ทำไมต้องใช้ลำโพงเซอร์ราวด์ จำเป็นหรือไม่

การจะมีชุดโฮมเธียเตอร์ดีๆซักชุด แน่นอนว่าต้องมีลำโพงเซอร์ราวด์อยู่ในเซ็ทนั้นอยู่แล้ว ถ้าพูดถึงโดยทั่วไปทุกๆคนก็คงรู้ว่าลำโพงเซอร์ราวด์นั้นจะช่วยให้คุณได้รับเสียงรอบทิศทางและมิติเสียงที่มากขึ้น แต่ไม่เพียงเท่านั้นลำโพงเซอร์ราวด์ยังทำหน้าที่เป็นเสียงเอฟเฟคแบล็คกราวด์ที่จะทำให้ไม่ว่าจะเสียงรถยนต์ขับผ่าน เสียงผู้คนรอบๆข้าง (ฉากในสถานีรถไฟคนพูดคุยกันข้างๆ) จนทำให้การดูหนังของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเพราะลำโพงเซอร์ราวด์นั้นจะทำให้เสียงบรรยากาศดูกว้างและมาเต็ม

ถ้าถามว่าสำคัญมากแค่ไหนจากที่กล่าวข้างต้นมานั้นแท้จริงลำโพงเซอร์ราวด์ไม่ได้แค่ทำหน้าที่เสียงเอฟเฟคแบล็คกราวด์เพียงเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่ในการโยนเสียงอีกด้วย (ฉากรถยนต์วิ่งผ่านตัวเราเสียงจะมาจาก Front ไปยัง Surround) เป็นการโยนเสียงให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนรถวิ่งผ่านจริงๆ และโดยปกติที่คนจะใช้กันมากๆจะเป็นระบบ 5.1, ระบบ 7.1 นั้นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับขนาดห้องของแต่ละท่านด้วยโดยเสียงในระบบ 7.1 จะมีความโอบล้อมแต่กระนั้นเสียงที่โอบล้อมนั้นในระบบ 5.1 ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกันถ้าเกิดการเซ็ทอัพที่ดี แน่นอนว่าหลายๆคนคงเริ่มมองเห็นความสำคัญแล้วเพราะไม่ว่าจะดูหนัง ฟังคอนเสริตเสียงเอฟเฟคที่ได้นั้นโอบล้อม สมจริง

โดยปกติคนจะนิยมใช้ลำโพง Bookshelf หรือ ลำโพง Floorstanding ในการมาทำเซอร์ราวด์ ถ้าถามว่าใช้ลำโพงตั้งพื้นผิดไหมก็ต้องตอบเลยว่าไม่ผิดครับและจะได้เวทีเสียงที่ใหญ่ขึ้นด้วย แต่สิ่งที่ควรโฟกัส คือ ควรใช้ลำโพงที่เป็นซีรี่ส์เดียวกันเพราะจะทำให้เนื้อเสียงที่ออกมานั้นกลมกลืนเป็นเนื้อเดียว หากไม่อยากได้ลำโพงซีรี่ส์เดียวกันก็ต้องลองฟังมาถ้าเอามาวางรวมระบบแล้วจะไม่มีเสียงไหนที่โดดออกมาจนเกินไป ทั้งนี้รวมไปถึงดอกวูฟเฟอร์ในลำโพงด้วยควรที่จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกันอีกด้วยเพื่อให้การโยนเสียงนั้นสมดุลกันมากที่สุด

ถ้าหากว่าไม่ใช่เป็นลำโพง Bookshelf หรือ ลำโพง Floorstanding ก็อาจจะใช้ลำโพงเซอร์ราวด์และลำโพงไบโพล่าก็ได้เช่นกัน ซึ่งลำโพงเซอร์ราวด์ Klipsch นั้นจะมีแบบติดผนังทำระบบเสียงเซอร์ราวด์ หรือ จะวางบนลำโพง Floorstanding เพื่อทำเป็นลำโพงระบบ Dolby Atmos ก็ได้เช่นเดียวกันอยู่ที่ความสะดวกของแต่ละคนว่าจะจัดระบบเสียงในห้องรูปแบบไหน