Review La Scala ลำโพงระดับ HI END โคตรตำนาน สุดวินเทจ!
![](https://sound-republic.com/wp-content/uploads/porto_placeholders/100x43.jpg)
หากจะให้เอ่ยถึงลำโพงที่อยู่ในสายการผลิตที่ยาวนานที่สุดตลอดกว่า 70 ปีในโลก คงไม่มีลำโพงอื่นใด นอกจากลำโพงของ Klipschorn อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยังคงมีความต้องการจากนักเล่นสายคลาสิกทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยจุดประสงค์ของผู้ก่อตั้งมีความต้องการที่อยากจะได้รับไดนามิก และความตื่นเต้นของการฟังเพลงให้ได้ความรู้สึกของการเล่นออเกสตร้าสดๆในบ้าน และถูกให้เป็นหนึ่งในลำโพงที่น่ายกย่องที่สุดในโลก
![](https://sound-republic.com/wp-content/themes/porto/images/lazy.png)
ลำโพงฟังเพลงแนววินเทจของ Klipsch มีอยู่หลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Klipschorn, La Scala, Cornwall, Forte, Heresy ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้เอง ทางบริษัทได้มีโอกาสนำเข้าเจ้าตัวรุ่นอย่าง Klipsch La Scala รุ่นตำนานสุดเก๋าอย่าง Heritage Series ซีรีย์ที่สร้างความประทับใจให้กับเล่าบรรดานักเล่นเครื่องเสียงมาอย่างมากมาย ซึ่งต้องบอกเลยว่า Klipsch เองก็สร้างชื่อเสียงที่โด่งดังมาจากตัว horn ที่เป็นสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์พิเศษที่มีเฉพาะของ Klipsch อย่าง Tractrix Horn ที่มีการใช้มาเรียกได้ว่าแทบจะทุกรุ่น ตลอดจนมาถึงในปัจจุบันยังคงไว้ซึ่งเทคโนโลยี Tractrix Horn ด้วยอุดมการณ์ของ Paul W.Klipsch ที่ชื่นชอบในการฟังดนตรี และด้วยทัศนคติอันมุ่งมั่น ที่อยากจะมอบประสบการณ์ของเสียงในบ้านที่ดีที่สุดให้คุณได้ฟัง
![](https://sound-republic.com/wp-content/themes/porto/images/lazy.png)
Klipsch La Scala ได้รับฉายาว่าเป็น “Mini KlipschChorn” เลยก็ว่าได้เป็นรุ่นกลางที่รองลงมาจาก KlipschChorn เพียงเท่านั้น โดยได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1963 มีการตั้งชื่อมาจาก โรงละคร Teatro alla Scala เป็นโรงละครที่ตั้งอยู่ในเมืองมิลาน ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาตั้งเป็นชื่อ La Scala
![](https://sound-republic.com/wp-content/themes/porto/images/lazy.png)
Klipsch La Scala เป็นลำโพงจากสัญชาติสหรัฐอเมริกา โดยที่จะพิเศษสุดๆเลยก็คือ ในรุ่นของ Heritage Series จะเป็นการสั่งแบบ Make by order ก็คือต้องมีการสั่งจองล่วงหน้าไว้ก่อนเท่านั้น ทางโรงงานถึงจะผลิตออกมา ซึ่งปัจจุบันรุ่นใหญ่อย่าง Heritage Series ยังคงไว้ซึ่งการประกอบด้วยมือจากทางโรงงานที่สหรัฐอเมริกา ตัวตู้แต่ละใบก็จะมีเอกลักษณ์พิเศษของตัวเอง ด้วยการนำไม้แท้ อย่างไม้วีเนียร์คุณภาพชั้นเยี่ยมมาทำด้วยความประณีต และด้วยการประกอบตู้แบบ Handmade เรียกได้ว่าตู้ไม้ของแต่ละรุ่นจะมีลาย และเอกลักษณ์ของไม้ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละตัว โดยเดี๋ยวเราจะมาพาทุกท่านไปเริ่มดูกันที่สเปคของรุ่นนี้กันก่อนเลยดีกว่าครับ ว่าจะมีอะไรกันบ้างไปรับชมกันเลยครับ
