เสียงระดับ Hi-Res Audio คืออะไร ลำโพง Klipsch รุ่นไหนรองรับบ้าง

ในการที่คุณกำลังตัดสินใจเลือกซื้อลำโพงเข้ามาใช้ในบ้านนั้น ต่างก็ต้องอยากได้เสียงในการฟังเพลงที่ยอดเยี่ยม ทั้งไดนามิก ย่านกลางแหลมครบถ้วนไม่ตกหล่น เสียงเบสนุ่มนวลที่จะช่วยเพิ่มให้บรรยากาศภายในบ้านของคุณนั้นตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของเพลงนั้น ๆ ซึ่งปัจจัยในการจะเลือกซื้อนั้น การรองรับถอดรหัสเสียงแบบ Hi-Res Audio (High-Resolution Audio) ก็เป็นส่วนสำคัญในการเลือกซื้อลำโพงเช่นเดียวกัน เราไปดูกันดีกว่าครับว่าเพราะอะไร Hi-Res Audio จึงสำคัญ และ ลำโพง Klipsch รุ่นไหนรองรับการถอดรหัสเสียงนี้บ้าง

เสียงระดับ Hi-Res Audio คืออะไร

เสียงระดับ Hi-Res Audio คือ ไฟล์เสียงที่มีคุณภาพสูงกว่าเสียงปกติที่เราฟังในชีวิตประจำวัน เพราะเสียงนั้นจะถูกบันทึกด้วยความละเอียดที่สูง และความถูกต้องที่แม่นยำ สิ่งที่เป็นเป้าหมายของ Hi-Res Audio คือ ให้ผู้ฟังได้ยิน และรับรู้รายละเอียดที่ละเอียดอ่อนครบถ้วนที่สุดของเสียงที่ถูกบันทึกไว้ในต้นฉบับ

ปัจจัยสำคัญของเสียงระดับ Hi-Res Audio คือ การจับภาพเสียงที่ถูกต้องมากขึ้น ซึ่งรวมถึงระดับความถี่ที่กว้างขึ้น และความละเอียดที่มากกว่า ดังนั้นผู้ฟังจะได้ยินรายละเอียดเสียงที่คมชัด เช่น การจับเสียงของเครื่องดนตรีแต่ละชนิด

นักวิจัยเสียงได้พบว่าความชัดเจนในการฟังเสียงส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้ฟัง คุณภาพเสียงที่ดี และคมชัดทำให้เรารับรู้รายละเอียดเสียงที่มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มประสบการณ์การฟังเพลง โดยเฉพาะในเพลงที่มีเครื่องดนตรีแบบหลากหลายชนิดช่วยให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์เสียงได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น

การถอดรหัสเสียง 192kHz/24-bit เป็นรูปแบบการบันทึกเสียงที่เรียกว่า Hi-Res Audio หรือ High-Resolution Audio ซึ่งมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากรูปแบบการบันทึกเสียงทั่วไป เป็นรูปแบบที่ให้ความละเอียดคุณภาพสูง ตัวเลข 192kHz หมายถึงความถี่ของการสุ่มตัวอย่างของเสียงที่ถูกบันทึกได้ในหนึ่งวินาที สูงถึง 192,000 ครั้ง ส่วน 24-bit หมายถึงความละเอียดของดิจิตอลแบบใช้ตัวเลข ซึ่งสามารถแสดงระดับของความแม่นยำในการบันทึกค่าเสียงได้ ด้วยการใช้ตัวเลข 24-bit จะมีค่าสูงสุดที่ถึง 16,777,216 ระดับ รูปแบบการบันทึกเสียง 192kHz/24-bit มีประสิทธิภาพสูง และเป็นที่นิยมในถอดรหัสเสียงสำหรับลำโพงที่มีคุณภาพสูง อาทิ ลำโพง Klipsch เป็นต้น

เสียงระดับ Hi-Res Audio คืออะไร ลำโพง Klipsch รุ่นไหนรองรับบ้าง

1.ลำโพงบลูทูธ Klipsch The Three II Bluetooth Speaker

– ลำโพงบลูทูธ
– การตอบสนองความถี่ 45Hz-20kHz
– ค่าความดังสูงสุดที่ 106 dB
– กำลังขับพีคสูงสุดที่ 120 วัตต์
– ไดรเวอร์ให้เสียงแหลม 2.25 นิ้ว 2 ดอก
– ไดรเวอร์วูฟเฟอร์ 5.25 นิ้ว
– Passive Radiator 5.25 นิ้ว 2 ดอก
– การถอดรหัส 192kHz/24 bit
– ควบคุมผ่านปุ่ม Volume Knob หรือ รีโมทควบคุมระยะไกล

