fbpx

7 ความเจ๋งที่เหมือนกัน ของ ลำโพงโรงหนัง และ ลำโพง Klipsch Reference Premier

7 ความเจ๋งที่เหมือนกัน ของ ลำโพงโรงหนัง และ ลำโพง Klipsch Reference Premier

Klipsch ได้มีการก่อตั้งขึ้นที่เมืองโฮปรัฐอาร์คันซอในปี 2489 ในชื่อ Klipsch and Associates โดย Paul W. Klipsch กว่า 70 ปีที่ผ่านมาของ Klipsch ได้มีการพัฒนาลำโพง  และนวัตกรรมใหม่มาอย่างต่อเนื่อง  ภายใต้ความหลงใหลในเรื่องของเสียง ที่ต้องการจะสร้างเสียงที่ดีที่สุดออกมา ด้วยเทคโนโลยีในการที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของลำโพงให้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่เราได้รู้จักกันนั้นก็คือ “ฮอร์นโหลด” ที่มาช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพให้สูง และเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างความแตกต่างให้กับ Klipsch ได้อย่างชัดเจน

โดยเทคโนโลยีที่ Klipsch ได้นำมาใช้ก็ประสบความสำเร็จกับลำโพงโรงหนังในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นเบอร์ต้นๆ ของลำโพงโรงหนัง ซึ่งหลังจากที่ประสบความสำเร็จไปแล้วกับลำโพงโรงหนัง ทาง Klipsch ได้เล็งเห็นว่าควรจะนำเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ นำมาพัฒนาใส่ไปในชุดโฮมเธียเตอร์ที่เราได้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งในวันนี้เราได้รวบรวม 7 ความเจ๋งที่เหมือนกันของ ลำโพงโรงหนัง และลำโพง Klipsch Reference Premier ซึ่งจะมีอะไรกันบ้างนั้น เราลองไปชมกันเลยครับ

1.สไตล์เสียง สดชัด สะอาด หนักแน่น เดียวกัน

การที่ Klipsch นำเทคโนโลยี Tractrix Horn 90×90 ที่มีเฉพาะ Klipsch มาใช้กับชุดโฮม แน่นอนว่า แนวเสียงของ Klipsch มีความชัดเจนโดดเด่นทั้งเรื่องของความคมชัดการเก็บรายละเอียด และเสียงเบสที่เป็นเอกลักษณ์อีกหนึ่งอย่างของ Klipsch ซึ่งได้มีการยกตรงนั้นนำมาใส่ในชุดโฮมเธียเตอร์อย่าง Klipsch Reference Premier

2 .มี DNA เดียวกันอยู่

ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ Klipsch Reference Premier จะมี DNA หรือแนวทางต่างๆนาๆที่ถูกพัฒนามาจากลำโพงโรงหนังนำมาถ่ายทอดสู่ลำโพงที่ใช้ในระดับคอนซูมเมอร์ในบ้าน เพราะการที่จะสร้างความสมจริง ให้ความหนักแน่น ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่ลำโพงดูหนังโฮมเธียเตอร์ของ Klipsch จะมีการถอดรหัสรูปแบบและแนวทางของเสียงมาใส่ไว้ในชุด Klipsch Reference Premier

3.ผู้ก่อตั้งเดียวกัน

จากตำนานของ Paul.W.Klipsch ที่เป็นผู้ก่อตั้งและริเริ่มในการจุดประกายลำโพงที่ให้เสียงที่ดีที่สุด โดยผ่านการดำเนินงานที่มีวิสัยทัศน์มองการณ์ไกลที่เล็งเห็นว่า Klipsch มีคุณภาพและเพียบพร้อมในการเดินตลาดและสร้างจุดแตกต่างได้จากแบรนด์อื่นๆที่มีในตลาด ซึ่งในปัจจุบัน Klipsch ก็ยังคงเดินตามแนวคิดของ Paul.W.Klipsch ผู้ที่เป็นตำนานของเครื่องเสียง ชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา

