fbpx

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver

Integra มีชื่อเสียงด้านเครื่องเสียงไฮเอนด์มาตั้งแต่ปี 1969 โดยเริ่มจากการเป็นแบรนด์ AVR ชั้นนำของอุตสาหกรรม ซึ่ง Integra ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งยังคงตอบสนองความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ Integra ยังเป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรม โดยแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีล้ำสมัยสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตได้อย่างไร

Integra มุ่งเน้นการสนับสนุนนวัตกรรม และบริการหลังการขายที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ ปรัชญาในการดำเนินธุรกิจนี้ ทำให้ Integra เป็นผู้นำในด้านความบันเทิงภายในบ้านตามความต้องการได้ไม่ยาก

หัวใจสำคัญของความสำเร็จของ Integra คือเข้าไปอยู่ในบ้านยุคใหม่เป็นศูนย์รวมความบันเทิงภายในบ้านและผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์เหล่านั้นให้สัมผัสถึงคุณภาพที่เต็มเปี่ยม และใช้งานง่าย ซึ่งรีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver เป็นรุ่นท็อปสุดของแบรนด์ Integra จะมีอะไรพิเศษไปดูกันเลยครับ

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver

ESS Sabre DAC ถอดรหัสเสียงความละเอียดสูง

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver ใช้ ESS Sabre DAC คือชิป DAC (Digital-to-Analog Converter) ที่พัฒนาโดย ESS Technology ชิป DAC นี้เป็นที่รู้จักในด้านประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและเสียงที่มีคุณภาพสูง ESS Sabre DAC ทำงานโดยใช้เทคโนโลยี HyperStream II ซึ่งใช้ตัวแปลงสัญญาณ Sigma-Delta แบบ 32 บิต ชิป DAC นี้รองรับอัตราการสุ่มตัวอย่างสูงสุด 384kHz และอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบเรียลไทม์สูงสุด 768kHz นอกจากนี้ยังรองรับการถอดรหัสเสียงแบบความละเอียดสูง เช่น FLAC, ALAC และ DSD อีกทั้ง ESS Sabre DAC เป็นชิป DAC ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในผลิตภัณฑ์เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ ชิป DAC นี้ให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและเสียงที่มีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องเสียงที่มีคุณภาพเสียงดีที่สุด

เทคโนโลยี Auro 3D เซอรร์ราวด์แบบ 3D

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver มีเทคโนโลยี Auro-3D เป็นรูปแบบเสียงเซอร์ราวนด์แบบ 3 มิติที่ แตกต่างจากระบบเสียงเซอร์ราวนด์แบบดั้งเดิมที่เน้นการกระจายเสียงไปยังทิศทางต่าง ๆ รอบผู้ฟัง Auro-3D เพิ่มเวทีเสียงในแนวดิ่งด้วยการเพิ่มเสียงขึ้นไปด้านบนห้อง ซึ่งช่วยให้เสียงสามารถลอยอยู่เหนือหัวของผู้ฟังได้ เพิ่มประสบการณ์เสียงที่สมจริง และดื่มด่ำยิ่งขึ้น (ภาพยนตร์นั้น ๆ ต้องบันทึกเสียงในระบบ Auro-3D)

Dirac Live

มี Dirac Live แบบ Full Bandwidth โดยระบบ Dirac Live จะมี 2 ระบบ คือ Limited รีซีพเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver Bandwidth และ Full Bandwidth ซึ่ง 2 ระบบนี้แตกต่างกันที่ Limited Bandwidth จะวิเคราะห์เสียงได้ที่ความถี่ 20Hz – 500HzHZ แต่ Full Bandwidth จะสามารถวิเคราะห์เสียงได้ลึกถึง 20Hz – 20kHz ซึ่งเป็นช่วงความถี่ที่มนุษย์สามารถได้ยินได้ครบถ้วนเลยทีเดียว

Dirac Live มีสิทธิบัตรเฉพาะสำหรับอัลกอลิทึมในการวิเคราะห์ผลกระทบห้องและเพิ่มประสิทธิภาพลำโพงให้สูงขึ้นไม่เพียงแต่ทำให้ระบบเสียงดีขึ้น แต่ยังทำให้จุดการนั่งฟังกว้างขึ้น เวทีเสียงเที่ยงตรง ความชัดเจน เสียงพูด เสียงเบส ดีขึ้นเมื่อเทียบกับห้องที่ไม่ได้ใช้ Dirac Live ประมวลผล ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดว่า Dirac Live นั้นเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การฟังเพลง หรือดูหนังของคุณมีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น เรียกง่าย ๆ ว่าเป็น Final Tune ที่ฝีมือเปรียบเสมือนมีมืออาชีพดี ๆ มาควบคุมให้เลยทีเดียว