2.ลำโพงบลูทูธ Klipsch The Three GVA Bluetooth Speaker

– ลำโพงบลูทูธ
– กำลังขับ 80 วัตต์
– ดอกลำโพงอยู่ที่ 5.25 นิ้ว
– ดอกลำโพง Passive Radiators ขนาด 5.25 นิ้ว 2 ดอก
– ดอกลำโพงที่ให้เสียงกลางแหลมอยู่ที่ 2.25 นิ้ว 2 ดอก
– ความถี่เสียงที่ 45Hz-20kHz ที่ -3dB,
– สั่งใช้งานผ่านเสียงโดยตรงกับลำโพงผ่าน Google Home
– การถอดรหัส 192kHz/24 bit
– ความดัง 106dB

3.ลำโพงพาวเวอร์ Klipsch The Fives Powered Speaker

– การตอบสนองความถี่ 50Hz-25kHz
– ค่าความดังสูงสุดที่ 109 dB
– กำลังขับ 160/320W
– ไดรเวอร์พิเศษ Tweeter ไทเทเนียมให้เสียงแหลม 1 นิ้ว
– เทคโนโลยี Tractrix Horn ไดรเวอร์วูฟเฟอร์ 4.5 นิ้ว
– ระบบ Bass Reflex ที่เป็นท่อช่วยระบายเสียงเบสผ่าน Rear-Firing Tractrix
– Dynamic Bass EQ 46Hz@ 35% Volume
– การถอดรหัส 192kHz/24 bit
– ควบคุมผ่านปุ่ม Volume Knob หรือ รีโมทควบคุมระยะไกล

4.ลำโพงพาวเวอร์ Klipsch The Fives McLaren Limited Edition

– การตอบสนองความถี่ 50Hz-25kHz
– ค่าความดังสูงสุดที่ 109 dB
– กำลังขับ 160/320W
– ไดรเวอร์พิเศษ Tweeter ไทเทเนียมให้เสียงแหลม 1 นิ้ว
– เทคโนโลยี Tractrix Horn ไดรเวอร์วูฟเฟอร์ วัสดุ Carbon Fiber 4.5 นิ้ว
– ระบบ Bass Reflex ที่เป็นท่อช่วยระบายเสียงเบสผ่าน Rear-Firing Tractrix
– Dynamic Bass EQ 46Hz@ 35% Volume
– การถอดรหัส 192kHz/24 bit
– ควบคุมผ่านปุ่ม Volume Knob หรือ รีโมทควบคุมระยะไกล

5.ลำโพงพาวเวอร์ Klipsch The Sevens Powered Speaker

– การตอบสนองความถี่ 39Hz-25kHz
– ค่าความดังสูงสุดที่ 112 dB
– กำลังขับ 200/400W
– ไดรเวอร์พิเศษ Tweeter ไทเทเนียมให้เสียงแหลม 1 นิ้ว
– เทคโนโลยี Tractrix Horn ไดรเวอร์วูฟเฟอร์ 6.5 นิ้ว
– ระบบ Bass Reflex ที่เป็นท่อช่วยระบายเสียงเบสผ่าน Rear-Firing Tractrix
– Dynamic Bass EQ 28Hz@ 35% Volume
– การถอดรหัส 192kHz/24 bit
– ควบคุมผ่านปุ่ม Volume Knob หรือ รีโมทควบคุมระยะไกล

6.ลำโพงพาวเวอร์ Klipsch The Nines Powered Speaker

– การตอบสนองความถี่ 34Hz-25kHz
– ค่าความดังสูงสุดที่ 115 dB
– กำลังขับ 240/480W
– ไดรเวอร์พิเศษ Tweeter ไทเทเนียมให้เสียงแหลม 1 นิ้ว
– เทคโนโลยี Tractrix Horn ไดรเวอร์วูฟเฟอร์ 6.5 นิ้ว
– ระบบ Bass Reflex ที่เป็นท่อช่วยระบายเสียงเบสผ่าน Rear-Firing Tractrix
– Dynamic Bass EQ 22Hz@ 35% Volume
– การถอดรหัส 192kHz/24 bit
– ควบคุมผ่านปุ่ม Volume Knob หรือ รีโมทควบคุมระยะไกล

7.ลำโพงพาวเวอร์ Klipsch The Nines McLaren Limited Edition

– การตอบสนองความถี่ 34Hz-25kHz
– ค่าความดังสูงสุดที่ 115 dB
– กำลังขับ 240/480W
– ไดรเวอร์พิเศษ Tweeter ไทเทเนียมให้เสียงแหลม 1 นิ้ว
– เทคโนโลยี Tractrix Horn ไดรเวอร์วูฟเฟอร์ 6.5 นิ้ว
– ระบบ Bass Reflex ที่เป็นท่อช่วยระบายเสียงเบสผ่าน Rear-Firing Tractrix
– Dynamic Bass EQ 22Hz@ 35% Volume
– การถอดรหัส 192kHz/24 bit
– ควบคุมผ่านปุ่ม Volume Knob หรือ รีโมทควบคุมระยะไกล

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับลำโพง Klipsch ที่รองรับการถอดรหัสเสียง 192kHz/24 bit บอกเลยว่าคุณจะได้ยินเสียงที่รายละเอียดครบถ้วน และคุณภาพสูงสุดอย่างแน่นอน
สั่งซื้อสินค้า : https://shopee.co.th/klipsch_official_store