ลำโพงไลน์อาเรย์ Wharfedale Pro WLA Active Series ที่จะปฏิวัติวงการคอนเสิร์ต

คุณเคยสงสัยไหมว่าอะไรคือหัวใจสำคัญที่ทำให้คอนเสิร์ตระดับโลกสามารถส่งมอบประสบการณ์เสียงที่ทรงพลังและชัดเจนให้กับผู้ชมนับหมื่นคนได้? คำตอบอยู่ที่เทคโนโลยีลำโพงไลน์อาเรย์ และวันนี้ Wharfedale Pro กำลังนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าวงการคอนเสิร์ตไปตลอดกาล
Wharfedale Pro WLA Active Series ไม่ใช่แค่ลำโพงไลน์อาเรย์ธรรมดา แต่เป็นระบบเสียงที่ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับการออกแบบที่ชาญฉลาด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของวงการบันเทิงสดในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ เทศกาลดนตรีกลางแจ้ง หรือแม้แต่งานอีเวนต์ในอาคาร
แต่อะไรทำให้ WLA Active Series แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด? ทำไมผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงถึงกล่าวว่านี่อาจเป็นการปฏิวัติวงการคอนเสิร์ตครั้งใหม่? และเทคโนโลยีอะไรที่ซ่อนอยู่ภายใต้โครงสร้างอันทันสมัยของลำโพงชุดนี้?
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจคุณสมบัติเด่นของ Wharfedale Pro WLA Active Series ตั้งแต่การออกแบบ Hybrid Curvature Array ที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงเทคโนโลยี EVO-Fold ที่ปฏิวัติวิธีการกระจายเสียง เราจะอธิบายว่าทำไมการใช้ไดรเวอร์ coaxial จาก Beyma ถึงเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพเสียง และทำไมระบบ DSP ในตัวถึงเป็นกุญแจสำคัญในการปรับแต่งเสียงให้สมบูรณ์แบบในทุกสภาพแวดล้อม
พร้อมแล้วหรือยังที่จะเจาะลึกว่าทำไม Wharfedale Pro WLA Active Series ถึงอาจเป็นอนาคตของระบบเสียงสำหรับงานคอนเสิร์ตและอีเวนต์ขนาดใหญ่? มาร่วมกันค้นพบว่าเทคโนโลยีนี้จะเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราสัมผัสประสบการณ์ดนตรีสดอย่างไร และทำไมมันถึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้จัดงานและบริษัทให้เช่าอุปกรณ์เสียง
เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเรากำลังจะพาคุณไปสู่อนาคตของเทคโนโลยีเสียงที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าวงการคอนเสิร์ตไปตลอดกาล!
ลำโพงไลน์อาเรย์ Wharfedale Pro WLA Active Series ที่จะปฏิวัติวงการคอนเสิร์ต
ระบบ WLA-1A แอ็คทีฟนี้ยังคงคุณสมบัติด้านฮาร์ดแวร์ที่ยอดเยี่ยมของรุ่นพาสซีฟ WLA-1 ไว้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวอฟไกด์แบบ EVO-Fold, ไดรเวอร์จาก Beyma และการจัดวางแบบ Hybrid Curvature Array แต่เพิ่มเติมด้วยภาคขยายเสียงในตัวที่ทรงพลังและ DSP ที่ปรับแต่งมาอย่างดี ทำให้ง่ายต่อการสร้างเสียงที่ยอดเยี่ยมในสถานที่ที่หลากหลาย
ด้านหลังของ WLA-112A และ WLA-115A มีช่องเชื่อมต่อและส่วนควบคุมที่จำเป็นทั้งหมด สามารถเลือก DSP preset ได้ 8 แบบพร้อมฟิลเตอร์ FIR และควบคุมระบบจากระยะไกลผ่านเครือข่าย RS485
