำโพงแอคทีฟที่มีการใช้งานได้อย่างหลากหลาย และสามารถใช้งานร่วมกับแผ่นเสียงได้นั้นสามารถเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้
สั่งซื้อสินค้า : https://shopee.co.th/klipsch_official_store ได้เลยครับผม