ทำไมต้อง Dolby Atmos จาก Klipsch ?

หลายคนคงน่าจะเคยได้ยินหรือรู้จักกับเทคโนโลยี Dolby Atmos กันมาบ้างแล้ว ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาค่อนข้างได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง ซึ่งในปัจจุบันได้มีหลากหลายคอนเทนท์ที่รองรับในการเล่นเทคโนโลยีจาก Dolby Atmos อาทิเช่น Blu-ray Disc , UHD Blu-ray หรือแม้กระทั่งในส่วนของ Netflix ก็ยังสามารถสตรีมผ่านระบบ Dolby Atmos ได้อีกด้วย เพื่อการดูหนังที่สมจริงมากยิ่งขึ้น ซึ่งเรามาทำความเข้าใจกันอีกสักครั้งกันก่อนดีกว่ากับ เทคโนโลยี Dolby Atmos

Dolby Atmos คืออะไร?

Dolby Atmos คือ ชื่อของเทคโนโลยีเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง ซึ่งเป็นระบบเสียงเดียวกันกับที่ใช้ในบางโรงภาพยนตร์ ทำให้คุณจะได้ยินเสียงจากรอบทิศทาง หรือแม้แต่บนศีรษะของเราเช่นเสียง เครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ที่บินข้ามศีรษะของเราจากฉากในหนังนั้นเอง ซึ่ง Dolby Atmos ตอบโจทย์ในการดูหนังได้อย่างชัดเจน ซึ่งเสียงที่เราได้ยินนั้นจะถูกส่งตรงมายังผู้นั่งฟังแบบรอบทิศทางหรือ 360 องศาเลยก็ว่าได้ ส่วนลำโพงที่เพิ่มขึ้นนั้นสามารถติดตั้งได้ทั้งบนผนังและบนลำโพงเซอร์ราวด์ ที่ให้ฮอร์นทำหน้าที่ยิงเสียงขึ้นไปบนเพดานและสะท้อนลงมายังผู้ที่นั่งฟัง

Dolby Atmos ได้พัฒนาขึ้นโดย Dolby ในเดือนเมษายนปี 2012 และเผยแพร่ในเดือนมิถุนายนปีนั้น โดยได้เริ่มใช้ในครั้งแรกกับ Disney และ Pixar Animation Studios โดยภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงดังๆก็ได้ แก่ Gravity, Revenant, Mad Max:Fury Road, La La Land, Hacksaw Ridge และ My Little Pony:The movie

ทั้งนี้เมื่อเวลาเราพูดถึงระบบ Dolby Atmos กันแล้ว ซึ่งไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่จะให้ความสมจริงได้เพียงอย่างเดียว แต่เสียงที่ออกมาจากลำโพง ก็ต้องเป็นลำโพงที่ให้ความหนักแน่น ชัดคม สมกับระบบเสียง ซึ่งตรงนี้ต้องบอกเลยว่า ลำโพงจาก Klipsch ไม่ใช่แค่ตอบโจทย์ในด้านของเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่ลำโพงก็ต้องเป็นลำโพงที่ให้เสียงสมจริงด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับฟังให้มากขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งตรงนี้ Klipsch ค่อนข้างตอบโจทย์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

แล้วทำไมเมื่อเลือกที่จะเล่นระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ถึงจะต้องเลือกเล่นลำโพงจาก Klipsch?

หลักการในการออกแบบลำโพง Klipsch ด้วยระบบเทคโนโลยี Tractrix Horn ที่ทาง Klipsch ได้จัดวางทวีตเตอร์ ให้แนวเสียงนั้นยิงตรงไปที่ผู้ฟัง ซึ่งตรงนี้เองเป็นปรัชญาที่สอดคล้องกับระบบ Dolby Atmos ซึ่งดอกลำโพง Horn นั้นช่วยส่งคลื่นย่านความถี่สูงไปยังจุดที่เราต้องการได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะระบบ Dolby Atmos ที่จำเป็นในการยิงเสียงให้สะท้อนขึ้นไปบนเพดานลงมา หรือลำโพงฝังฝ้าที่เป็นการยิงเสียงโดยตรงลงมายังผู้นั่งฟัง เพื่อให้เกิดความสมจริงของเอฟเฟคจากเสียงที่ส่งมาจากด้านบน และต้องการเสียงที่แม่นยำ ซึ่งตรงนี้เลยที่เป็นเหตุผลหลักในการที่จะต้องเลือกเทคโนโลยีTractrix Horn จาก Klipsch ซึ่งทางเรา SoundRepublic.com จะมาแยกรายละเอียดให้ชัดเจนกันมากขึ้นไปอีกกับ เหตุผลที่ทำไมจะต้องเลือกลำโพงจาก Klipsch เมื่อเลือกเล่นระบบเสียงรอบทิศทางอย่าง Dolby Atmos ว่าแล้วอย่ารอช้า ลองไปชมกันเลยครับผม

1.Klipsch ซึ่งเป็นแบรนด์หลัก ในการติดตั้งระบบเสียง Dolby Atmos ในโรงหนังชั้นนำที่อเมริกา ซึ่งทุก 1 ใน 2 ของโรงภาพยนตร์เลือกติดตั้ง Klipsch เพราะ Klipsch ได้มีการถอดรหัสความสำเร็จจากลำโพงโรงภาพยนตร์มาสู่ลำโพง ชุดโฮมเธียเตอร์ ด้วย DNA เดียวกัน

2.Klipsch เป็นรายแรกและรายเดียวในปี(2017) ที่ได้มีสิทธิพิเศษได้ติดโลโก้ Dolby Atmos ก่อนใคร ซึ่งโลโก้ Dolby Atmos จะติดตั้งอยู่ตรงหน้ากากของลำโพง ถือได้ว่าเป็นสิทธิพิเศษและ แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด เป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนซึ่งจะแตกต่างจากลำโพงคู่แข่งแบรนด์อื่น

3.ข้อนี้เป็นข้อที่ทำให้ใครหลายๆคนมั่นใจ และยังคงหลงรักในลำโพงแบรนด์จากอเมริกาอย่าง Klipsch เพราะทางบริษัท Dolby นั้นได้เลือก ลำโพง Klipsch Dolby Atmos ในการใช้เป็นลำโพงเปิดตัวระบบ Dolby Atmos ในงานที่ Las Vegas

4.สำหรับข้อนี้ใครหลายๆคน คงทราบกันดีอยู่แล้ว และคงเป็นอีกหนึ่งในหลายเหตุผลที่ทำให้คนเลือกที่จะมั่นใจในแบรนด์ของ Klipsch นั้นก็คือเทคโนโลยี Tractrix Horn ที่เป็นจุดเด่นของความสมจริงในเรื่องของเสียง ช่วยควบคุมทิศทางของเสียงและมาพร้อมกับประสิทธิภาพสูง ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความสมจริง แม่นยำและตรงจุดในเรื่องของเสียง ซึ่งตรงตามสเป็คที่ Dolby Atmos ต้องการ

5.ด้วยคุณสมบัติ ของลำโพงประสิทธิภาพสูงอย่าง Klipsch ที่มีความผิดเพี้ยนของเสียงที่ต่ำ และยังควบคุมทิศทางของเสียงได้เป็นอย่างดี ตรงนี้เองเป็นปรัชญาในการออกแบบลำโพงของ Klipsch มั่นใจได้เลยว่าลำโพงทุกตัวที่ถูกคิดค้นหรือที่ถูกนำไปใช้งานเป็นลำโพงดูหนัง 100%

6.Klipsch เองไม่ได้มีดีแค่ชื่อเสียง แต่ยังมีรางวัลที่เป็นตัวการันตี เพื่อรับรองทั้งในเรื่องของคุณภาพลำโพง ชุดโฮมเธียเตอร์ ซึ่งรางวัล CES INNOVATION AWARDS 2016, HOME THEATER REVIEW.COM 2015 BEST OF AWARD จะเป็นตัวการันตีให้กับหลายๆคนที่สนใจและหันมาชื่นชอบและหลงรักในตัวของลำโพง Klipsch

7.Klipsch ยังมีลำโพงในส่วนของระบบ Dolby Atmos ให้เลือกตามความต้องการที่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน หรือการจัดวางที่สะดวกต่อการเคลื่อนย้ายของแต่ละคน ซึ่ง Klipsch ได้ตอบโจทย์เป็นอย่างมาก ในการที่มีลำโพงหลากหลายตัวสินค้าให้เลือกใช้งาน อาทิเช่น add-on R-41SA และ RP-500SA ที่เป็นลำโพงตั้งบนเซอร์ราวด์ ซึ่งจะทำหน้าที่ในการยิงเสียงสะท้อนขึ้นไปยังบนเพดานและยิงลงมายังผู้ฟังได้อย่างแม่นยำ หรือใครที่ไม่ต้องการจะตั้งลำโพงให้เกะกะ ท่านก็สามารถที่จะเลือกลำโพงแบบฝังฝ้า ไม่ว่าจะเป็นรุ่น PRO-18RC , PRO-16RC, PRO-14RC, PRO-180RPC, PRO-160RPC หากใครต้องการความกลมกลืน ลำโพงฝังฝ้าจาก Klipsch สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี สุดท้ายจะเป็น ลำโพงตั้งพื้นอย่าง RP-8060FA , R-625FA ที่ถูกพัฒนามาจากรุ่นเดิม ซึ่งจะพิเศษมากยิ่งขึ้น เพราะว่ามีช่องลำโพงที่ยิงเสียงขึ้นสะท้อนไปบนเพดาน เพื่อมอบประสบการณ์ที่สุดพิเศษสำหรับ Dolby Atmos

จบไปแล้วนะครับ กับระบบเทคโนโลยี Dolby Atmos ซึ่งต้องบอกเลยว่า Dolby ได้มีส่วนสำคัญในการยกระดับของระบบเสียงในปัจจุบันเป็นอย่างมากเลยทีเดียวนะครับ เพราะสามารถที่จะสร้างระบบเสียงให้เราได้ยินแทบจะสมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้ ซึ่งทางลำโพง Klipsch เองก็ได้มีการพัฒนาระบบเสียงรอบทิศทางมาอย่างต่อเนื่องตามปรัชญา ซึ่งสอดคล้องกับ Dolby Atmos ทำให้เราหลายๆท่านได้สัมผัสถึงพลังเสียงที่สมจริง ถูกต้องและแม่นยำ ไปกับเสียงของลำโพง Klipsch Reference Premiere Dolby Atmos