ลำโพงเสียงเต็มย่านความถี่ใช้ไดรเวอร์แบบ coaxial จาก Beyma ซึ่งผลิตในยุโรป การออกแบบแบบ coaxial นี้ให้การครอบคลุมเสียงที่สม่ำเสมอทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง ในขณะที่ลำโพงไลน์อาเรย์แบบทั่วไปมักจะมีการครอบคลุมเสียงที่ไม่สม่ำเสมอในแกนใดแกนหนึ่ง
ระบบ WLA-1A จึงให้การครอบคลุมเสียงที่สม่ำเสมอทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง ต่างจากระบบ constant curvature แบบสองทางทั่วไปที่มักมีการครอบคลุมเสียงไม่สม่ำเสมอในอย่างน้อยหนึ่งแกน
เทคโนโลยี Hybrid Curvature Array

Hybrid Curvature Array เป็นเทคโนโลยีการออกแบบลำโพงไลน์อาเรย์ที่พัฒนาโดย Wharfedale Pro สำหรับระบบ WLA Active Series ซึ่งผสมผสานข้อดีของระบบไลน์อาเรย์แบบดั้งเดิมกับแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อแก้ปัญหาที่มักพบในระบบไลน์อาเรย์ทั่วไป โดยมีลักษณะสำคัญดังนี้:
1. การจัดวางลำโพงแบบโค้ง:
– ลำโพงแต่ละตัวถูกจัดวางในมุมที่แตกต่างกันเล็กน้อย สร้างรูปแบบโค้งที่ต่อเนื่อง
– ช่วยให้การกระจายเสียงมีความสม่ำเสมอมากขึ้นตลอดพื้นที่รับฟัง
2. ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง:
– สามารถปรับมุมระหว่างลำโพงแต่ละตัวได้ ทำให้สามารถปรับแต่งการกระจายเสียงให้เหมาะกับพื้นที่ที่หลากหลาย
3. ประสิทธิภาพในการรวมคลื่นเสียง:
– ออกแบบให้คลื่นเสียงจากลำโพงแต่ละตัวรวมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการแทรกสอดที่ไม่พึงประสงค์
4. ความสามารถในการขยายขนาด:
– สามารถเพิ่มจำนวนลำโพงได้มากกว่าระบบไลน์อาเรย์แบบ 2 ทางทั่วไป (สูงสุดถึง 8 ตัว)
– รองรับการติดตั้งที่หลากหลาย ทั้งแบบแขวนและตั้งพื้น
5. การควบคุมการกระจายเสียงที่ดีขึ้น:
– ให้การควบคุมการกระจายเสียงทั้งในแนวตั้งและแนวนอนที่แม่นยำกว่า
6. การทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่น:
– ออกแบบให้ทำงานร่วมกับ EVO-Fold waveguide และไดรเวอร์ coaxial ได้อย่างลงตัว
– เพิ่มประสิทธิภาพในการส่งผ่านเสียงและลดปัญหาเฟส
7. ความปลอดภัยในการติดตั้ง:
– รองรับการติดตั้งที่ปลอดภัยด้วยอัตราความปลอดภัยสูง (safety factor) ถึง 10:1 สำหรับ 6 ตัว หรือ 7:1 สำหรับ 8 ตัว
8. ประสิทธิภาพในพื้นที่ขนาดใหญ่:
– เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น คอนเสิร์ตกลางแจ้ง หรือสนามกีฬา
– ให้ความดังและความชัดเจนของเสียงที่สม่ำเสมอแม้ในระยะไกล
Hybrid Curvature Array จึงเป็นนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาหลักของระบบไลน์อาเรย์แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในเรื่องของการกระจายเสียงที่สม่ำเสมอและการปรับแต่งให้เหมาะกับพื้นที่ที่หลากหลาย ทำให้ระบบ WLA Active Series มีความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูงในการใช้งานจริง
ไดรเวอร์แบบ coaxial