4.Passion เดียวกัน

ลำโพงในโรงหนังต้องการให้เสียงที่ดีที่สุด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราก็ต้องการลำโพงในบ้านที่เสียงที่ดีที่สุดเช่นกัน ด้วย Passion เดียวกันในการให้เสียงที่คุณภาพเสียงที่สมจริง ชัดเจน และส่งอารมณ์ร่วมไปกับผู้ชมไม่ว่าจะในโรงหนังหรือในบ้าน จึงส่งผ่านมายังลำโพง Klipsch โดย Paul.W.Klipsch นั้นเอง เพราะเขามีหลักการคิดที่มุ่งเน้นไปที่เรื่องของคุณภาพเสียงที่ต้องการอยากจะได้เสียงที่ดีที่สุด ส่งผ่านออกมาจากลำโพง ซึ่งแน่นอนว่าด้วยหลักการคิดและนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมา ทำให้ลำโพงทั้งสอง Segment นี้มี Passion ที่เหมือนและคล้ายกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ได้รับฟังรู้สึกประทับใจ

5.ส่วนแบ่งการตลาด#1 เหมือนกัน

จากหลักการที่ Klipsch ได้เดินตามแนวทางของ Paul.W.Klipsch และยังคงรักษามาตรฐานเดิมได้ไว้เป็นอย่างดี ทำให้เจ้าลำโพงทั้ง 2 ตลาดนี้ได้มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ครองมาเป็นอันดับ 1 อย่างยาวนานได้ไม่ยากในสหรัฐอเมริกา และยังคงเป็นหนึ่งในแบรนด์ลำโพงที่เติบโตเร็วที่สุดตลอดกาลและเป็นผู้นำในวงการนี้อย่างไม่ต้องสงสัย

6.เทคโนโลยีเดียวกัน

จากที่เคยกล่าวไปข้างต้นในข้อที่ 1 ด้วยเสียงที่มีสไตล์เดียวกันนั้น ก็มาจากการที่ทาง Klipsch ยังคงเอกลักษณ์ที่เป็นจุดแข็งของ Klipsch เลยนั้นก็คือ Tractrix horn 90×90 ที่ได้มีการนำมาใช้กับลำโพงทุกตัวในปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Klipsch Reference Premier

7. Partner ระดับโลก

ข้อสุดท้ายนี้เลยต้องบอกเลยว่าเป็นความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ Klipsch ที่ได้มีการสะสมชื่อเสียงและคุณภาพของลำโพงมาอย่างยาวนาน ซึ่งทำให้ในปัจจุบันทางแบรนด์ Klipsch ได้มี Partner ระดับโลกที่ทำงานร่วมกันอยู่อย่างมากมาย อาทิเช่น Dolby Atmos, Tidal, Pandora และอื่นๆอีกมากมายตามที่เราจะได้เห็น ซึ่งนี้จึงเป็นจุดที่ทำให้ทุกคนมั่นใจได้ว่า Klipsch มีมาตรฐานและสามารถครองใจคนได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว

ก็จบกันไปแล้วนะครับกับ 7 ความเจ๋งที่เหมือนกัน ของลำโพงโรงหนัง และ ลำโพง Klipsch Reference Premier ต้องบอกเลยนะครับว่า แบรนด์ Klipsch มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในระดับโลก เรียกได้ว่าเวลาใครพูดถึง แบรนด์ลำโพงดูหนัง ลำโพงดูหนัง จะนึกถึงแบรนด์ Klipsch เป็นลำดับต้นๆ ในการเลือกนำมาเป็นตัวที่ถ่ายทอดเสียงและใช้งานเวลาดูหนัง ทำให้ใครหลายๆคนตัดสินใจได้ไม่ยากเลยนะครับ กับการที่ Klipsch ได้นำเทคโนโลยีลำโพงโรงหนัง มาใส่ไว้ในชุดโฮมเธียเตอร์ เพราะความสมจริงที่คุณจะได้ การเก็บรายละเอียดของเสียงอีกมากมาย Klipsch จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เลือกลำโพงดูหนัง ยังไงก็ต้อง Klipsch

Share this post

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *