fbpx

ความแตกต่างของ Dirac Live LE และ Dirac Live Full

ความแตกต่างของ Dirac Live LE และ Dirac Live Full

ถ้าให้พูดถึงจุดเด่นที่เรียกว่าเหนือกว่าคู่แข่งของ Amp AVR อย่าง Onkyo แล้วนั้นอีกหนึ่งข้อที่  Amp AVR ในท้องตลาดทั่วไปไม่สามารถทำได้นั่นคือ การที่ Onkyo ได้ใส่เทคโนโลยีการปรับจูนเสียงอย่าง Dirac Live มาให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างเต็ม Version โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่ออัพเกรด ซึ่งถือว่าดีมากๆ สำหรับผู้ใช้งานเลยนะครับในเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่าย

            สำหรับในบทความนี้จะมาอธิบายถึงความแตกต่างของ Dirac Live LE และ Dirac Live Full ว่ามีความแตกต่างในเรื่องของการใช้งานและเรื่องของค่าใช้จ่ายอย่างไร อย่างที่ผู้ใช้งานหลายๆ คนนั้นทราบอยู่แล้วนะครับว่า Dirac Live นั้นคือโปรแกรมที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพของเสียงซึ่งจะมีโปรแกรมที่แม่นยำที่ช่วยแก้ปัญหาอะคูสติกภายในห้องของคุณให้ดีขึ้น ซึ่ง Dirac Live นั้นก็จะมีเทคโนโลยีที่ช่วยในการตั้งค่าให้ง่ายขึ้นอีกด้วย

Dirac Live LE

            Dirac Live LE เป็น Software ที่ใช้สำหรับปรับแต่งเสียงในระบบเครื่องเสียงแบบห้องปิด (Closed-Room) โดยใช้เทคโนโลยี Digital Signal Processing (DSP) ในการปรับแต่งเสียงเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีและสมดุล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการลดสัญญาณรบกวนจากการสะท้อนเสียงภายในห้อง ซึ่งช่วยให้เสียงที่ได้รับจากลำโพงมีคุณภาพและถูกต้องตามความต้องการของผู้ใช้งานมากขึ้น

            หลักการทำงานของ Dirac Live LE คือการปรับแต่งเสียงในห้องปิดโดยใช้เทคโนโลยี Digital Signal Processing (DSP) โดยมีขั้นตอนการทำงานดังนี้

  • วัดคุณสมบัติของห้องปิด การวัดคุณสมบัติของห้องปิดเป็นขั้นตอนแรกในการปรับแต่งเสียง โดย Dirac Live LE จะใช้ไมโครโฟนและแผนที่ลักษณะห้องปิดเพื่อวัดค่าความถี่และระยะเวลาสะท้อนเสียงภายในห้อง ซึ่งจะช่วยให้ระบบปรับแต่งเสียงได้ถูกต้องตามสภาพของห้องปิด
  • สร้างเสียงแบบฟลัส: Dirac Live LE จะสร้างเสียงสัญญาณชนิดฟลัส (Sweep Tone) ซึ่งเป็นเสียงสัญญาณที่มีความถี่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยเริ่มต้นจากความถี่ต่ำสุดไปจนถึงความถี่สูงสุด
  • วัดเสียงภายในห้องปิด เมื่อเสียงฟลัสถูกส่งออกจากลำโพงแล้ว ตัวรับสัญญาณจะทำการวัดเสียงภายในห้องปิดในแต่ละระยะเวลา โดยจะวัดระดับความเสียงที่เปลี่ยนไปเนื่องจากการสะท้อนเสียงภายในห้องปิด
  • ประมวลผลและปรับแต่งเสียง: จากการวัดเสียงภายในห้องปิด ระบบจะทำการประมวลผลโดยใช้เทคโนโลยี DSP เพื่อปรับแต่งเสียงให้มีคุณภาพและสมดุล

ซึ่ง Dirac Live LE เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการปรับแต่งเสียงระบบเครื่องเสียงขนาดเล็กถึงกลาง และไม่ต้องการความสามารถในการปรับแต่งเสียงที่มีขนาดใหญ่มาก

Dirac Live Full

            Dirac Live Full คือ Software ระบบปรับแต่งเสียงที่พัฒนาขึ้นโดย Dirac Research AB ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้การประมวลผลดิจิตอลเพื่อปรับแต่งเสียงในห้องปิดให้มีคุณภาพเสียงที่ดีและสมดุล ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการเครื่องเสียง และได้รับการนำไปใช้งานในหลายแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลก

            Dirac Live Full มีความสามารถในการปรับแต่งเสียงให้สมดุลและสม่ำเสมอในห้องปิด โดยการใช้เทคโนโลยี Digital Signal Processing (DSP) ร่วมกับการวัดคุณสมบัติของห้องปิดเพื่อประมวลผลและปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับสภาพของห้องปิด ซึ่งสามารถปรับแต่งเสียงได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน อีกทั้งยังสามารถเลือกใช้เครื่องมือต่างๆ เพิ่มเติม เช่น การปรับแต่งเสียงสายตามสายระดับความถี่ (Frequency Response Correction) และการปรับแต่งเสียงแบบไดนามิก (Dynamic Range Correction) เพื่อให้เสียงมีความลึกซึ้งและคมชัดยิ่งขึ้น