ไดรเวอร์แบบ coaxial (หรือเรียกอีกอย่างว่า coaxial driver) เป็นการออกแบบลำโพงที่รวมตัวขับเสียงสองตัวหรือมากกว่าไว้บนแกนเดียวกัน โดยทั่วไปจะเป็นการรวมตัวขับเสียงความถี่ต่ำ (วูฟเฟอร์) และตัวขับเสียงความถี่สูง (ทวีตเตอร์) เข้าด้วยกัน สำหรับไดรเวอร์ของ Beyma ที่ใช้ในระบบ WLA-1A นั้นมีคุณสมบัติพิเศษดังนี้:
1. การออกแบบแบบ Coaxial:
– ทวีตเตอร์ถูกวางอยู่ตรงกลางของวูฟเฟอร์ ทำให้เสียงความถี่ต่ำและสูงออกมาจากจุดเดียวกัน
– ช่วยลดปัญหาการแทรกสอดของคลื่นเสียงที่มักเกิดในลำโพงแบบแยกตัวขับ
2. คุณภาพการผลิต:
– Beyma เป็นผู้ผลิตลำโพงชั้นนำจากยุโรป มีชื่อเสียงด้านคุณภาพและความน่าเชื่อถือ
– ใช้วัสดุคุณภาพสูงในการผลิต เช่น แม่เหล็กนีโอดีเมียมที่ให้พลังเสียงสูง
3. การตอบสนองความถี่:
– ให้การตอบสนองความถี่ที่กว้างและราบเรียบ ครอบคลุมทั้งเสียงกลางและเสียงแหลม
– ช่วยให้เสียงมีความชัดเจนและเป็นธรรมชาติ
4. การกระจายเสียง:
– ให้การกระจายเสียงที่สม่ำเสมอทั้งในแนวนอนและแนวตั้ง
– ช่วยลดปัญหา “เสียงหลุด” ที่มักเกิดในลำโพงแบบแยกตัวขับเมื่อผู้ฟังเคลื่อนที่
5. ประสิทธิภาพ:
– มีประสิทธิภาพสูง สามารถให้ระดับความดังเสียงสูงโดยใช้กำลังขับต่ำ
– เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบเสียงขนาดใหญ่ เช่น งานคอนเสิร์ตหรืออีเวนต์
6. ความทนทาน:
– ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานหนัก สามารถทนต่อกำลังขับสูงได้เป็นเวลานาน
– เหมาะสำหรับการใช้งานแบบมืออาชีพที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง
7. การทำงานร่วมกับ EVO-Fold Waveguide:
– ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับ waveguide แบบ EVO-Fold ได้อย่างลงตัว
– ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการกระจายเสียงของระบบ line array
การใช้ไดรเวอร์แบบ coaxial จาก Beyma ในระบบ WLA-1A ช่วยให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม มีความสมดุล และให้การกระจายเสียงที่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมากสำหรับระบบเสียงระดับมืออาชีพ
EVO-FOLD

เทคโนโลยี EVO-Fold ช่วยลดปัญหาเฟสที่มักเกิดขึ้นในไลน์อาเรย์แบบ 2 ทางทั่วไป ซึ่งมีตำแหน่งของไดรเวอร์ห่างกัน โดยใช้ไดรเวอร์ความถี่กลาง-สูงแบบ coaxial ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ร่วมกับฮอร์น EVO-Fold ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ฮอร์นนี้ผสมผสานการออกแบบแบบพับและแบบ manifold โดยใช้เทคโนโลยี FEM ที่ทันสมัยที่สุดในการสร้าง
พลังงานความถี่กลาง-สูงที่ออกมาจะให้เสียงที่มีเฟสเดียวกันในช่วงความถี่ที่กว้างที่สุด และในแง่ของการออกแบบ รายละเอียดของ waveguide EVO-Fold นั้นถือเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง
ซับวูฟเฟอร์จัดเต็มขนาด 18 และ 21 นิ้ว
ไดรเวอร์ซับวูฟเฟอร์ขนาด 21 นิ้วผลิตโดย Beyma ในยุโรป มีคุณสมบัติพิเศษเพื่อให้ได้ระดับความดันเสียงต่ำที่สุดที่ควบคุมได้ การผสมผสานซับวูฟเฟอร์ขนาด 21 นิ้วและ 18 นิ้วจะให้เสียงต่ำสุด (infrabass) จากตัว 21 นิ้ว และเสียงกระแทกที่รุนแรงจากตัว 18 นิ้ว เป็นการผสมผสานที่ต้องได้สัมผัส!
