ประวัติแบรนด์ Klipsch
เสียงอเมริกันระดับตำนานตั้งแต่ปี 1946
Klipsch เป็นบริษัทเครื่องเสียงชื่อดังของอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 1946 โดย Paul W. Klipsch ที่เมืองโฮป รัฐอาร์คันซอ โดย Paul W. Klipsch เป็นวิศวกรอิสระ และผู้บุกเบิกด้านเสียงที่หมกมุ่นกับการสร้างเสียงคอนเสิร์ตสดในห้องนั่งเล่นของเขา เขาประสบความสำเร็จด้วยลำโพง Klipschorn ซึ่งยังคงผลิตมาอย่างต่อเนื่องกว่า 75 ปี และชื่อของเขาได้ไปอยู่ร่วม Hall of Fame ร่วมกับ Alexander Graham Bell และ Thomas Alva Edison ซึ่งมีเพียงไม่กี่รายในโลกในวงการเครื่องเสียง
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา Klipsch ได้ขยายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมตั้งแต่ลำโพงโรงภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ ไปจนถึงลำโพงโฮมเธยเตอร์ ซาวด์บาร์ ลำโพงบลูทูธ ลำโพงติดผนัง หรือ ฝ้าเพดาน ไปจนถึงระบบเสียงกลางแจ้ง ซึ่งผสมผสานนวัตกรรมเข้ากับประวัติศาสตร์อันยาวนาน
Klipsch ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียง
75 ปีแห่งความเชี่ยวชาญ
ด้วยประสบการณ์กว่า 75 ปีในอุตสาหกรรมเครื่องเสียง Klipsch มีความรู้ความชำนาญอันลึกซึ้ง ซึ่ง Klipsch เข้าใจความต้องการเฉพาะของผู้ติดตั้งระบบ และนักเล่นเครื่องเสียง ทำให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ตรงตามมาตรฐานสูงสุด จวบจนถึงปัจจุบัน Klipsch ยังคงยึดหลักการออกแบบโดย Paul W.Klipsch 4 ข้อเสมอมา คือ High Efficiency,Low Distortion (ประสิทธิภาพสูง ความเพี้ยนต่ำ), Wide Dynamic Range (ช่วงไดนามิกกว้าง), Controlled Directivity (การควบคุมทิศทาง), Flat Frequency Response (ความถี่ตอบสนองแบบFlat) วิศวกรของ Klipsch ยังคงยึดหลักปรัชญาของ Paul W.Klipsch กับลำโพงทุกตัวที่ผลิตจนถึงปัจจุบัน
แบรนด์อันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาสำหรับโฮมเธียเตอร์
Klipsch มียอดขายอันดับ 1 ในลำโพงโฮมเธียเตอร์ 15 ปีซ้อน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 13.2% ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นผู้นำของเราในตลาดระบบเสียงบ้าน การยอมรับนี้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของเราในการนำเสนอคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม และนวัตกรรมล้ำสมัยสำหรับประสบการณ์โฮมเธียเตอร์ที่เหนือชั้น เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจในบ้านของคุณ ด้วยเทคโนโลยีเสียงที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
แบรนด์อันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกาสำหรับลำโพงติดผนัง และฝ้าเพดาน
“Klipsch ภูมิใจที่เป็นแบรนด์อันดับ 2 ในลำโพงติดตั้ง (Custom Installation) โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 14% ในลำโพงติดผนัง และฝ้าเพดาน* การยอมรับนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบคุณภาพเสียง และนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมสำหรับโครงการติดตั้ง (Custom Installation)
ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเสียงในโรงภาพยนตร์
1 ใน 2 ของโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกาติดตั้งระบบเสียง Klipsch ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ระดับโลก เช่น Regal Cinemas, Malco Theatres, Harkin Theatres ล้วนติดตั้งลำโพง Klipsch ทั้งสิ้น
และเรานำเทคโนโลยี Tractrix® Horns ที่อยู่ในโรงภาพยนตร์มาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์เสียงที่ทรงพลัง และน่าดื่มด่ำในลำโพงบ้าน ซึ่งรับประกันคุณภาพเสียงระดับสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อม
*Futuresource รายงานตลาดลำโพงเดือนกุมภาพันธ์ 2022
ผลิตภัณฑ์สำหรับทุกความต้องการ
ผลิตภัณฑ์ของ Klipsch มีตั้งแต่ลำโพงโรงภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ ไปจนถึงลำโพงโฮมเธยเตอร์ ซาวด์บาร์ ลำโพงบลูทูธ ลำโพงติดผนัง หรือ ฝ้าเพดาน ไปจนถึงระบบเสียงกลางแจ้ง เป้าหมายของเราคือการมอบประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยมที่สุดในทุกสถานที่ ความหลากหลายนี้ช่วยให้ผู้ติดตั้งสามารถเลือกองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกสภาพแวดล้อม หรือ ความต้องการเฉพาะของลูกค้า
เทคโนโลยี Klipsch เพื่อเสียงที่เหนือกว่า
ที่ Klipsch เรามุ่งมั่นที่จะส่งมอบเสียงที่ดีที่สุด และแม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ Klipsch ถือครองสิทธิบัตร 54 รายการ รวมถึงเทคโนโลยี Tractrix™ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา ซึ่งนำมาใช้ทั้งในลำโพงโฮมเธียเตอร์ และลำโพงติดตั้ง (Custom Installation) เพื่อให้มั่นใจในเสียงที่ชัดเจน และมีรายละเอียด
ข้อดีของ “เทคโนโลยี Tractrix® Horns” คือไม่ว่าคุณจะดูหนัง หรือ ฟังเพลง คุณก็จะได้ยินเสียงเหมือนกับที่ ผู้กำกับ นักดนตรี ซาวน์อินจิเนีย มีความประสงค์ให้ผู้ที่รับชม หรือ แฟนเพลงได้ยินเสียงเดียวกับที่เขาได้ยิน ทำโดยการยิงเสียงจากปากฮอร์นผ่านไปถึงผู้ฟังโดยตรงเพื่อเพิ่มความชัด ไดนามิกเร๊นที่กว้าง และเสียงที่มีพลัง อีกทั้งปากฮอร์นที่ให้ประสิทธิภาพที่สูงมากกว่าลำโพงทั่วไป ไดนามิกเร๊นให้รายละเอียดเสียงที่สมบูรณ์จึงทำให้ไม่ว่าคุณจะหรี่เสียงเบาแต่รายละเอียดครบถ้วน
เทคโนโลยี Klipsch เพื่อการติดตั้งที่ราบรื่น
เราได้พัฒนานวัตกรรมเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์ระดับมืออาชีพของเรา เช่น Securefit™ และ SkyHook™ โดยเฉพาะเทคโนโลยี SkyHook™ ที่ปฏิวัติกระบวนการติดตั้ง ลดเวลาการติดตั้งลงถึง 75% ทำให้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับมืออาชีพในการสร้างผลงานที่สมบูรณ์แบบ
Klipsch ยังได้ร่วมกับ Partner ระดับโลก
Klipsch ยังได้ร่วมกับ Partner ระดับโลกในวงการเช่น THX, Doby Atmos, Live Nation, Alien ware, รวมถึงหนังฟอร์มยักษ์จาก Hollywood เช่น Logan, X-men, Deadpool, War for the Planet of Apes และล่าสุดได้ร่วมงานกับทาง Disney Plus ในซีรีส์ Agatha All Along
ใส่ความเห็น