Dirac Live Full ยังสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องเสียงที่รองรับ Dirac Live ได้ และเครื่องเสียงรถยนต์แบบ Hi-End

หลักการทำงานของ Dirac Live Full

            หลักการทำงานของ Dirac Live Full นั้นก็คล้ายกับ Dirac Live LE โดยทั่วไปแล้ว แต่ Dirac Live Full มีฟังก์ชันการปรับแต่งเสียงที่ละเอียดมากขึ้น โดยทำงานโดยการวัดและประมวลผลเสียงที่ออกจากลำโพงและสัญญาณที่เป็นเสียงสะท้อนกลับจากห้องปิด เพื่อสร้างแผนที่การกระจายเสียงในห้องปิด จากนั้น Dirac Live Full จะใช้เทคโนโลยี Digital Signal Processing (DSP) เพื่อปรับแต่งเสียงให้สมดุลและมีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น ด้วยการใช้กราฟิกอิมพัลส์ (Impulse Response) และคุณสมบัติต่างๆ ของห้องปิดเช่น ความลึกของห้อง (Room Depth) ความกว้าง (Room Width) ความสูง (Room Height) ฯลฯ เพื่อปรับแต่งเสียงให้ตรงกับห้องปิดที่ใช้งาน

นอกจากนี้ Dirac Live Full ยังสามารถปรับแต่งเสียงอย่างละเอียดด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่น การปรับแต่งเสียงสายตามสายระดับความถี่ (Frequency Response Correction) และการปรับแต่งเสียงแบบไดนามิก (Dynamic Range Correction) เพื่อให้เสียงมีความลึกซึ้งและคมชัดยิ่งขึ้น และยังสามารถปรับแต่งเสียงสำหรับแต่ละลำโพงเพื่อให้ได้เสียงที่มีคุณภาพเหมือนกันจากแต่ละลำโพง

ความแตกต่างของ Dirac Live LE และ Dirac Live Full

  • ด้านคุณสมบัติ

ตัวเต็มของ Dirac Live Full มีคุณสมบัติที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า Dirac Live LE ตัวอย่างเช่น Dirac Live Full รองรับคุณสมบัติขั้นสูงเพิ่มเติม เช่น การ Support Subwoofer หลายตัว การควบคุมช่วงไดนามิก และการ Support การประมวลผลเสียงในช่องทาง 16 ช่อง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ไม่มีในเวอร์ชันของ Dirac Live LE

  • การปรับแต่ง

Dirac Live Full มีการปรับแต่งที่ยืดหยุ่นมากกว่า Dirac Live LE โดยอนุญาตให้ผู้ใช้สร้างเสียงเป้าหมายที่กำหนดเอง ปรับแต่งการแก้ไขช่วงเวลา และปรับแต่งพารามิเตอร์อื่นๆ เพื่อให้ได้เสียงที่เหมาะสมมากขึ้นซึ่งในส่วนของ Dirac Live LE มีการปรับแต่งที่จำกัดมากกว่า

  • ความเข้ากันได้

 Dirac Live Full เข้ากันได้กับอุปกรณ์เสียงและแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่หลากหลายมากกว่า Dirac Live LE เช่น Dirac Live Full รองรับอินเตอร์เฟสเสียงและโปรเซสเซอร์ DSP หลายประเภท

  • ด้านราคา

 ราคาของ Dirac Live LE ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นและการใช้งาน โดยปกติแล้วราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ $349 และราคาของ  Dirac Live Full โดยปกติแล้วราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ$ 500 ขึ้นไป

            ซึ่งโดยรวมแล้ว ทั้งสองเวอร์ชันของ Dirac Live ให้คุณสมบัติการปรับแต่งห้องและการปรับแต่งลำโพงอย่างล้ำหน้ามาเพื่อปรับปรุงคุณภาพเสียงของระบบเสียง อย่างไรก็ตาม Dirac Live Full มีคุณสมบัติที่ครอบคลุมและยืดหยุ่นมากกว่า Dirac Live LE และสามารถใช้กับอุปกรณ์เสียงและซอฟต์แวร์ได้มากกว่า Dirac Live LE แต่ด้วยราคาที่สูงกว่า ส่วน Dirac Live LE เหมาะสมกับผู้ใช้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายและไม่จำเป็นต้องใช้คุณสมบัติขั้นสูงของเวอร์ชัน Full  แต่อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่า Amp AVR ของ Onkyo อย่างรุ่น TX-NR7100, TX-RZ50 และอีกหนึ่งรุ่นที่กำลังจะออกมาจำหน่ายอย่าง Onkyo TX-RZ70 นั้นได้ใส่เทคโนโลยีการปรับแต่งเสียงอย่าง Dirac Live มาให้คุณได้ใช้ฟรีๆ แบบ Full Option และยังสามารถ  Update โปรแกรมได้อย่างฟรีๆ เรียกได้ว่าช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณไปได้หลายหมื่นบาทเลยทีเดียวครับ

Share this post

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *