ไมโครโฟน Wharfedale Pro DM Series Versatile Dynamic Mics

ในโลกของการบันทึกเสียง และการแสดงสด ไมโครโฟนถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะมันคือตัวกลางในการรับเสียงจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้อง เครื่องดนตรี หรือ เสียงพูด แล้วส่งต่อไปยังอุปกรณ์บันทึกหรือเครื่องขยายเสียง หากขาดไมโครโฟนที่ดีและเหมาะสมแล้ว คุณภาพของเสียงที่ได้ก็อาจจะไม่เป็นอย่างที่ต้องการ

หนึ่งในประเภทไมโครโฟนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงคือ “ไมโครโฟนไดนามิกอเนกประสงค์” (Dynamic Microphone) ซึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการ ทำให้มันกลายเป็นทางเลือกแรก ๆ สำหรับนักดนตรี นักร้อง และเหล่าครีเอเตอร์มากมาย

ในบทความนี้ เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่า ไมโครโฟนไดนามิกอเนกประสงค์นั้นมีข้อดีอะไรบ้าง ทำไมถึงเหมาะกับการใช้งานได้หลากหลาย ทั้งบนเวทีคอนเสิร์ต และในห้องอัด รวมถึงเทคนิคในการเลือกไมโครโฟนไดนามิกให้เหมาะกับงานของคุณ เพื่อให้ได้เสียงคุณภาพสูงสมกับเม็ดเงินที่เสียไป

หากคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังมองหาไมโครโฟนสักตัวสำหรับงานอดิเรก หรือเป็นมืออาชีพที่ต้องการไมค์คู่ใจไว้ใช้ในงานต่าง ๆ การทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติอันโดดเด่นของไมโครโฟนไดนามิกจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และเลือกได้ตรงใจที่สุด ไปดูกันเลยครับว่า ไมโครโฟน Wharfedale Pro DM Series Versatile Dynamic Mics เป็นอย่างไร

ไมโครโฟนไดนามิกอเนกประสงค์มีข้อดีอะไรบ้าง

ไมโครโฟนไดนามิกอเนกประสงค์มีข้อดีหลายประการที่ทำให้มันเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักดนตรี นักร้อง และครีเอเตอร์ ดังนี้

1. ทนทานและแข็งแรง: ไมโครโฟนไดนามิกมีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง ทนต่อแรงกระแทกและการใช้งานหนักได้ดี จึงเหมาะสำหรับการใช้งานบนเวทีที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย หรือ ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตร

2. ราคาคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับไมโครโฟนประเภทอื่น ๆ เช่น ไมโครโฟนคอนเดนเซอร์ ไมโครโฟนไดนามิกมักมีราคาถูกกว่า แต่ยังคงให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่งบจำกัด

3. อัตราขยายสูงก่อนเกิดเสียงป้อนกลับ (Feedback): ไมโครโฟนไดนามิกมีคุณสมบัติในการป้องกันเสียงป้อนกลับได้ดี ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับเครื่องขยายเสียงที่มีกำลังสูงได้โดยไม่เกิดหอนหวน

4. ทนต่อเสียงดัง: ด้วยโครงสร้างภายในที่แข็งแรง ไมโครโฟนไดนามิกจึงสามารถจับเสียงที่มีความดังสูงได้ดี โดยไม่เกิดความเพี้ยนหรือผิดเพี้ยนของเสียง เหมาะสำหรับการใช้กับเครื่องดนตรีที่มีเสียงดัง เช่น กลองชุด กีตาร์ไฟฟ้า

5. ป้องกันเสียงลมได้ดี: ไมโครโฟนไดนามิกมักมาพร้อมกับตะแกรงกันลมในตัว ช่วยลดเสียงลมจากการออกเสียงพยัญชนะ “พ”, “ป”, “บ” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้เสียงร้องหรือเสียงพูดที่นุ่มนวล ฟังชัดเจน

6. เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย: เนื่องจากคุณสมบัติที่กล่าวมา ไมโครโฟนไดนามิกจึงสามารถใช้ได้กับแหล่งกำเนิดเสียงที่หลากหลาย ทั้งเสียงร้อง เสียงพูด เสียงกลอง หรือ เครื่องดนตรีอะคูสติก ทั้งบนเวทีและในห้องอัด

7. ใช้งานง่าย: ไมโครโฟนไดนามิกไม่จำเป็นต้องใช้แหล่งจ่ายไฟแฟนทอมเหมือนไมโครโฟนบางประเภท ทำให้ติดตั้งและใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หรือปลั๊กไฟ

ด้วยข้อดีที่หลากหลายเหล่านี้ ไม่แปลกใจเลยที่ไมโครโฟนไดนามิกยังคงเป็นตัวเลือกแรก ๆ ของผู้ใช้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ ด้วยความเป็นอเนกประสงค์และความคุ้มค่าของมัน ทำให้การลงทุนในไมโครโฟนไดนามิกเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดสำหรับทุกคน

เทคนิคในการเลือกไมโครโฟนไดนามิกให้เหมาะกับการใช้งาน

1. พิจารณารูปแบบการรับสัญญาณ (Polar Pattern): ไมโครโฟนไดนามิกมีหลายรูปแบบ เช่น คาร์ดิออยด์ (Cardioid), ซูเปอร์คาร์ดิออยด์ (Supercardioid) และไฮเปอร์คาร์ดิออยด์ (Hypercardioid) ซึ่งมีคุณสมบัติในการรับเสียงที่แตกต่างกัน เช่น คาร์ดิออยด์จะรับเสียงจากด้านหน้าได้ดีที่สุด ขณะที่ซูเปอร์และไฮเปอร์คาร์ดิออยด์จะรับเสียงด้านข้าง และด้านหลังได้น้อยลง เหมาะสำหรับการใช้บนเวทีที่มีเสียงสะท้อนมาก

2. คำนึงถึงย่านความถี่ที่ไมโครโฟนตอบสนอง (Frequency Response): ไมโครโฟนไดนามิกแต่ละรุ่นจะมีการตอบสนองต่อความถี่เสียงที่แตกต่างกัน บางรุ่นเน้นเสียงกลางและเสียงสูงเพื่อความชัดเจนของเสียงร้อง ขณะที่บางรุ่นเน้นเสียงทุ้มเพื่อเสียงเครื่องดนตรีที่หนักแน่น เลือกให้เหมาะกับแหล่งกำเนิดเสียงหลักที่คุณต้องการบันทึก

3. ดูความไวในการรับสัญญาณ (Sensitivity): ไมโครโฟนที่มีความไวสูงจะสามารถรับเสียงที่มีระดับเบาได้ดี แต่ก็มีโอกาสเกิดเสียงป้อนกลับได้ง่ายเช่นกัน ขณะที่ไมโครโฟนที่มีความไวต่ำจะทนต่อเสียงดังได้ดีกว่า เหมาะสำหรับเครื่องดนตรีที่มีเสียงดัง เช่น กลองชุด กีตาร์แอมป์

4. ลองฟังตัวอย่างเสียงจากหลายๆ รุ่น: ไมโครโฟนไดนามิกแต่ละรุ่นจะมีลักษณะเสียง (Sound Character) ที่แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งบางครั้งก็เป็นเรื่องของรสนิยมส่วนบุคคล ลองหาตัวอย่างเสียงจากไมโครโฟนหลายๆ รุ่นมาเปรียบเทียบกัน แล้วเลือกรุ่นที่ถูกใจที่สุด หรือลองยืมไมค์จากเพื่อนมาทดสอบ

5. เช็คความแข็งแรงและอุปกรณ์เสริม: สำหรับการใช้งานหนัก เช่น บนเวทีคอนเสิร์ต ให้เลือกไมโครโฟนที่มีโครงสร้างแข็งแรง ทนทาน รวมถึงมีอุปกรณ์เสริมที่จำเป็น เช่น ที่จับไมค์ สายไมค์คุณภาพดี และกล่องใส่ไมค์ที่กันกระแทก

6. พิจารณางบประมาณและความคุ้มค่า: ไมโครโฟนไดนามิกมีตั้งแต่รุ่นราคาประหยัดไปจนถึงรุ่นราคาสูง ให้เลือกรุ่นที่อยู่ในงบประมาณและตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด โดยดูจากคุณสมบัติและรีวิวจากผู้ใช้จริง อย่างไรก็ตาม ไมโครโฟนราคาแพงที่สุดอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป

โดยสรุป การเลือกไมโครโฟนไดนามิกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ควรคำนึงถึงคุณสมบัติทางเทคนิค รูปแบบการใช้งาน รสนิยมส่วนบุคคล และงบประมาณ การเลือกไมค์ให้เหมาะสมจะช่วยให้คุณบันทึกหรือขยายเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะอยู่ในห้องอัดหรือบนเวทีการแสดงสดก็ตาม