SPECIFICATIONS
FREQUENCY RESPONSE (+/- 4 dB): 51Hz – 20kHz
SENSITIVITY: 105dB @ 2.83V / 1m
POWER HANDLING: 100W / 400W
MAXIMUM SPL: 121dB
TWEETER: K-771 1″ (2.54cm) Light-Weight Polyimide
Diaphragm Compression Driver Mated to
a 90° x 40° Tractrix Horn
MIDRANGE: K-55-X 2” (5.08cm) Phenolic diaphragm
compression driver
WOOFER: K-33-E 15” (38.1cm) Fiber-composite cone
with a folded horn
HEIGHT INCHES (MM): 40” (101.6 cm)
WIDTH INCHES (MM): 24 1/4” (61.59 cm)
DEPTH INCHES (MM): 25 5/16” (64.29 cm)
PRODUCT WEIGHT LBS (KG): 201 lbs (91 kg)
FINISHES: Natural Cherry, Satin Black Ash and American Walnut
โดย La Scala จะมีให้เลือกด้วยกันถึง 3 สี 3 ไลฟ์สไตล์ด้วยกัน ได้แก่ NATURAL CHERRY, SATIN BLACK ASH, AMERICAN WALNUT
![](https://sound-republic.com/wp-content/themes/porto/images/lazy.png)
ในส่วนของแนวเสียง
ด้วยอารมณ์ของความคลาสสิกผสมความวินเทจร่วมสมัย ทำให้น้ำเสียงที่เราได้รับฟังมีความเป็นธรรมชาติอย่างมาก สะอาดใสชัดเจน เข้าถึงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เบสมาเป็นมวลใหญ่ๆ อิ่มตัวสมกับขนาดที่ใหญ่ของตัวตู้ เรียกได้ว่าหากหลับตาฟังเสียงเพลงอคูสติก ที่มีเครื่องดนตรีครบๆ รับรองได้เลยว่า เหมือนได้ฟังวงๆนั้นอยู่ตรงหน้าของคุณเองเลย เสียงกลอง เสียงเบส เสียงกดคีย์บอร์ด เสียงร้องที่ชัดใสจนน่าอัศจรรย์ ได้ฟังแล้วก็คงจะเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรี ยิ่งถ้าได้เครื่องปรุงแต่งที่ดีมาผสมกันด้วย รับรองเลยว่า คุณจะนั่งฟังได้อย่างเพลิดเพลินหลายชั่วโมงแน่นอน ถือว่า La Scala ทำออกมาได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของรูปร่างหน้าตา และน้ำเสียงที่หลายคนฟังแล้วก็ร้องว้าวไปตามๆกัน หลายท่านฟังแล้วก็ติดใจ
![](https://sound-republic.com/wp-content/themes/porto/images/lazy.png)
![](https://sound-republic.com/wp-content/themes/porto/images/lazy.png)
Klipsch La Scala ถือได้ว่าทำออกมาตอบโจทย์มากๆเลยครับ ทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์หน้าตาที่คงไว้ซึ่งความคลาสสิก แต่ยังมีความวินเทจผสมผสานอยู่ เหมือนเป็นการทำแบบร่วมสมัยกันของในยุคก่อนกับยุคปัจจุบัน ซึ่งถือได้ว่าตอบโจทย์เอามากๆเลยนะครับสำหรับหน้าตา ในส่วนของแนวเสียงก็ทำออกมาตอบโจทย์ได้ดีไม่แพ้กัน ทั้งเรื่องของเสียงกลางแหลมที่ได้ยินเสียงร้อง บวกกับเครื่องดนตรีหลากหลายในเพลงนั้นๆ ได้ครบถ้วน ราวกับว่ามีวงดนตรีนั้นๆมาเล่นให้คุณฟังอยู่ตรงหน้า ด้วยลำโพงฮอร์นขนาดใหญ่ที่จะทำให้คุณต้องประหลาดใจ บวกกับแนวคิดของ Paul W.Klipsch ที่มีทัศนคติ และอุดมการณ์ในการที่จะสร้างประสบการณ์อันสุดแสนน่าประทับใจให้กับผู้ฟัง เพราะฉะนั้นแล้วคุณจึงไม่ต้องลังเลย ถ้าหากคุณกำลังมองหาลำโพงสุดแสนจะล้ำค่า กับระดับความ HI END ที่จะหาจากที่ไหนไม่ได้แล้ว Klipsch La Scala ถือว่าตอบโจทย์คุณได้เป็นอย่างดี
ใส่ความเห็น