Optional Dirac Live® Bass Control

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver มี Optional Dirac Live® Bass Control เป็นฟังก์ชันเสริมของ Dirac Live® ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ปรับแต่งเสียงแบบดิจิตอล ฟังก์ชันนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเสียงเบสของลำโพงให้เหมาะสมกับห้องฟังได้ Dirac Live® Bass Control จะทำงานโดยวิเคราะห์เสียงเบสที่สะท้อนจากผนัง และพื้นของห้องฟัง จากนั้นจะใช้อัลกอริทึมเพื่อลดการสะท้อนที่ไม่ต้องการ และปรับปรุงความชัดเจนของเสียงเบส ฟังก์ชันนี้สามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงเบสของลำโพงได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องฟังที่มีขนาดไม่เหมาะสม หรือ มีเฟอร์นิเจอร์จำนวนมาก

Optional Dirac Live® Bass Control เป็นฟังก์ชันเสริมที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพเสียงเบสของลำโพง ฟังก์ชันนี้สามารถช่วยปรับปรุงความชัดเจนและความสม่ำเสมอของเสียงเบสในสภาพแวดล้อมการฟังที่หลากหลาย

ได้การรองรับจาก IMAX

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver มีระบบ IMAX Enhanced เป็นมาตรฐานระบบภาพและเสียงที่ร่วมมือกันระหว่าง IMAX Corporation และบริษัทที่เรียกได้ว่ามีชื่อในเรื่องของเสียงมาอย่างยาวนาน Datasat Digital Entertainment ที่เรารู้จักกันในนามของ DTS นั้นเอง โดย IMAX และ DTS นั้นจะเข้าไปควบคุมขั้นตอน Post Production ใน Studio ภาพยนตร์ทั้งในเรื่องของภาพและเสียง รวมไปถึงผู้ผลิต TV Projector เครื่องเสียง Home Theater หรือแม้กระทั่งรีซีฟเวอร์ Onkyo ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่ IMAX Enhanced นั้นตั้งไว้เพื่อที่จะยกระดับประสบการณ์การรับชมภายในบ้านให้เปรียบเสมือนมีโรงภาพยนตร์มาตั้งอยู่ในบ้านให้ได้มากที่สุด

ได้การรองรับจาก THX Certified

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver ได้การรองรับจาก THX ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าจะได้รับคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดระดับโรงภาพยนตร์ที่มีความสมบูรณ์แบบตามมาตรฐานของ THX

ประสบการณ์ภาพ 8K Ultra HD

ในยุคที่เทคโนโลยีภาพยนตร์ และทีวีก้าวข้ามขีดจำกัด 8K Ultra HD ในรีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกของการรับชมรายละเอียด ด้วยความละเอียดที่เป็นเลิศถึง 7680×4320 พิกเซล คุณจะได้สัมผัสกับความคมชัดที่เหนือชั้นในแต่ละรายละเอียดของภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ หรือ การเล่นเกมส์ ทั้งนี้อยู่ที่ทีวีของคุณด้วยว่ารองรับการถอดรหัสสัญญาณภาพ 8K Ultra HD หรือไม่

HDMI-eARC สัญญาณภาพและเสียงที่ดีกว่าเดิม

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver มีระบบ HDMI-eARC ได้จึงทำให่ส่งสัญญาณทั้งเสียงและสัญญาณภาพได้ดีขึ้นกว่าเดิม เทคโนโลยี eARC ยังช่วยทำให้มั่นใจได้อีกว่าผู้ใช้จะได้รับฟังคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดตลอดเวลา

HDMI 2.1 รองรับสัญญาณภาพสูงสุด

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver มีช่องเชื่อมต่อ HDMI 2.1 เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานใหม่ที่มีคุณสมบัติพิเศษมากกว่า HDMI 2.0 ตัวเดิมหลายเท่าตัวเพราะสามารถรองรับสัญญาณภาพได้มากกว่า 4K ซึ่งที่บอกว่าเป็นมาตรฐานใหม่ในอนาคตนั้นไม่เกินจริงเพราะ ณ ปัจจุบันสามารถรองรับได้แค่ 8K แต่ HDMI 2.1 นั้นกลับสามารถรองรับความคมชัดได้ถึง 10K 120Hz เลยทีเดียว (แต่ในปัจจุบันมีเพียง 8K เท่านั้น) อีกทั้งยังรองรับแบนด์วิธขนาดใหญ่ถึง 48Gbps แบบไม่มีบีบอัด ซึ่ง HDMI อันเก่าจะอยู่ที่ 18Gbps ไม่เพียงเท่านั้น HDMI 2.1 นั้นรองรับสัญญาณภาพที่เป็น Dynamic HDR ที่ทำให้ทีวีสามารถปรับภาพได้ตามสัญญาณ Dolby Vision หรือ HDR10+ ได้แบบเฟรมต่อเฟรมและยังปรับปรุงรายละเอียดในเรื่องของภาพหลายส่วน

นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติที่พัฒนาขึ้นก็เพื่อเกมคอนโซลและอุปกรณ์วีอาร์ เช่น PlayStation 5 และ Xbox Series X ก็มาพร้อมกับ HDMI 2.1 ซึ่ง HDMI 2.1 นั้นรองรับเทคโนโลยี Variable Refresh Rate และ Quick Frame Transport ที่ส่งผลให้ภาพที่รับชมมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องมี Source ในการอัพเกรดคุณสมบัติดังกล่าว เช่น กล่องรับสัญญาณดาวน์เทียม เครื่องเล่นแผ่นเสียง และต้องอัพเกรดอุปกรณ์ปลายทางที่แสดงผลทั้งภาพและเสียงอย่าง ซาวด์บาร์ โทรทัศน์ หรือ AV Receiver ที่รองรับ HDMI 2.1 และรวมไปถึงสาย HDMI ก็ต้องเป็นเวอร์ชั่น HDMI 2.1 ด้วย

SMART AV Receiver™ การสตรีมเสียงหลายห้อง

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver ถูกขนานนามว่าเป็น SMART AV Receiver เพราะสามารถแบ่งปันเสียงได้รอบบ้านของคุณ ซึ่งรวมถึง Amazon Music HD*, Pandora®, Spotify®, TIDAL, Deezer และ TuneIn และทำงานร่วมกับ Hey Google หรือ Alexa แบ่งปันความบันเทิงผ่าน Works with Sonos, AirPlay 2, DTS Play-Fi® และ Chromecast ได้ในตัว

ถอดรหัสเสียงความสมจริง Dolby Atmos และ DTS:X

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver เติมประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์แบบผ่าน Dolby Atmos® และ DTS:X® เสียงที่ถูกผสมผสานให้ออกมาแบบ 3 มิติ Dolby Surround® และ DTS® Neural:X ช่วยเสริมการเล่นเสียง 3D ให้ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเพื่อสร้างมิติที่สมจริงจากบนลงล่าง

รองรับ Klipsch Optimized mode

รีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver รองรับชุดโฮมเธียเตอร์ Klipsch ใน Reference Series นั้นเองเป็นสัญญาณของการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีเพื่อให้เกิด “ความบันเทิงที่ดีที่สุดในบ้าน” ในโหมดนี้นั้นพิเศษตรงที่คุณจะสามารถตั้งค่าครอสโอเวอร์ของห้องได้ในตำแหน่งลำโพงต่างๆภายใต้คำสั่ง “Speaker Combo” ไม่ว่าจะเป็นลำโพงเซ็นเตอร์ ลำโพงคู่หน้า ลำโพงเซอร์ราวด์ ลำโพงตั้งพื้นและซับวูฟเฟอร์คุณก็สามารถตั้งระบบได้หมดจนลงลึกถึงเลือกรุ่นในตำแหน่งลำโพงต่างๆในห้องอีกด้วยเพื่อให้การตั้งค่าครอสโอเวอร์ของห้องนั้นเสถียรมากยิ่งขึ้นนั้นเอง หรือ ถ้าคุณไม่อยากตั้งค่าเองก็จะมีโหมด “อัตโนมัติ” ที่สามารถออกแบบให้คุณได้รับเสียงที่ดีที่สุดได้เองเปลี่ยนเสมือนมีมืออาชีพดีๆซักคนมาเซ็ตระบบให้เลยแหละ ซึ่งโหมดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเสียงที่จะถูดถอดรหัสออกมาให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่แค่ไหนก็สบายใจได้

จุดเด่นของรีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver

Wi-Fi/Bluetooth®

Dirac Live® Room Correction

Optional Dirac Live® Bass Control

THX® Certified for Theater Reference Sound

Klipsch Optimized Mode

Auro-3D

ESS Sabre DAC

คุณสมบัติของรีซีฟเวอร์ Onkyo TX-RZ70 Receiver

POWER AND AMPLIFICATION

150W x 11 (8 ohms)

Class AB Amplifier

7.2.4 Channels (11 amplified)

HDMI AND

VIDEO INPUTS

7 HDMI Inputs/3 Outputs & eARC

8K/4K Ultra HD

Dolby Vision

HDMI2.1 VRR, QFT, ALLM, HDCP2.3, HDR10+

1 component, 2 composite

AUDIO IN/OUT

11.4 channel RCA preouts

XLR preouts for L/C/R/SW1/SW2

Stereo XLR input

SURROUND MODES

Dolby Atmos, Dolby Surround

DTS:X, Neural:X

IMAX Enhanced

Auro-3D

STREAMING

Roon Ready

Chromecast built-in

AirPlay 2

Spotify

Amazon Music HD

Tidal

Deezer

Pandora

TuneIn

เป็นอย่างไรครับกับรีซีฟเวอร์ Integra DRX-8.4 11.4 Channel Network A/V Receiver ฉายาแหล่งขุมพลังที่ไม่เกินจริงเพราะเรียกได้ว่ารุ่นนี้อัพเกรดมาอย่างจัดหนัก จัดเต็ม พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ Excusive เฉพาะร้าน Home Cinematic Design

สนใจสั่งซื้อสินค้า : คุณเล็ก
Tel. : 0858328989
Line ID: ht.design

Share this post

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *