เปิดจุดเด่น Klipsch Dolby Atmos Soundbar 2021
![](https://sound-republic.com/wp-content/uploads/porto_placeholders/100x67.jpg)
มีหลายคนพูดไว้ว่า Klipsch จะมี Soundbar ที่จะมาเปลี่ยนวงการเครื่องเสียง ทั้งแง่ของคุณภาพและการรับรู้ของตัวซาวด์บาร์ใหม่ ซึ่งตัวนั้นก็คือ Klipsch Dolby Atmos Soundbar ไม่แปลกใจเลยว่า จะมีใครหลายๆคนต่างเฝ้ารอตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งจะมาทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ Cinema 800 Dolby Atmos Soundbar, Cinema 1200 Dolby Atmos Soundbar เพราะอะไรที่ใครหลายๆคนต่างรอคอยเพราะ 2 รุ่นนี้จะพัฒนาแบบก้าวกระโดดกว่ารุ่นที่ผ่านมา เนื่องด้วยมีระบบ Dolby Atmos เข้ามาทำให้เกิดการจำลองเสียงที่ยิงขึ้นข้างบนและตกลงมากระทบต่อหูผู้ใช้งาน แต่สิ่งที่พิเศษไปกว่านั้นคือ Klipsch จะทำให้ระบบเสียงนั้นเกิดขึ้นได้จริงในระบบ 5.1.4 กับรุ่น Cinema 1200 Dolby Atmos Soundbar และรองรับระบบ 7.1.4 อีกด้วยจะเป็นอย่างไรนั้นต้องติดตามกันครับ สำหรับวันนี้เราจะมาเปิดจุดเด่น Klipsch Dolby Atmos Soundbar 2021 คร่าวๆครับว่าจะมีอะไรที่ว้าวบ้าง
1. Subwoofer ขนาดใหญ่กว่าเดิม
![](https://sound-republic.com/wp-content/themes/porto/images/lazy.png)
อย่างที่ได้ออกมาแล้วกว่า 2 รุ่น คือในรุ่น Cinema 400 Soundbar, Cinema 600 Soundbar นั้นก็ได้มีการพัฒนาในเรื่องของ Subwoofer ให้มีขนาดที่ใหญ่กว่ารุ่นเดิมๆ แม้ว่ารุ่น Cinema400 และ Cinema600 ให้เสียงกระหึ่ม ดูหนังมันส์อยู่แล้ว และถ้า Subwoofer ใหญ่ขึ้นก็ยิ่งจะทำให้เสียงเบสที่ออกมานั้นกระหึ่มกว่าเดิม และแน่นอนซึ่งจะช่วยให้ได้ดูหนังของคุณนั้นสมจริงมากยิ่งขึ้นกว่า 35% รับรองว่าถ้าคุณซื้อชุดนี้ไปจะช่วยให้การดูหนังของคุณนั้นครบทุกอรรถรส เติมเต็มทุกมิติดูหนังมันส์สุดๆ
2.กำลังขับของทั้งระบบสูงกว่า
![](https://sound-republic.com/wp-content/themes/porto/images/lazy.png)
อีกสิ่งหนึ่งที่ถูกพัฒนาควบคู่มาด้วยตลอด คือ กำลังขับ ซึ่งกำลังขับที่จะมาใน Cinema 800 Dolby Atmos Soundbar พีคสุดถึง 800 วัตต์ Cinema 1200 Dolby Atmos Soundbar นั้นจะพีคสุดอยู่ที่ 1200 วัตต์ บอกเลยว่ากำลังขับเหลือเฟือในการถ่ายทอดพลังเสียงมากๆครับ ทั้งไดนามิก ทั้งพลังเสียง แรงปะทะ แรงขับของลำโพงชัดเจน รายละเอียดครบ เหมือนอยู่ในโรงหนังจริงๆ
3.วัสดุทำจากไม้เปรียบเสมือนลำโพงจริงๆ
![](https://sound-republic.com/wp-content/themes/porto/images/lazy.png)
วัสดุที่นำมาทำ Klipsch Dolby Atmos Soundbar 2021 นั้นทำมาจากไม้เพื่อลดความผิดเพี้ยนของเสียงและลดการสั่นสะเทือนมากกว่า Soundbar ที่ทำจากพลาสติก อีกทั้งการใช้วัสดุที่ทำด้วยไม้นั้นจะช่วยทนทานต่อรอยขีดข่วนอีกด้วย และรุ่น Dolby Atmos Soundbar จะคล้ายกับลำโพง Klipsch Reference ลำโพงโฮมเธียเตอร์ดูหนังอันมีชื่อของเรานี่เอง
4.รองรับ ไวไฟสตีมมิ่งที่มากกว่า
![](https://sound-republic.com/wp-content/themes/porto/images/lazy.png)
Klipsch Dolby Atmos Soundbar 2021 นั้นรองรับ Wifi ได้แก่ Google Assistant, Amazon Alexa และ Spotify Connect ซึ่งต้องบอกเลย Klipsch Dolby Atmos Soundbar 2021 นั้นจะทำให้บ้านของคุณกลายเป็น Smart Home ได้ง่ายๆโดยการสั่งการใช้งานผ่านเสียง ในส่วนของ Spotify Connect นั้นก็ทำมาเอาใจคนที่อยากได้ซาวด์บาร์ที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพเรื่องเสียงและความสะดวกสบายในการดูหนังเพียงเท่านั้น, แต่ยังเอาใจคนที่ชอบฟังเพลงให้ได้รับเสียงที่ดีที่สุดและการเชื่อมต่อที่ง่าย สะดวกสบายมากที่สุด หรือ Podcast ชิลๆอยู่บ้านก็ไม่ยากเช่นเดียวกันครับ
5.Horn loaded tweeter เทคโนโลยีเหมือนในโรงหนัง
![](https://sound-republic.com/wp-content/themes/porto/images/lazy.png)
Klipsch ใช้ “เทคโนโลยี Tractrix® Horns” ทำให้ได้ความถี่ตอบสนองที่ราบเรียบสำหรับเสียงที่เป็นธรรมชาติ มีข้อดีคือไม่ว่าคุณจะดูหนัง หรือ ฟังเพลง คุณก็จะได้ยินเสียงเหมือนกับที่ ผู้กำกับ นักดนตรี ซาวน์อินจิเนีย มีความประสงค์ให้ผู้ที่รับชม หรือ แฟนเพลงได้ยินเสียงเดียวกับที่เขาได้ยิน ทำโดยการยิงเสียงจากปากฮอร์นผ่านไปถึงผู้ฟังโดยตรงเพื่อเพิ่มความชัด ไดนามิกเร๊นที่กว้างและเสียงที่มีพลัง อีกทั้งปากฮอร์นที่ให้ประสิทธิภาพที่สูงมากกว่าลำโพงทั่วไป ไดนามิกเร๊นให้รายละเอียดเสียงที่สมบูรณ์จึงทำให้ไม่ว่าคุณจะหรี่เสียงเบาแต่รายละเอียดครบถ้วน เทคโนโลยี Tractrix® Horns ได้ใช้ในลำโพงสำหรับโรงภาพยนตร์ของ Klipsch อีกด้วย ซึ่งมากกว่า 50% ของโรงหนังในอเมริกาติดตั้งลำโพง Klipsch สำหรับน้ำเสียงและอารมณ์ที่เหนือกว่าใคร และสำหรับ Klipsch Dolby Atmos Soundbar 2021 ก็ใช้ “เทคโนโลยี Tractrix® Horns” เช่นเดียวกับโรงหนัง
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับการเปิดจุดเด่น Klipsch Dolby Atmos Soundbar 2021 บอกได้คำเดียวคำว่าอีกไม่นานเกินรอ ทั้ง Cinema 800 Dolby Atmos Soundbar, Cinema 1200 Dolby Atmos Soundbar นั้นได้ออกมาให้ทุกๆท่านชมโฉมแน่นอนครับ เมื่อถึงเวลานั้นเราจะออกมาเจาะลึกสเปคของทั้ง 2 รุ่นอย่างละเอียดอีกทีนึงครับผม บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ!
ใส่ความเห็น