ไมโครโฟน Wharfedale Pro DM5.0s Versatile Dynamic Mics

– โครงสร้างทำจากซิงค์อัลลอยด์

– สร้างมาเพื่อทนทานต่อการใช้งานหนัก

– สวิตช์เปิด/ปิดแบบ Long throw พร้อมการสลับเปลี่ยนแบบเงียบ

– คุณสมบัติการป้องกันสัญญาณรบกวนนอกแกนเพื่อลดผลตอบสนองย้อนกลับ (Feedback)

– เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้กับเสียงร้อง กีตาร์ กลอง

ไมโครโฟนไดนามิก DM5.0s เป็นไมค์อเนกประสงค์ที่เหมาะสำหรับทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นกลอง กีตาร์ และเสียงร้อง ซึ่งไมโครโฟนไดนามิก DM5.0s ก็ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม! นอกจากนี้ยังถูกสร้างมาเพื่อให้เสียงโดดเด่นในการมิกซ์ สำหรับการแสดงสดที่มีรายละเอียดของเสียงร้อง ความสามารถในการรับ SPL สูงร่วมกับรูปแบบการรับสัญญาณเสียงแบบ super cardioid หมายความว่าไมโครโฟนสามารถให้อัตราขยายสูงก่อนเกิดการตอบสนองย้อนกลับ (Feedback) และให้อัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน (signal to noise ratio) สูง

ไมโครโฟนนี้ยังมาพร้อมกับสวิตช์เปิด/ปิด ซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีการสลับเปลี่ยนแบบเงียบระหว่างการแสดง

ไมโครโฟน Wharfedale Pro DM-57 Versatile Dynamic Mics

– โครงสร้างทำจากซิงค์อัลลอยด์

– สร้างมาเพื่อทนทานต่อการใช้งานหนัก

– สวิตช์เปิด/ปิดแบบ Short throw พร้อมการสลับเปลี่ยนแบบเงียบ

– ดีไซน์สีสันที่ดึงดูดใจ (ตัวไมค์สีดำ / ตะแกรงครอบไมค์สีเงิน)

– เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้กับเสียงร้อง กีตาร์ กลอง

ไมโครโฟนรุ่นใหม่นี้ใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์เช่นเดียวกับ DM5.0s รุ่นคลาสสิก แต่มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ที่สดใส ได้แก่ตัวไมค์สีดำ สวิตช์ Short throw สีเหลือง และตะแกรงครอบไมค์สีเงิน ไมโครโฟนที่ให้เสียงดีเยี่ยม เป็นไมค์อเนกประสงค์ที่เหมาะสำหรับเสียงร้อง กีตาร์ กลอง ไม่ว่าจะบนเวที หรือ อีเว้นท์ DM-57 จะมอบเสียงที่ยอดเยี่ยม และดีไซน์ที่สวยงาม พร้อมใช้งานได้ตลอดอายุการใช้งาน

รายละเอียดของไมโครโฟน Wharfedale Pro DM-57 Versatile Dynamic Mics

– ไมโครโฟนประเภท Dynamic
– การตอบสนองความถี่ 50Hz – 12kHz
– Polar pattern Unidirectional
– Output impedance 600Ω
– Sensitivity -51dB (0dB = 1v / Pa)
– Off axis rejection >20dB at 180°
– Maximum SPL >135dB
– Cable / connector (Mic) 3-pin gold plated XLR male
– Polarity Pin 2 positive (relative to Pin 3)
– Cable included XLR male to XLR female
– Housing Zinc Alloy
– Weight 300g

เป็นอย่างไรบ้างครับ หากคุณเป็นมือใหม่ที่กำลังมองหาไมโครโฟนสักตัวสำหรับงานอดิเรก หรือเป็นมืออาชีพที่ต้องการไมค์คู่ใจไว้ใช้ในงานต่าง ๆ การทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติอันโดดเด่นของไมโครโฟนไดนามิกจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และเลือกได้ตรงใจที่สุด ซึ่งไมโครโฟน Wharfedale Pro DM Series Versatile Dynamic Mics นั้นอาจจะตอบโจทย์คุณ

ช้อปสินค้า : https://shopee.co.th/soundrepublic