ทางเลือกในการติดตั้ง

1. จัดวางแนวตั้งและแขวนเป็นอาเรย์แบบ ‘ดั้งเดิม’
– อุปกรณ์เสริม WLA-1 Common Fly Frame ช่วยให้มั่นคงและแขวนได้ง่าย
2. จัดวางบนพื้น
– อุปกรณ์เสริม SP-4 pole ช่วยเชื่อมต่อซับวูฟเฟอร์ 21 นิ้วหรือ 18 นิ้วกับลำโพงด้านบนได้อย่างง่ายดาย
– ช่องเสียบขาตั้งขนาด 35 มม. แบบปรับมุมได้สองระดับในลำโพงเสียงเต็มย่านช่วยให้ปรับมุมได้อย่างปลอดภัยและง่ายดาย
3. จัดวางเป็นอาเรย์แนวนอนแบบแขวน
– อุปกรณ์เสริม WLA-1 Link ช่วยเชื่อมต่อลำโพง WLA-112A หรือ WLA-115A สามตัวเพื่อสร้างอาเรย์แนวนอนที่ให้การกระจายเสียง 60° แนวนอน x 100° แนวตั้ง
WLA-1A ACTIVE: ระบบลำโพงไลน์อาเรย์แบบแอ็คทีฟ
คุณสมบัติหลัก:
– เป็นรุ่นแอ็คทีฟของระบบ WLA-1
– มีภาคขยายเสียงในตัว
– มี DSP ในตัวพร้อมฟิลเตอร์ FIR
– ควบคุมผ่านซอฟต์แวร์
– มีรุ่น 12 นิ้วและ 15 นิ้ว ใช้ไดรเวอร์แบบ coaxial จาก Beyma
– ซับวูฟเฟอร์ 21 นิ้ว ใช้วอยซ์คอยล์ 4.0 นิ้ว แบบ Quattro จาก Beyma
– ซับวูฟเฟอร์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว ใช้วอยซ์คอยล์ 4.0 นิ้ว แบบ Duo จาก Beyma
– ใช้วอฟไกด์แบบ EVO-Fold
– มีระบบยึดแบบแผ่นด้านข้างในตัว
– ผลิตจากไม้เบิร์ชคุณภาพสูง
– มีไฟล์ EASE .gll ให้ดาวน์โหลด
– มีอุปกรณ์เสริมหลากหลายเพื่อการใช้งานที่ยืดหยุ่น
ลำโพงไลน์อาเรย์ Wharfedale Pro WLA Active Series ที่จะปฏิวัติวงการคอนเสิร์ต

1. ลำโพงไลน์อาเรย์ Wharfedale Pro WLA 112A Active
คุณสมบัติทั่วไป:
– ลำโพงแอคทีฟ 2 ทาง
– ลำโพงประเภท Hybrid Curvature Array
– ดอกลำโพง 12 นิ้ว ไดรเวอร์แบบ coaxial
– Bi-Amplified
– การตอบสนองความถี่ (+/-3 dB): 55 Hz – 20 KHz
– ช่วงความถี่ (-10 dB): 35 Hz – 25 KHz
– ความไว (Sensitivity) ที่ 2.83 V/1 m: 101 dB
– ระดับความดันเสียงสูงสุดที่คำนวณได้ @ 1 m: 133 dB
– ระดับความดันเสียงสูงสุดของระบบ: 139 dB**
**วัดที่ระยะ 1 เมตรในสภาวะอิสระโดยใช้สัญญาณ pink noise ที่มี crest factor 4 และใช้ preset ที่กำหนด
การกระจายเสียง:
– ประเภท Waveguide: EVO-Fold®
– มุมกระจายเสียงปกติ (แนวนอน x แนวตั้ง): 100° x 20°
การประมวลผลสัญญาณ:
– ระบบ DSP พร้อม 8 FIR presets
– รายการ Preset:
A) 1 ถึง 2 ลำโพง HPF 100 Hz
B) 3 ถึง 4 ลำโพง HPF 100 Hz
C) 5 ถึง 6 ลำโพง HPF 100 Hz
D) 1 ลำโพง
E) 2 ลำโพง
F) 3 ถึง 4 ลำโพง
G) 5 ถึง 6 ลำโพง
H) กำหนดเอง
ภาคขยายเสียง:
– ประเภท: Class D
– กำลังขับ: 1360 W สูงสุด (1200 W LF + 160 W HF), 680 W ต่อเนื่อง (600 W LF + 80 W HF)
– ระบบป้องกันความร้อน: ปิดเครื่องขยายเสียงอัตโนมัติ และรีเซ็ตอัตโนมัติ
– การปิดเครื่องเมื่อแรงดันไฟต่ำ: ที่ 60% ของแรงดันไฟปกติ
– การป้องกันไดรเวอร์: ตัวจำกัดแบบ RMS และ Peak แยกอิสระสำหรับ LF/HF
– การป้องกัน DC และการลัดวงจร: มี
– ตัวจำกัดการตัด (Clip Limiter): มี
– ไฟแสดงสถานะ Limiter: LED สีแดง
– ไฟแสดงสถานะสัญญาณ: LED สีเขียว
– ไฟแสดงสถานะเปิด/ทำงาน: LED สีขาว
– ไฟแสดงสถานะฟังก์ชัน Find: LED สีน้ำเงิน
อินพุตและการเชื่อมต่อ:
– ความไวอินพุต: +4 dBu
– ระดับอินพุตสูงสุด: +18 dBu
– อิมพีแดนซ์อินพุต: แบบสมดุล 10 KΩ
– ช่องเสียบอินพุต: XLR แบบสมดุล (ตัวเมีย)
– ช่องเสียบลิงค์: XLR แบบสมดุล (ตัวผู้)
– ช่อง UPDATE: USB Type B
– ช่อง NETWORK (RS485): RJ45
แหล่งจ่ายไฟ:
– ประเภท: Dual Switching Mode ประสิทธิภาพสูง
– แรงดันไฟ AC: 100-120 V~ และ 220-240 V~, 50/60 Hz (เลือกอัตโนมัติ)
คุณสมบัติพิเศษ:
– วงแหวนลดการเหนี่ยวนำทองแดงในหน่วย LF และ HF
– กรวยลำโพง LF กันน้ำ
– ระบบแม่เหล็ก Ferrite ประสิทธิภาพสูงแบบใช้ร่วมกัน
การติดตั้งและอุปกรณ์เสริม:
– จุดยึด 3 จุดสำหรับการแขวน
– มุมกระจายแนวตั้ง: 0° – 5° – 10° – 15°
– มุมกระจายแนวนอน: 15°
– อุปกรณ์เสริม: WLA-1 FLY FRAME
– ขาตั้ง: ปรับมุมได้สองระดับ -2.5° / +7.5°
– ที่จับ: 2 ด้านข้าง / 2 ด้านหลัง
ตู้ลำโพง:
– ประเภท: ทรงสี่เหลี่ยมคางหมู
– วัสดุและการตกแต่ง: ไม้อัด 15 มม. / TOUGH-TONE
– สี: สีดำ
– วัสดุและการตกแต่งของตะแกรงหน้า: เหล็กเจาะรูเคลือบผงสี
ขนาดและน้ำหนัก:
– ความสูง (หน้า) 13.1 นิ้ว
– ความสูง (หลัง) 9.7 นิ้ว
– ความลึก 18.3 นิ้ว
– ความกว้าง 22.3 นิ้ว
– น้ำหนักสุทธิ 30.4 กิโลกรัม
แน่นอนครับ ผมจะเขียนท่อนจบบทความเกี่ยวกับ “ลำโพงไลน์อาเรย์ Wharfedale Pro WLA Active Series ที่จะปฏิวัติวงการคอนเสิร์ต” ให้คุณ
เมื่อเราได้เจาะลึกถึงคุณสมบัติและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ Wharfedale Pro WLA Active Series แล้ว เราสามารถเห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่ลำโพงไลน์อาเรย์ธรรมดา แต่เป็นระบบเสียงที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนโฉมหน้าวงการคอนเสิร์ตและอีเวนต์ขนาดใหญ่
การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี Hybrid Curvature Array, ไดรเวอร์ coaxial จาก Beyma และ waveguide แบบ EVO-Fold ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาที่มักพบในระบบไลน์อาเรย์แบบดั้งเดิม แต่ยังยกระดับคุณภาพเสียงและความยืดหยุ่นในการใช้งานไปอีกขั้น การมี DSP ในตัวพร้อม FIR presets ทำให้การปรับแต่งเสียงทำได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการของมืออาชีพในวงการเครื่องเสียง
สำหรับผู้จัดงานและบริษัทให้เช่าอุปกรณ์เสียง WLA Active Series นำเสนอโซลูชันที่ครบวงจร ทั้งในแง่ของคุณภาพเสียง ความสะดวกในการติดตั้ง และความคุ้มค่าในระยะยาว ในขณะที่สำหรับศิลปินและนักดนตรี ระบบนี้หมายถึงโอกาสในการส่งมอบประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์แบบให้กับผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นงานในร่มหรือกลางแจ้ง
แม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปมากเพียงใด แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือความสำคัญของคุณภาพเสียงในการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ Wharfedale Pro WLA Active Series ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบัน แต่ยังเตรียมพร้อมสำหรับความท้าทายในอนาคต
ในท้ายที่สุด การปฏิวัติวงการคอนเสิร์ตไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แต่เกิดจากวิสัยทัศน์ในการนำเทคโนโลยีนั้นมาใช้เพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ชม Wharfedale Pro WLA Active Series จึงไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่เป็นก้าวสำคัญสู่อนาคตของวงการเสียงสดที่มีคุณภาพสูงขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น และเข้าถึงได้มากขึ้น
เมื่อคุณได้ยินเสียงจาก WLA Active Series ในคอนเสิร์ตครั้งต่อไป จงตระหนักว่าคุณกำลังเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติวงการเสียง ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราสัมผัสและชื่นชมดนตรีสดไปตลอดกาล นี่คือจุดเริ่มต้นของยุคใหม่แห่งประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์แบบ และ Wharfedale Pro กำลังนำพาเราไปสู่อนาคตนั้น
ช้อปสินค้า : https://www.facebook.com/soundrepublic.th/
Leave a Reply